ลองขี่ 2022 BMW S 1000 R เน็คเก็ตไบค์สายพันธุ์ฉลามรุ่นล่าสุด!

ลองขี่ 2022 BMW S 1000 R เน็คเก็ตไบค์สายพันธุ์ฉลามรุ่นล่าสุด!

หากให้พูดถึงรถมอเตอร์ไซค์เน็คเก็ตไบค์เรือธงจากฝั่งค่ายใบพัดสีฟ้าอย่าง BMW หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตา หรือคุ้นหูกับเจ้า BMW S 1000 R เท่าไหร่นัก เพราะด้วยความที่ฉลามสายสปอร์ตอย่าง BMW S 1000 RR ที่ได้รับความนิยมมากกว่าบนท้องถนนในประเทศไทย ดังนั้นในวันนี้เราจึงอยากจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับเจ้าฉลามพลิ้วอย่าง 2022 BMW S 1000 R คันนี้กันให้มากขึ้น ว่ามันก็มีดีที่ไม่แพ้เจ้าฉลามซิ่งอย่าง BMW S 1000 RR กันเลย

• หน้าตาใหม่แต่หล่อเหมือนเดิม
• ขุมพลังสุดแรงจาก DNA S 1000 RR
• เทคโนโลยีใส่มาให้แบบจุก ๆ
• ระบบกันสะเทือน และระบบเบรกติดรถเอาอยู่
• ลองขี่แล้วรักเลย
• 2022 BMW S 1000 R เหมาะกับใคร

หน้าตาใหม่แต่หล่อเหมือนเดิม

แน่นอนว่าสิ่งที่โดดเด่น และทำให้ใครต่อใครหลายคนจดจำเจ้า BMW S 1000 R โฉมเก่าได้นั้นก็คือชุดไฟด้านหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ เพราะไฟด้านซ้าย และขวานั้นมาพร้อมหน้าตาที่ไม่เหมือนกันจนทำให้หลายคนเรียกมันว่าไฟตาเหล่นั่นเอง แต่สำหรับ 2022 BMW S 1000 R นั้นตัวรถได้มาพร้อมกับชุดไฟ LED ด้านหน้าแบบใหม่แล้วซึ่งใช้เป็นเป็นชุดโคมเดี่ยวที่มาพร้อมไฟสูง และต่ำในตัวพร้อมด้วยไฟ Day Time Running Lift คาดผ่านตรงกลางพร้อมด้วยความใส่ใจด้วยการใส่สัญลักษณ์รูปตัว R เอาไว้ภายในชุดไฟด้านหน้าอีกด้วย นอกจากนี้ตัวไฟยังได้มาพร้อมกับระบบ Adaptive ที่ปรับทิศทางการส่องสว่างบนถนนได้ตามองศาการเข้าโค้งของเรา ซึ่งช่วยให้การขับขี่โดยเฉพาะในเวลากลางคืนมีความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้น

ถัดมาหลังชุดไฟ  2022 BMW S 1000 R ได้มาพร้อมกับหน้าจอเรือนไมล์ TFT ขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลของตัวรถเอาไว้อย่างครบถ้วนพร้อมใช้งานเรียกดูข้อมูลได้อย่างง่ายดายผ่านปุ่มมัลติคอนโทรลเลอร์ และยังมาพร้อมการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธเพื่อเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น อย่าง BMW Connected Drive เพื่อเรียกดูข้อมูลต่าง ๆ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือของเราได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งสามารถเรียกระบบนำทางขึ้นสู่หน้าจอเรือนไมล์ของตัวรถได้อย่างง่ายดาย ส่วนท้ายของ 2022 BMW S 1000 R ใหม่ก็มาพร้อมงานดีไซน์ให้ปราดเปรียวยิ่งขึ้น เพราะการย้ายตำแหน่งไฟเบรกไปรวมไว้กับไฟเลี้ยวด้านหลังทำให้ตัวรถสามารถโชว์ส่วนท้ายได้แบบเต็ม ๆ

