2024 Triumph Scrambler 1200 เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ!


2024 Triumph Scrambler 1200
2024 Triumph Scrambler 1200 เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ!
สำหรับในปีนี้ Triumph Scrambler 1200 ได้มาพร้อม 2 รุ่นย่อยให้ขาลุยได้เลือกกันคือในรุ่น Scrambler 1200 X สร้างมาเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และ Scrambler 1200 XE รุ่นท็อปที่ได้รับการปรับปรุงกับสมรรถนะจัดเต็ม ซึ่งรายละเอียดบนตัวรถ 2024 Triumph Scrambler 1200 ใหม่ทั้ง 2 รุ่นจะมีอะไรเพิ่มเติมเข้ามาบ้างนั้นไปดูกันเลย
- ขุมพลังเครื่องยนต์พื้นฐานเดียวกัน
- 2024 Triumph Scrambler 1200 X เน้นเข้าถึงง่าย
- 2024 Triumph Scrambler 1200 XE ระบบเบรก และช่วงล่างที่พร้อมลุยแบบจัดเต็ม
- เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่แตกต่าง
- ตัวเลือกสีที่แตกต่าง


ขุมพลังเครื่องยนต์พื้นฐานเดียวกัน
2024 Triumph Scrambler 1200 X และ 2024 Triumph Scrambler 1200 XE มอเตอร์ไซค์ทั้ง 2 รุ่นจะมาบนพื้นฐานคือเครื่องยนต์ที่เหมือนกันคือเครื่องยนต์สูบคู่ขนาด 1,200 ซี.ซี. SOHC 8 วาล์วพร้อมส่งมอบขุมพลัง 90 แรงม้าที่ 7,000 รอบ/นาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตรที่ 4,250 รอบ/นาที ที่ให้แรงบิดสูง รวมไปถึงส่วนของท่อไอเสียที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ช่วยให้มีอัตราการไหลเวียนที่ดีขึ้น และการกระจายแรงบิดได้กว้างขึ้นในช่วงรอบสูงตั้งแต่ 5,000 RPM จนถึงเส้น Redline


2024 Triumph Scrambler 1200 X เน้นเข้าถึงง่าย
2024 Triumph Scrambler 1200 X ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 820 มม. และสามารถปรับลดให้อยู่ที่ 795 มม. เมื่อใช้อุปกรณ์เสริมเบาะนั่งแบบต่ำ พร้อมด้วยระบบกันสะเทือนใหม่ โช้ค Marzocchi™ USD และ RSU ขนาด 45 มม.พร้อมกระปุกน้ำมันแยก และการปรับพรีโหลด ให้ระยะยุบตัวของล้อ 170 มม. ที่ถูกปรับให้เหมาะสมสำหรับการขับขี่บนถนน


ส่วนสำหรับระบบเบรกนั้นในรุ่น Scrambler 1200 X ตัวรถจะมาพร้อมจานดิสก์เบรกคู่ด้านหน้าขนาด 310 มม. ที่ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์ลูกสูบคู่จาก Nissin ส่วนด้านหลังมาพร้อมจานดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 225 มม. ซึ่งทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกจาก Nissin เช่นเดียวกัน ส่วนหน้าจอเรือนไมล์ในรุ่น Scrambler 1200 Xจะมาพร้อมหน้าจอเรือนไมล์แบบไฮบริด LCD/TFT มัลติฟังก์ชั่น


2024 Triumph Scrambler 1200 XE ระบบเบรก และช่วงล่างที่พร้อมลุยแบบจัดเต็ม
ส่วนในรุ่นท็อปอย่าง 2024 Triumph Scrambler 1200 XE ตัวรถจะมาพร้อมระบบกันสะเทือนที่จัดเต็มกว่าด้วยโช้คอัพ Marzocchi™ ขนาด 45 มม. ที่สามารถปรับตั้งค่าได้อย่างละเอียดมากขึ้นทำให้มันมาพร้อมระยะยุบที่ 250 มม. ทั้งในโช้คอัพด้านหน้า และด้านหลัง ซึ่งมากกว่าตัว Scrambler 1200 X เพื่อให้ Scrambler 1200 XE คันนี้มีความสามารถในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดที่ยอดเยี่ยมกว่านั่นเอง


ในส่วนของระบบเบรกในรุ่น Scrambler 1200 XE ตัวรถมาพร้อมจานดิสก์เบรกคู่ด้านหน้าขนาด 320 มม. ที่ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์หน้า Brembo™ Stylema® โมโนบล็อกเรเดียล อันทรงพลังรุ่นล่าสุด ส่วนด้านหลังมาพร้อมจานดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 255 มม. ที่ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกจาก Nissin ส่วนหน้าจอเรือนไมล์สำหรับรุ่น Scrambler 1200 XE จะมาพร้อมหน้าจอ TFT


เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่แตกต่าง
ทั้ง Scrambler X และ XE มาพร้อมระบบ Optimised Cornering ABS และระบบ Optimised Cornering Traction Control ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เพื่อควบคุม และรักษาการยึดเกาะถนนอย่างเหมาะสม ในขณะที่โหมดการขับขี่มีให้เลือก 5 โหมดสำหรับ Scrambler 1200 X โดยแต่ละโหมดมีการตอบสนองคันเร่งเฉพาะของตัวเอง


