รีวิว Triumph Speed Twin 1200
![รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี. 01]()
รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี.
หากให้พูดถึงรถจากค่ายผู้ดีอังกฤษอย่าง Triumph เราเชื่อว่าทุกคนคงจะรู้จัก Triumph ในฐานะของรถคลาสสิคที่ร่วมสมัยไม่ว่าจะเป็น Triumph Bonneville T100 , Triumph Scrambler และมาถึงรุ่นปัจจุบันอย่าง Triumph Speed Twin 1200 ที่เราได้นำมาทดสอบขับขี่กันในวันนี้
- รูปลักษณ์ร่วมสมัยตลอดกาล
- ขุมพลังพิกัด 1,200 ซี.ซี.
- ระบบกันสะเทือน และระบบเบรก
- ขี่ง่าย คล่องตัว เครื่องยนต์มีให้ใช้แบบเหลือ ๆ
- สรุป Triumph Speed Twin 1200
![รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี. 02]()
Triumph Speed Twin 1200
รูปลักษณ์ร่วมสมัยตลอดกาล
สำหรับหน้าตาภายนอกของ Triumph Speed Twin 1200 นั้นต้องบอกเลยว่าเป็นอะไรที่คลาสสิค แต่แฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างครบครัน ซึ่งสมแล้วกับความเป็นรถจากค่ายมอเตอร์ไซค์อย่าง Triumph โดยตัวรถยังคงโดดเด่นมาด้วยชุดไฟทรงกลมด้านหน้าทรงกลมขนาดใหญ่สุดคลาสสิค
![รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี. 03]()
ไฟหน้าทรงคลาสสิคที่เราคุ้นตา
กับเรือนไมล์ทรงกลมแบบคู่ที่มาพร้อมระบบอนาล็อก และหน้าจอดิจิตอล LCD ซึ่งผสมผสานกันไว้ได้อย่างลงตัว ตัวรถมาพร้อมแฮนด์บาร์ทรงกว้างพร้อมกระจกปลายแฮนด์สุดเท่ แถมมาด้วยเบาะนั่งแบบตอนเดียวยาวทรงคลาสสิค พร้อมตัวถังน้ำมันใบงามขนาดความจุ 14.5 ลิตร
![รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี. 01]()
เรือนไมล์ผสมผสานได้อย่างลงตัว
ขุมพลังพิกัด 1,200 ซี.ซี.
เห็นเจ้า Triumph Speed Twin 1200 คันเล็ก ๆ รูปทรงคลาสสิคแบบนี้แต่ทว่าตัวรถกลับมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซี.ซี. สูบคู่ SOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ กับขุมพลัง 100 แรงม้าที่ 7,250 รอบ/นาที พร้อมด้วยแรงบิด 112 นิวตันเมตรที่ 4,250 รอบ/นาที ที่ส่งกำลังขับเคลื่อนผ่านระบบโซ่โอริงกับชุดเกียร์แบบ 6 สปีด ที่มาพร้อมท่อไอเสียแบบคู่ออกซ้ายขวาทรงสวย
![รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี. 02]()
ขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1,200 ซี.ซี.
ระบบกันสะเทือน และระบบเบรก
Triumph Speed Twin 1200 มาพร้อมโช้คอัพหน้า Up Side Down ขนาด 43 มม. จาก Marzocchi ที่มาพร้อมระยะยุบ 120 มม. ส่วนด้านหลังมาพร้อมโช้คอัพคู่ที่สามารถปรับตั้งค่าพรีโหลดได้ กับระยะยุบ 120 มม. เช่นเดียวกัน
![รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี. 03]()
โช้คหน้าหัวกลับจาก Marzocchi
ในส่วนของระบบเบรกด้านหน้ามาพร้อมจานดิสก์เบรกคู่ขนาด 320 มม. ที่ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกจาก Brembo M50 แบบ 4 พอต ส่วนด้านหลังมาพร้อมจานดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220มม. ที่ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกจาก Nissin แบบ 2 พอต พร้อมเสริมความปลอดภัยด้วยระบบเบรก ABS
![รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี. 04]()
คาลิปเปอร์หน้า Brembo M50
ขี่ง่าย คล่องตัว เครื่องยนต์มีให้ใช้แบบเหลือ ๆ
Triumph Speed Twin 1200 สำหรับเรานั้นในแง่ของการออกแบบเราไม่ติอะไร เพราะนี่คือรถที่บ่งบอกว่ามันคือ Triumph ได้อย่างชัดเจนที่สุด ตัวรถมีกลิ่นอายของความคลาสสิคแบบครบถ้วน แถมยังมาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้นซึ่งเรามองว่ามันเป็นการผสมผสานความร่วมสมัยที่ลงตัวมาก ๆ ซึ่งทาง Triumph ได้ทำการบ้านตรงจุดนี้เอาไว้เป็นอย่างดี
![รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี. 05]()
ภาพลักษณ์ที่เราคุ้นเคย