ขุมพลังสุดแรงจาก DNA S 1000 RR

สำหรับ 2022 BMW S 1000 R ถูกถ่ายทอดขุมพลังเครื่องยนต์สุดแรงมาจากสปอร์ตไบค์เรือธงอย่าง S 1000 RR ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 999 ซี.ซี. แบบ 4 สูบเรียง 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ กับเครื่องยนต์ที่พร้อมส่งมอบขุมพลัง 165 แรงม้าที่ 11,000 รอบ/นาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 114 นิวตันเมตรที่ 9,250 รอบ/นาที โดยทาง BMW ได้มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของช่วงความเร็วเครื่องยนต์ให้กว้างขึ้น แน่นขึ้น เพื่อให้เหมาะกับสไตล์ของตัวรถที่เป็นโรดสเตอร์ไบค์ที่เน้นไปที่การขับขี่ใช้งานภายในเมืองที่สะดวกสบายมากกว่าทาง S 1000 RR นอกจากนี้ตัวรถยังได้มาพร้อมอัตราทดเกียร์ 4 , 5 และ 6 ที่ยาวขึ้นเล็กน้อยเพื่อลดระดับเสียงรบกวน และลดการใช้เชื้อเพลิงลง เพื่อให้ตัวรถเหมาะกับการขับขี่ใช้งานภายในเมือง หรือตามเขตชนบทนั่นเอง

เทคโนโลยีใส่มาให้แบบจุก ๆ

ต้องบอกเลยว่าในแง่ของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่บนตัวรถนั้น 2022 BMW S 1000 R จัดมาให้แบบจุก ๆ ไม่ว่าจะเป็น

-Dynamic Traction Control (DTC) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว

-โหมดการขับขี่ "Rain" และ "Road" และ Dynamic และ Dynamic Pro

- MSR ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง

-ระบบควบคุมการออกตัว

-ระบบควบคุมการยกของล้อหน้า

- Pitlane Limiter ระบบควบคุมความเร็วขณะเข้าพิท

- ระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC ช่วยให้เบรกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการตัดกำลังของเครื่องยนต์เมื่อเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้รถมีระยะเบรกสั้นลง

ระบบกันสะเทือน และระบบเบรกติดรถเอาอยู่

2022 BMW S 1000 R มาพร้อมโช้คอัพด้านหน้าแบบ Up Side Down ขนาด 45 มม. ที่สามารถปรับตั้งค่า Compression , Rebound Stage และ Preload ได้เต็มรูปแบบ ส่วนด้านหลังมาพร้อม Mono Shock ที่สามารถปรับตั้งค่า Compression and Rebound Damping และ Preload 

ในส่วนของระบบเบรกด้านหน้ามาพร้อมจานดิสก์เบรกคู่ขนาด 320 มม. ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรก 4 พอร์ตจาก Brembo และด้านหลังมาพร้อมจานดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มม. ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์แบบ 1 พอร์ตจาก Brembo เช่นเดียวกัน พร้อมเสริมความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบเบรก ABS Pro

ลองขี่แล้วรักเลย

สำหรับ 2022 BMW S 1000 R ครั้งแรกที่เราได้เห็นตัวรถต้องบอกเลยว่าตัวรถจริงสวยมาก ๆ ทั้งในแง่ของงานดีไซน์ งานประกอบ และการออกแบบ ตัวรถมาพร้อมเส้นสายของแฟริ่งที่โฉบเฉี่ยว ที่ทุกส่วนถูกคิดค้นมาด้วยหลักอากาศพลศาสตร์เป็นอย่างดีไม่ได้มีแค่เพียงความสวยงามเท่านั้น ส่วนหน้าตาใหม่ที่มาพร้อมไฟหน้าแบบดวงเดียวนั้นก็ยังคงดูดุดันสมกับเป็นทายาทฉลามเช่นเดิม

