Savic Electric มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติออสเตรเลียแบรนด์แรกเดินหน้าผลิตแล้วหลังรัฐบาลหนุนเต็มที่!
Savic คือแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน้องใหม่จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งหลังจาก Dennis Savic ผู้ก่อตั้งแบรนด์ได้ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้พวกเขาได้ระดมเงินทุนในการผลิตรถรุ่นดังกล่าวได้แล้วกว่า 1.02 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้ในการเริ่มต้นผลิตรถมอเตอร์ไซค์ของทางค่าย
ซึ่งเม็ดเงินครั้งนี้ในส่วนใหญ่ Dennis Savic บอกว่าได้มาจากรัฐบาลของพวกเขาเอง ซึ่งเป็นโครงการของทางภาครัฐที่เป็นโครงการลงทุนเร่งรัดภาษีเพื่อช่วยในการเปิดตัว และสร้างธุรกิจใหม่ในออสเตรเลีย
โดยทาง Savic ตั้งใจที่จะผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า C-Series 3 รุ่นเพื่อให้ทันส่งมอบในช่วงปลายปี 2022 นี้ โดยในรุ่นพื้นฐานระดับเริ่มต้นจะมีราคาอยู่ที่ $9,500 USD ประมาณ 315,400 บาทไทย โดยในรุ่นเริ่มต้นตัวรถจะมาพร้อมมอเตอร์ที่มีกำลัง 33.5 hp (25 kW) หรือเทียบเท่าได้กับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดความจุ 300 ซี.ซี.
และในรุ่นสูงขึ้นจะเป็นรุ่น C-Series Alpha ซึ่งมาพร้อมมอเตอร์ขนาด 80hp (60kw) โดยสามารถสร้างแรงบิดได้มากถึง 200 นิวตันเมตร
ซึ่งเทียบเท่าได้กับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางในท้องตลาดอย่างเช่น Yamaha MT-07 โดยในรุ่นนี้จะมีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 17,500 USD (581,175 บาท) และ 12,400 USD (411,804 บาท)
โดยมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตออกมาในครั้งนี้จะมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันคือ Omega , Delta และ Alpha ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีแบตเตอรี่ขนาดต่างกัน
พร้อมส่งมอบความเร็วแตกต่างกันที่ 120 , 150 และ 200 กม./ชม. ซึ่งรถจากทางค่ายสามารถเร่งทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.5-5.5 วินาทีเท่านั้นขึ้นอยู่กับรุ่น
ซึ่งตัวรถทั้ง 3 รุ่นจะมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 16kw-hour ซึ่งสามารถทำให้ตัวรถวิ่งได้ไกลประมาณ 250 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง
ซึ่งการชาร์จแบตเตอรี่เต็มแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 2-4 ชม. ขึ้นอยู่กับรุ่นของตัวรถ
และในตอนนี้ทาง Savic เองก็กำลังร่วมมือกับ Bosch เพื่อสร้างระบบเบรก ABS สำหรับรถทั้ง 3 รุ่นนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ทาง Savic ยังได้พูดอีกว่าในเบื้องต้นพวกเขาจะวางจำหน่ายรถรุ่นนี้ภายในประเทศออสเตรเลียก่อน และหลังจากนั้นจึงจะเริ่มวางแผนจำหน่ายไปยังส่วนอื่น ๆ ของโลกต่อไป
และนี่จะถือเป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์แบรนด์แรกของประเทศออสเตรเลียที่ถูกสร้าง และผลิตขึ้นภายในประเทศทั้งหมด
ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าพวกเขานั้นได้รับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลที่ดี จึงทำให้พวกเขาสามารถเริ่มต้นพัฒนา และผลิตรถออกวางจำหน่ายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเราเองก็อยากให้ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตไปเช่นนี้บ้าง