![ในที่สุดก็มากับ Triumph พิกัด 400 ซี.ซี. ครั้งแรกของโลก! 01]()
ในที่สุดก็มากับ Triumph พิกัด 400 ซี.ซี. ครั้งแรกของโลก!
อย่างที่เราได้มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ว่าทาง Triumph นั้นกำลังพัฒนารถมอเตอร์ไซค์พิกัดเล็กของทางค่ายอยู่ในขณะนี้ และคาดกันว่าตัวรถจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ในพิกัด 400 ซี.ซี. เป็นครั้งแรก เพื่อที่จะทำให้แฟน ๆ Triumph สามารถเข้าถึง และจับต้องรถจาก Triumph ได้ง่ายยิ่งขึ้น และในวันนี้ทาง Triumph ก็ได้ออกมาประกาศแล้วว่ารถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ของพวกเขาพร้อมแล้วในปีนี้
- ดีไซน์ที่มีความเป็น Triumph อย่างเต็มเปี่ยม
- รูปลักษณ์แบบดั้งเดิม
- ขุมพลังเครื่องยนต์ที่ไม่เคยมีมาก่อน
- ระบบกันสะเทือน และระบบเบรกที่แตกต่างกันใน 2 รุ่น
- เทคโนโลยีบนตัวรถ
- รอลุ้นแค่ราคาเท่านั้น
![ในที่สุดก็มากับ Triumph พิกัด 400 ซี.ซี. ครั้งแรกของโลก! 02]()
400 ซี.ซี. ใหม่ล่าสุด
ดีไซน์ที่มีความเป็น Triumph อย่างเต็มเปี่ยม
ต้องบอกก่อนว่าสำหรับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในครั้งนี้ทาง Triumph ไม่ได้เปิดแค่เพียงรุ่นเดียว แต่มาถึง 2 โดยทั้ง 2 คันจะมาพร้อมชื่อเรียกอย่าง Triumph Speed 400 และ Triumph Scrambler 400 X ซึ่งแน่นอนว่ารถทั้ง 2 รุ่นถูกถ่ายทอด DNA มาจากรุ่นพี่ในสายถนนอย่าง Speed Twin 900 และ Speed Twin 1200 ส่วนสำหรับสายฝุ่นอย่าง Scrambler 400 X ก็ได้ได้รับแรงบันดาลใจในด้านดีไซน์มาจาก Scrambler 900 และ Scrambler 1200 ด้วยเช่นเดียวกัน
![ในที่สุดก็มากับ Triumph พิกัด 400 ซี.ซี. ครั้งแรกของโลก! 03]()
ดีไซน์ที่ยังมีความเป็น Triumph อย่างเต็มเปี่ยม
รูปลักษณ์แบบดั้งเดิม
สำหรับตัวรถ Triumph Speed 400 นั้นมาพร้อมกับรูปลักษณ์แบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็น ฝาสูบที่มาพร้อมครีบระบายอากาศอันโดดเด่น และแคลมป์ท่อเฮดเดอร์แบบดั้งเดิม ผสมผสานกับรายละเอียดร่วมสมัย เช่น ท่อเก็บเสียงแบบยกขึ้น กราฟิกที่โดดเด่น และเทคโนโลยี อาทิ การระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบปิด ท่อไอเสียพร้อมตัวเก็บเสียงที่ซ่อนอยู่ รวมไปถึงชุดของถังน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ารูปทรงสวยที่มาพร้อมลวดลายกราฟิกบนตัวถังที่มีให้เลือกถึง 3 สีด้วยกันคือ Carnival Red , Caspian Blue และ Phantom Black
![ในที่สุดก็มากับ Triumph พิกัด 400 ซี.ซี. ครั้งแรกของโลก! 01]()
Triumph Speed 400
ส่วนสายลุยอย่าง Triumph Scrambler 400 X นั้นตัวรถได้มาพร้อมกับคุณสมบัติที่มุ่งเน้นการใช้งานได้จริงด้วยการติดตั้งการ์ดป้องกันไฟหน้า , การ์ดหม้อน้ำ และการ์ดกันกระแทกอ่างน้ำมันเครื่อง รวมถึงแฮนด์การ์ด ที่ค้ำแฮนด์พร้อมแท่นรอง และบังโคลนหน้าที่ยาวขึ้น เพื่อเน้นการใช้งานตัวรถในเส้นทางออฟโรดนั่นเอง โดย Scrambler 400 X จะมาพร้อมชุดสีให้เลือกกันถึง 3 สีเช่นเดียวกันนั่นก็คือ Matt Khaki Green/Fusion White , Carnival Red/Phantom Black และสี Phantom Black/Silver Ice
![ในที่สุดก็มากับ Triumph พิกัด 400 ซี.ซี. ครั้งแรกของโลก! 02]()
Triumph Scrambler 400 X
ขุมพลังเครื่องยนต์ที่ไม่เคยมีมาก่อน
สำหรับ Triumph Speed 400 และ Triumph Scrambler 400 X ได้มาพร้อมกับเครื่องยนต์บล็อกใหม่ล่าสุดที่ย้อนกลับไปได้ถึงการแข่งรถในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันออฟโรดในรายการ Six Day Trial กับเครื่องยนต์ 1 สูบ DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดจาก Bosch
![ในที่สุดก็มากับ Triumph พิกัด 400 ซี.ซี. ครั้งแรกของโลก! 03]()
เครื่องยนต์ 398.15 ซี.ซี.
ขนาด 398.15 ซี.ซี. พร้อมส่งมอบขุมพลังขนาด 40 แรงม้าที่ 8,000 รอบ/นาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 37.5 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบ/นาที พร้อมส่งผ่านกำลังขับเคลื่อนด้วยชุดโซ่ X-ring ผ่านชุดเกียร์แบบ 6 สปีด
![ในที่สุดก็มากับ Triumph พิกัด 400 ซี.ซี. ครั้งแรกของโลก! 04]()
เครื่องยนต์ 400 ซี.ซี. บล็อคใหม่ล่าสุด
ระบบกันสะเทือน และระบบเบรกที่แตกต่างกันใน 2 รุ่น
| |
Speed 400 |
Scrambler 400 X |
โช้คอัพหน้า |
Up Side Down ขนาด 43 มม. ระยะยุบ 140 มม. |
Up Side Down ขนาด 43 มม. ระยะยุบ 150 มม. |
โช้คอัพหลัง |
Monoshock ตั้งค่าพรีโหลดได้ ระยะยุบ 130 มม. |
Monoshock ตั้งค่าพรีโหลดได้ ระยะยุบ 150 มม. |
เบรกหน้า |
ดิสก์เบรกเดี่ยว 300 มม.แบบเรเดียล 4 ลูกสูบ + ABS |
ดิสก์เบรกเดี่ยว 320 มม.แบบเรเดียล 4 ลูกสูบ + ABS |
เบรกหลัง |
ดิสก์เบรกเดี่ยว 230 มม.พร้อมคาลิปเปอร์แบบลอยตัว + ABS |
ดิสก์เบรกเดี่ยว 230 มม.พร้อมคาลิปเปอร์แบบลอยตัว + ABS |
เทคโนโลยีบนตัวรถ
สำหรับ Triumph Speed 400 และ Triumph Scrambler 400 X นอกจากดีไซน์ที่สวยงาม และขุมพลังเครื่องยนต์บล็อกใหม่แล้วตัวรถยังได้มาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น
-คันเร่งไฟฟ้าแบบ Ride-by-Wire ที่ช่วยมอบการตอบสนองของคันเร่งได้อย่างแม่นยำ เพื่อการควบคุมตัวรถที่สามารถทำได้ดังใจ ซึ่งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวผู้ขับขี่ได้อีกด้วย
![ในที่สุดก็มากับ Triumph พิกัด 400 ซี.ซี. ครั้งแรกของโลก! 05]()
มาพร้อมคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-Wire