มาต่อกันด้วยท่าทางในการขับขี่ที่ตัวรถมาพร้อมแฮนด์บาร์ทรงกว้าง พร้อมตำแหน่งวางเท้าที่สูงแบบรถสปอร์ตมันทำให้ท่าทางเมื่อขึ้นคร่อมบนเจ้า S 1000 R คันนี้ดูเท่มาก ๆ แต่กลับกันตัวรถเมื่อเป็นเน็คเก็ตไบค์ทำให้เราไม่ต้องหมอบก้มต่ำแบบรถสปอร์ต ทำให้การใช้งานภายในเมืองทำได้แบบสบาย ๆ ท่าทางการขับขี่ที่เป็นมิตรขึ้น และไม่เมื่อยเท่าสปอร์ตไบค์อย่าง S 1000 RR เมื่อต้องขับขี่ใช้งานภายในเมืองที่มีการจราจรติดขัด แถมตัวรถยังให้ความคล่องตัวสูง สามารถบังคับเลี้ยวตัวรถมุดผ่านซอกซอยต่าง ๆ หรือการจราจรที่หนาแน่นภายในเมืองใหญ่ได้แบบสบาย ๆ 

ส่วนขุมพลังเครื่องยนต์ที่ให้มานั้นคงไม่ต้องพูดอะไรมากมาย เพราะมันเหลือเฟืออยู่แล้วทั้งการใช้งานภายในเมือง หรือการเดินทางออกต่างจังหวัด ซึ่งภายในเมืองแค่เกียร์ 1 เกียร์เดียวคุณก็สามารถทำความเร็วจาก 0-140 กม./ชม. ได้แบบสบาย ๆ แถมด้วยชุดเกียร์แบบควิกชิพเตอร์ที่ให้มานั้นสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหล และนุ่มนวล ซึ่งทำให้เราสามารถขับขี่เจ้า 2022 BMW S 1000 R คันนี้ได้อย่างง่ายดาย และสนุกขึ้นอีกเยอะ ยิ่งเมื่อมันถูกผสานเข้ากับเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ผ่านโหมดการทำงานต่าง ๆ ที่ให้มายิ่งทำให้เราควบคุม S 1000 R คันนี้ได้อย่างมั่นใจในทุกย่านความเร็ว นอกจากนี้ช่วงล่างของตัวรถ และระบบเบรกที่ให้มานั้นสามารถทำงาน และใช้งานได้เป็นอย่างดีเรียกได้ว่าของติดรถเดิม ๆ ที่ให้มาก็เพียงพอแล้วสำหรับเรา

2022 BMW S 1000 R เหมาะกับใคร

หากถามเราว่า 2022 BMW S 1000 R เหมาะกับใครเราบอกได้เลยว่ามันเหมาะกับคนที่รักความเร็ว และชอบในรถสปอร์ตไบค์แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากได้รถที่ขี่แล้วต้องเมื่อยล้า ซึ่งเจ้า S 1000 R คันนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการนั้นเพราะมันยังคงมีความเร็วความแรงแบบรถสปอร์ต แต่ในขณะเดียวกันมันมาพร้อมท่าทางการขับขี่แบบหลังตรงซึ่งทำให้ไม่เมื่อยเมื่อขับขี่

แต่ข้อเสียของมันก็อย่างที่เรารู้กันว่ารถเน็คเก็ตไบค์นั้นเมื่อต้องขับขี่เดินทางไกลด้วยความเร็วสูงตัวของเราจะปะทะกับแรงลมแบบเต็ม ๆ ซึ่งนั่นทำให้เราเมื่อยล้าอย่างแน่นอน แต่ตรงจุดนี้เราคิดว่าเป็นสิ่งที่เหล่าไบค์เกอร์รู้กันดีอยู่แล้วสำหรับรถสไตล์นี้ แต่หากคุณรับได้เรากล้าบอกเลยว่า 2022 BMW S 1000 R คันนี้เป็นรถที่เพียบพร้อมไปด้วยขุมพลัง เทคโนโลยี รวมไปถึงงานดีไซน์ภายนอกที่หล่อเหล่าเอาการเลยทีเดียว ด้วยราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 789,000 บาทเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม : 2023 BMW S 1000 RR ฉลามติดปีกมาถึงเมืองไทยแล้ว

อ่านเพิ่มเติม : 2021 BMW S 1000 R เน็คเก็ตไบค์สายโหด

อ่านเพิ่มเติม : 2023 BMW M 1000 RR ฉลามตัวท็อปแรงกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว