เมื่อ AutoFun Thailand ได้ไปลองเรียนขี่ Super Jet เป็นครั้งแรกผลจะออกมาเป็นอย่างไร ?
Yamaha คือหนึ่งในแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียงในระดับโลก และเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ผู้คนทั่วโลกต่างรู้จักในฐานะของผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ และเครื่องดนตรีระดับโลก แต่นอกจากเครื่องดนตรี และรถมอเตอร์ไซค์แล้ว Yamaha เองก็ยานยนต์ทางน้ำที่ดังไม่แพ้กันไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเครื่องยนต์เรือ หรือยานพาหนะทางน้ำอย่าง Wave Runner ซึ่งในวันนี้เราจะขอพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับยานยนต์ทางน้ำอีกหนึ่งประเภทจาก Yamaha นั่นก็คือเจ้า Super Jet ซึ่งเป็นอีกหนึ่งชนิดยานยนต์ทางน้ำที่แตกแยกออกมาจาก Wave Runner นั่นเอง
- Super Jet คืออะไร
- ความยากของ Super Jet
- ลองขี่ และเรียนรู้ครั้งแรก
- สัมผัส Super Jet
Super Jet คืออะไร
หากพูดถึง Super Jet หลายคนอาจจะยังมีความงง ๆ กันอยู่บ้างเพราะส่วนใหญ่แล้วคนทั่วไปมักจะนิยมเรียกยานยนต์ทางน้ำทั้งหมดนอกจากเรือว่าเจ็ตสกี ซึ่งเจ้า Super Jet ที่ว่าก็คือหนึ่งในยานยนต์ทางน้ำที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของ Wave Runner ซึ่งเจ้า Wave Runner ที่ว่าก็จะถูกแบ่งออกมาเป็นประเภทย่อยได้ 2 รูปแบบคือ Wave Runner แบบนั่งขี่ และ Wave Runner แบบยืนขี่ซึ่งก็คือเจ้า Super Jet นั่นเอง
ความยากของ Super Jet
ต้องบอกว่าสำหรับ Super Jet นั้นถือเป็นยานยนต์ทางน้ำที่ขี่ยากที่สุดแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นตัวเรือ หรือ Wave Runner แบบนั่งขี่คุณเพียงแค่ขึ้นไปบนมันและสามารถเสียบกุญแจพร้อมบิดออกไปได้เลยในทันที แต่กับ Super Jet นั้นแค่คุณคิดจะขึ้นไปอยู่บนมันก็ยากแล้ว ซึ่งนี่คือความยากของ Super Jet ที่ต้องอาศัยการถ่ายเทน้ำหนัก และบาลานซ์ของผู้ขับขี่ให้ดี เพื่อที่จะทำให้เราสามารถขึ้นไปอยู่บนเจ้า Super Jet ได้ไม่ว่าจะเป็นการนั่งบนมัน หรือการยืนขี่ในท่าทางที่ถูกต้อง
ลองขี่ และเรียนรู้ครั้งแรก
สำหรับ AutoFun Thailand นั้นต้องบอกเลยว่านี่เป็นครั้งแรกสำหรับเราในการได้ลองเรียนรู้ และทำความรู้จักกับยานยนต์ทางน้ำอย่าง Super Jet แบบจริงจัง ๆ เป็นครั้งแรกจากหมายเทียบเชิญจาก Yamaha ประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยได้ไปลองขี่ยานยนต์ทางน้ำอย่าง Wave Runner แบบนั่งกับ Yamaha กันมาแล้ว แต่อย่างที่บอกไปว่า Wave Runner แบบนั่งนั้นมันก็ไม่ได้ยากอะไรเพียงแค่ปรับตัวเข้าหามันนิดหน่อยก็สามารถขับขี่ได้แล้วโดยเฉพาะกับผู้ที่มีพื้นฐานการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ด้วยแล้วนั้นจะยิ่งง่ายขึ้นไปอีก แต่สำหรับ Super Jet นั้นมันแตกต่างออกไป
โดยสำหรับการเรียนในครั้งนี้เราได้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ทางน้ำมาเป็นผู้สอน และให้ความรู้แก่เราโดยเฉพาะนั่นก็คือทาง Watchara Marine นั่นเอง โดยสำหรับในครั้งนี้เราได้เริ่มเรียนรู้กันตั้งแต่ในส่วนของภาคทฤษฎีอย่างประเภทของยานยนต์ทางน้ำมีอะไรบ้าง แต่ละประเภทแต่ละชนิดมีความโดดเด่น และแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ซึ่งเมื่อเราได้ทำความรู้จักกับชนิดของยานยนต์ทางน้ำไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ทาง Watchara Marine จึงได้ทำการลงลึกไปถึงรายละเอียดของยานยนต์ทางน้ำอย่าง Super Jet ว่ามันมีส่วนประกอบอะไรบ้าง ท่าทางในการขับขี่ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร การขึ้นลง Super Jet ที่ถูกวิธีต้องทำอย่างไร เรียกได้ว่าสอนกันตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นจนไปถึงขั้นตอนการยืน และการเลี้ยวจนขับขี่เป็นกันเลยทีเดียว ซึ่งทั้งหมดสำหรับการเรียนการสอนที่จะเกิดขึ้นในวันนี้เป้าหมายหลักก็คือทุกคนจะต้องสามารถยืนขี่เจ้า Super Jet คันนี้ได้นั่นเอง
และแน่นอนว่าก่อนที่เราจะไปสู่ภาคปฏิบัติทาง Watchara Marine ก็ได้ทำการแนะนำถึงอุปกรณ์ป้องกัน และอุปกรณ์สวมใส่ที่จำเป็นในการขับขี่เจ้า Super Jet ได้อย่างปลอดภัยว่าจะต้องมีอะไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าอุปกรณ์หลัก ๆ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเสื้อชูชีพนั่นเองซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่มีไม่ได้เลยสำหรับกีฬาทางน้ำอย่าง Super Jet ส่วนที่เหลือก็จะเป็นชุด , ถุงมือกันลื่น , รองเท้ากันลื่น และหมวกกันน็อค ซึ่งอุปกรณ์ส่วนใหญ่ก็จะคล้ายคลึงกับอุปกรณ์การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์วิบากอยู่ไม่น้อยโดยเฉพาะอุปกรณ์ส่วนหัวอย่างหมวกกันน็อคที่ใช้เหมือนกันเลย
สัมผัส Super Jet
และแล้วก็ได้มาถึงช่วงเวลาที่เรารอคอยนั่นก็คือเราจะได้ขี่เจ้า Super Jet ลำจริง ๆ กันแล้วซึ่งสำหรับ Super Jet ที่เราจะได้ขี่กันในวันนี้จะเป็น Super Jet แบบยืนขนาด 700 ซี.ซี. เครื่องยนต์ 2 จังหวะ ซึ่งเทคนิคของการขับขี่เจ้า Super Jet ที่เราได้เรียนรู้มาก็คือการที่จะยืนทรงตัวอยู่บนมันได้คุณจะต้องใช้บาลานซ์ และความเร็วที่เหมาะสมควบคู่กันไปไม่อย่างนั้น Super Jet จะเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง และมันก็จะทำให้เราพลิกหล่นไปในน้ำได้ในที่สุด
ซึ่งในช่วงแรก ๆ เราพยายามแค่นั่งขี่ในท่าคุกเข่าบนมันให้ได้ก่อน เพื่อดูบาลานซ์ของตัว Super Jet และทำความคุ้นเคยกับคันเร่งและความเร็วของมันบนผิวน้ำ ซึ่งคันเร่งของ Super Jet นั้นจะเป็นลักษณะของการใช้นิ้วเกี่ยวเข้าหาตัวแบบเบรกของรถมอเตอร์ไซค์แต่มีขนาดที่เล็กกว่ามาก ซึ่งเมื่อเรากระโดดขึ้นไปอยู่บน Super Jet ได้อย่างคล่องแคล่วแล้วเราก็ได้เริ่มลองยืนขึ้นเพื่อควบคุมมันดูผลปรากฏว่าทางตรงไปได้แบบชิว ๆ แต่พอต้องหักเลี้ยวเท่านั้นละตู้มลงไปกินน้ำซิครับรออะไร
ซึ่งเมื่อเราตกน้ำไปครูฝึกก็ได้ขี่ Super Jet อีกลำเข้ามาประกบเราทันที พร้อมบอกเทคนิคในการเลี้ยวให้กับเราว่าถ้าหากเราเลี้ยวซ้ายต้องยื่นเท้าซ้ายมาไว้ด้านหน้า ส่วนหากจะเลี้ยวขวาก็ให้ยื่นเท้าขวาออกมาด้านหน้า ซึ่งฟังที่ครูฝึกบอกอะมันง่ายแต่เมื่อเราได้ลองเอาไปทำจริง ๆ นั้นต้องบอกเลยว่าไม่ง่ายเท่าไหร่
ซึ่งหลังจากนั้นตลอดทั้งวันเราก็ได้ยืนขี่เจ้า Super Jet ได้จนคล่องด้วยความเร็วที่ยังไม่สูงมากนัก รวมไปถึงการเลี้ยวก็สามารถทำได้ในระดับหนึ่ง เรียกได้ว่ายืนขี่แบบไม่ตกจาก Super Jet ได้แล้วซึ่งก็ถือว่าสำหรับการหัดขี่ในครั้งแรกของเรานั้นประสบความสำเร็จไปได้อย่างสวยงาม เหลือแค่เลี้ยวให้เก่งขึ้น และใช้ความเร็วที่มากขึ้นให้ได้เท่านั้น
และทั้งหมดนี้ก็คือการเรียนขี่ Super Jet ในครั้งแรกของเรา ซึ่งเราอยากจะบอกว่า Super Jet นั้นเป็นกีฬาที่สนุกมาก ๆ สนุกไม่แพ้การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์เลย ซี่งหากเพื่อน ๆ คนไหนมีโอกาส หรือกำลังมองหากิจกรรมใหม่ ๆ ทำกันอยู่ละก็เราขอแนะนำ Super Jet เลยมันดีจนเราติดใจไปซะแล้ว
อ่านเพิ่มเติม : รถสกู๊ตเตอร์ Yamaha ทั้ง 3 คันถูกประมูลไปด้วยราคากว่า 3.7 ล้านบาท
อ่านเพิ่มเติม : 2022 Yamaha TMAX Tech MAX ใหม่หมดหัวจรดท้าย
อ่านเพิ่มเติม : เจาะลึกข้อมูล 2022 Yamaha E01