รวมถึงการตั้งค่า ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนโดยเฉพาะ ผู้ขี่สามารถเลือกได้ระหว่างแบบ Sport, Road, Rain, Off-Road และ Rider Configable ในขณะที่ใน Scrambler 1200 XE จะมีการเพิ่มเติมโหมดอย่าง Off-Road Pro เข้ามาอีก 1 โหมดเพื่อให้สายออฟโรดได้สนุกยิ่งขึ้นไปอีกกับการควบคุมรถได้อย่างอิสระมากขึ้นในโหมดนี้


และยังได้มีการเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ที่มากขึ้นด้วยระบบตรวจจับแรงเฉื่อย IMU (Inertial Measurement Unit) สเปคสูงซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกับ Continental ระบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ Optimised Cornering ABS และระบบ Optimised Cornering Traction Control โดยจะเลือกการตั้งค่าที่ถูกต้องแบบอัตโนมัติโดยการวัดอัตรา Roll, Pitch, Yaw และการเร่งความเร็วเพื่อคำนวณมุมเอียง พร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่โดยรวม นอกจากนี้ทั้ง X และ XE มีการติดตั้งคลัตช์เสริมแรงบิดเข้ามาด้วย


ตัวเลือกสีที่แตกต่าง
สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมสีตัวรถที่แตกต่างกันออกไปโดย Scrambler 1200 XE จะประกอบด้วย สี Phantom Black & Storm Grey ร่วมสมัย พร้อมโดดเด่นด้วยเส้นสีแดง ตามด้วยสี Baja Orange & Phantom Black ใหม่ล่าสุด และสี Sapphire Black ยอดนิยมตลอดกาล ในขณะด้าน Scrambler 1200 X จะมีสี Carnival Red, สี Ash Grey สุดเท่ และสี Sapphire Black แบบคลาสสิก ซึ่งในตอนนี้ทาง Triumph ยังไม่ได้มีการประกาศราคาวางจำหน่ายออกมาอย่างเป็นทางการ
อ่านเพิ่มเติม : รีวิว Triumph Speed Twin 1200 คลาสสิคโมเดิร์นขุมพลัง 1,200 ซี.ซี.
อ่านเพิ่มเติม : ลองขี่ Triumph Street Triple 765 RS ขุมพลังเครื่องยนต์ Moto2
อ่านเพิ่มเติม : ขึ้นหลังเสือสุดดุ 2023 Triumph Tiger 1200 ตัวจบทั้ง On-Road และ Off-Road


Archa นักเขียนอาวุโส
นักเขียน/นักทดสอบรถจักรยานยนต์ประสบการณ์กว่า 7 ปีในแวดวง 2 ล้อ ใช้รถมอเตอร์ไซค์เดินทางไปไหนมาไหนตั้งแต่อายุ 10 ปี ได้เรียนรู้รูปแบบการขับขี่กับสถาบันต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Honda , Yamaha , Kawasaki , BMW Motorrad , Ducati และ Aprilia ตั้งแต่หลักสูตรขั้นพื้นฐาน จนไปถึงระดับเรสซิ่ง โเชื่อว่าทุกคนสามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้ แต่ขี่ได้กับขี่เป็นนั้นมันแตกต่างกัน แวะเข้ามาพูดคุยกันได้ทางหน้า Facebook : Pongnara Archarit หรือทาง Instagram : Pongnara Archarit
แบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ยอดนิยมในไทย
ข่าวล่าสุด
รีวิว New Trident 660 & New Tiger Sport 660 หลังลงหวดแบบเต็มข้อในสนามแข่งพีระ เซอร์กิต!!!
Honda CB1300 Final Edition รุ่นสุดท้ายก่อนตำนานจะจบลง!!!
ทำความรู้จัก Big Bike จาก Zontes ในพิกัด 700 ซี.ซี. ที่เราบอกได้เลยว่าแต่ละรุ่นนั้นไม่ธรรมดาเลย!!!
BMW Motorrad ประเทศไทยเปิดต้นปีด้วยมอเตอร์ไซค์ 2 รุ่นใหม่กับ BMW S 1000 RR และ BMW C 400 GT
Benda Napoleonbob 500 บ็อบเบอร์เครื่อง V สัญชาติจีนที่หล่อเอาเรื่อง!!!
รถมอเตอร์ไซค์แนะนำสำหรับคุณ
- เป็นที่นิยม
- ล่าสุด
-
Honda PCX
THB 86,900 - 107,500
-
Honda ADV150
THB 98,500 - 98,900
-
Yamaha Grand...
ยังไม่คอนเฟิร์ม
-
Honda Wave110i
THB 36,900 - 45,500
-
Yamaha Xmax...
THB 168,000 - 172,900
-
Honda CB300R
THB 149,800 - 151,690
-
Honda Click125i
THB 51,000 - 55,100
-
Honda Click150i
THB 60,700 - 61,200
-
Honda CRF250RALLY
THB 164,000
-
Yamaha Aerox
THB 67,500 - 78,500