ส่วนต่อมาในแง่ของมิติตัวรถ และท่าทางการขับขี่ Triumph Speed Twin 1200 เป็นรถมอเตอร์อีก 1 คันที่มาพร้อมความสูงเบาะนั่งเพียง 809 มม. เท่านั้นซึ่งทำให้ส่วนสูงของคนเอเชียอย่างเราสามารถนั่งแบบเท้าวางเต็มพื้นได้แบบสบาย ๆ และด้วยแฮนด์บาร์ทรงกว้างสไตล์เน็คเก็ตไบค์ที่ให้มาก็ช่วยให้ท่าทางการขับขี่ของเราไม่ก้มต่ำจนเกินไป ค่อนข้างไปทางหลังตรงด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นช่วยให้ Triumph Speed Twin 1200 คันนี้มาพร้อมท่าทางการนั่งที่สะดวกสบายอีก 1 คันเลยก็ว่าได้
![รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี. 06]()
ท่าทางการขับขี่ที่สบายสุด ๆ
มาต่อกันในส่วนของขุมพลังเครื่องยนต์บล็อก 2 สูบขนาด 1,200 ซี.ซี. นั้นถือว่าให้มาเกินตัวมาก ๆ เมื่อเทียบกับมิติของตัวรถ ซึ่งเอาจริง ๆ เมื่อเราได้เห็นมิติตัวรถครั้งแรกนั้นเรายังแอบตกใจเลยว่ารถคันแค่นี้แต่มีเครื่องยนต์พิกัด 1,200 ซี.ซี. เลยเหรอ แต่เมื่อได้ลองขับขี่จริง ๆ เครื่องยนต์ของ Triumph ยังคงเป็นเครื่องยนต์ที่สุภาพ นุ่มนวล รอบเครื่องยนต์มาแบบเรื่อย ๆ ไม่ปรู๊ดปร๊าดมาก
![รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี. 07]()
คันแค่นี้แต่ให้เครื่องยนต์มา 1,200 ซี.ซี.
แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับการใช้คันเร่งของคุณ และโหมดการขับขี่ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณเปิดคันเร่งแบบหนักมือขุมพลังแรงม้าทั้ง 100 ตัวก็พร้อมตอบสนองให้คุณได้มันในทันทีซึ่งตรงนี้เรามองว่ามันเป็นอะไรที่ครบเครื่องมาก ๆ คือคุณจะขับขี่ชิว ๆ สบาย ๆ แบบรถคลาสสิคก็ได้ หรือเมื่อไหร่อย่างซึ่งแบบรถสปอร์ตไบค์สมัยใหม่ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ซึ่งตรงนี้เองทาง Triumph Speed Twin 1200 ได้ให้โหมดการขับขี่เอาไว้ให้ได้ปรับใช้ถึง 3 โหมดด้วยกันคือ Rain , Road และ Sport ซึ่งสไตล์การขับขี่เราเป็นแบบไหนก็เลือกใช้ได้เลย
![รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี. 08]()
ขุมพลังเครื่องยนต์มีให้ใช้งานแบบเหลือ ๆ
ต่อมาในส่วนของช่วงล่าง และระบบเบรกที่ทาง Triumph ให้มานั้นถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานสำหรับการขับขี่ใช้งานแบบทั่วไปแล้ว เพราะช่วงล่างที่สามารถปรับพรีโหลดได้ รวมถึงคาลิปเปอร์เบรกจาก Brembo ที่ให้มาพร้อมจานดิสก์เบรกคู่นั้นสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ตัวโช้คอัพมีความนุ่มนวลไม่ย้วยจนเกินไปแม้ต้องเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงก็มั่นใจ ส่วนการทำงานของระบบเบรก ABS ก็ช่วยให้เรามั่นใจมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องหยุดรถแบบกะทันหัน หรือใช้งานเบรกแบบหนัก ๆ
![รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี. 09]()
โช้คอัพด้านหลังปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ
สรุป Triumph Speed Twin 1200
เรามองว่าสำหรับตัวรถอย่าง Triumph Speed Twin 1200 คันนี้มันเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในสไตล์รถคลาสสิค แต่ต้องการสมรรถนะของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และระบบเบรกที่ทันสมัย และสามารถตอบสนองต่อการขับขี่ได้อย่างฉับไว และทันท่วงที ซึ่งมันช่วยให้คุณสามารถขับขี่ Triumph Speed Twin 1200 ได้อย่างสนุกสนาน
![รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี. 10]()
โมเดิร์นคลาสสิคที่ลงตัวสุด ๆ
เพราะตัวรถนั้นสามารถบังคับเลี้ยวได้อย่างคล่องตัว และง่ายดาย รวมถึงมิติตัวรถที่เล็กทำให้คุณสามารถใช้งานในเมืองได้อย่างง่ายดาย หรืออยากออกไปท่องเที่ยวเดินทาง Triumph Speed Twin 1200 คันนี้ก็สามารถพาคุณเดินทางไปได้เช่นเดียวกันด้วยราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยที่ 579,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม : ลองขี่ Triumph Street Triple 765 RS ขุมพลังเครื่องยนต์ Moto2 มันจะขนาดไหน
อ่านเพิ่มเติม : แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก่อนวางจำหน่ายไทย
อ่านเพิ่มเติม : เปิดตำนาน 120 ปีแบรนด์ผู้ดีอังกฤษ Triumph กว่าจะมาถึงทุกวันนี้