-ระบบควบคุมการลื่นไถล (Traction Control) และระบบ ABS โดยที่ระบบควบคุมการยึดเกาะถนนของทั้ง Triumph Speed 400 และ Triumph Scrambler 400 X สามารถสลับได้ด้วยการเลือกเปิดหรือปิดง่าย ๆ ดังนั้นผู้ขี่จึงสามารถปิดการทำงานได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย ส่วนสำหรับระบบเบรก ABS ในรุ่น Triumph Scrambler 400 X สามารถเลือกที่จะปิดระบบการทำงานของระบบเบรก ABS ได้อีกด้วยเพื่อการขับขี่ในรูปแบบออฟโรดที่สนุกยิ่งขึ้น
![ในที่สุดก็มากับ Triumph พิกัด 400 ซี.ซี. ครั้งแรกของโลก! 06]()
Triumph Scrambler 400 X สามารถปิด ABS ได้ด้วย
-คลัตช์ช่วยผ่อนแรงบิด ระบบช่วยผ่อนแรงบีบคลัตช์ เพื่อลดความเมื่อยล้าระหว่างการหยุดหรือเริ่มขี่ ตลอดจนเพิ่มความมั่นใจ และความอุ่นใจของผู้ขับขี่ด้วยการป้องกันล้อหลังล็อคระหว่างการเปลี่ยนเกียร์
-เรือนไมล์แบบผสมที่มาพร้อมมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อกขนาดใหญ่ และหน้าจอ LCD ในตัว ซึ่งแสดงข้อมูลของตัวรถเอาไว้อย่างครบถ้วน โดยฟังก์ชันทั้งหมดบนหน้าจอเรือนไมล์สามารถเลือกใช้งานได้อย่างง่ายดายผ่านปุ่มควบคุมที่ติดตั้งไว้บนตัวแฮนด์ นอกจากนี้ Triumph Speed 400 และ TriumphScrambler 400 X ยังมาพร้อมออฟชั่นเสริมเพิ่มเติมที่เลือกติดตั้งได้อย่างแฮนด์จับปรับอุณหภูมิ
![ในที่สุดก็มากับ Triumph พิกัด 400 ซี.ซี. ครั้งแรกของโลก! 07]()
เรือนไมล์แบบผสม
รอลุ้นแค่ราคาเท่านั้น
สำหรับในตอนนี้ทั้ง Triumph Speed 400 และ Triumph Scrambler 400 X ยังไม่มีการเปิดราคาออกมาให้เราได้ทราบแต่ทาง Triumph Thailand ได้บอกเพียงสั้น ๆ ว่าราคาของมันจะสามารถสู้กับคู่แข่งในคลาสเดียวกันได้อย่างแน่นอน ซึ่งรถทั้ง 2 รุ่นจะถูกเปิดตัวในประเทศอินเดียช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้
![ในที่สุดก็มากับ Triumph พิกัด 400 ซี.ซี. ครั้งแรกของโลก! 08]()
รอแค่ราคาเปิดตัวเท่านั้น
และจะออกวางจำหน่ายในตลาดทั่วโลกได้ในช่วงต้นปี 2024 นี้ ซึ่งโดยภาพรวมแล้วเรามองว่าทั้ง Triumph Speed 400 และ Triumph Scrambler 400 X ทำตัวรถออกมาได้ดีมาก ทุกอย่างยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ Triumph เอาไว้ถึงแม้จะเป็นมอเตอร์ไซค์ในพิกัดเล็กก็ตาม ซึ่งหากราคาไปได้เราเชื่อเลยว่าทั้ง Triumph Speed 400 และ Triumph Scrambler 400 X จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์อีกหนึ่งรุ่นที่ขายดีแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม : Triumph Speed Triple 765 RS & Moto2™ Edition อัพความแรง เพิ่มออฟชั่น
อ่านเพิ่มเติม : ลองขึ้นหลังเสือสุดดุ 2023 Triumph Tiger 1200 ตัวจบทั้ง On-Road และ Off-Road
อ่านเพิ่มเติม : Triumph TE-1 เน็คเก็ตไบค์ไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์พร้อมต่อกรกับทุกแบรนด์ในเวลานี้
