ลองขี่ 2022 Honda ADV350 สกู๊ตเตอร์ SUV กับราคาแสนปลายจะดีสมคำร่ำลือหรือไม่!
แน่นอนว่าหากให้พูดถึงรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่ร้อนแรง และถูกพูดถึงมากที่สุด ณ เวลานี้คงจะหนีไม่พ้นเจ้า 2022 Honda ADV350 ที่ทาง Honda เองได้ทำการเปิดตัวรถรุ่นนี้ไปแบบสด ๆ ร้อนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แถมต้องบอกเลยว่าราคาที่เปิดมานั้นทำให้ไบค์เกอร์หลาย ๆ คนต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียว ดังนั้นทาง AutoFun Thailand จึงไม่รอช้ารีบไปทดลองขับขี่มาให้เพื่อน ๆ แล้วป็นที่เรียบร้อยว่าตกลงแล้วเจ้า 2022 Honda ADV350 คันนี้มันจะดีจริงสมคำร่ำลือหรือเปล่า
- แรกพบตัวจริง
- ของที่ให้มากับตัวรถ
- ระบบกันสะเทือนที่แตกต่างจาก Forza350
- เครื่องยนต์จาก Forza350
- ลองขี่แล้วติดใจ
- จุดเล็กน้อยที่เราไม่ชอบ
- เหมาะกับใคร
แรกพบตัวจริง
ต้องบอกเลยว่าเมื่อเราได้เห็นเจ้า 2022 Honda ADV350 คันจริง ๆ นั้นถึงกับพูดไม่ออกเลยเพราะตัวรถสวยมาก ๆ งานประกอบและรายละเอียดต่าง ๆ บนตัวรถถือว่าสมราคาความเป็นมาตรฐานญี่ปุ่นเลยทีเดียว แถมรูปร่าง และมิติของตัวรถนั้นเรียกได้ว่าดูใหญ่โต บึกบึนดูแล้วแทบมีขนาดไม่แตกต่างไปจากพี่ใหญ่อย่าง Honda X-ADV 750 เลย ซึ่งรายละเอียดของตัวรถโดยรวมเราให้ผ่าน ถือว่าสมราคาสุด ๆ
ของที่ให้มากับตัวรถ
นอกจากความสวยงามแล้วต้องบอกเลยว่าของที่ให้มาพร้อมกับตัวรถนั้นคุ้มเกินราคาไม่ว่าจะเป็นชุดไฟแบบ LED รอบคันที่ออกแบบไว้ได้อย่างสวยงาม หน้าจอเรือนไมล์แบบ LCD ที่เลือกปรับค่าความสว่างได้ตามต้องการ พร้อมปุ่มควบคุมการทำงานแบบจอยสติ๊ก 4 ทิศทางที่ถูกติดตั้งไว้บริเวณตัวแฮนด์ด้านซ้ายมือที่ใช้งานได้สะดวกสุด ๆ นอกจากนี้ตัวแอนด์บาร์ของรถยังเป็นแบบ Top Bridge & Bottom Bridge ที่มาพร้อมตัวยึดแกนโช้คทั้งในส่วนของแผงคอด้านล่าง และด้านบนแบบเดียวกันกับที่ใช้ในรถซูเปอร์สปอร์ต Honda CBR-1000RR-R และสายลุยตัวพ่ออย่าง Honda Africa Twin
ต่อมากับชิลบังลมด้านหน้าของตัวรถที่สามารถเลือกปรับได้ 4 ระดับแต่น่าเสียดายที่มันต้องปรับด้วยมือด้วยการดึงสลักไม่ได้เป็นระบบไฟฟ้ามาให้ ส่วนตัวเบาะนั่งผู้ขับขี่ และผู้ซ้อนมาพร้อมเบาะแบบตอนเดียวมีการไล่ระดับแยกส่วนชัดเจนเพื่อความสะดวกสบายของทั้งผู้ขับขี่ และผู้ซ้อน แถมตำแหน่งการวางเท้าก็ยังสะดวกสบายแบบสุด ๆ เพราะผู้ขับขี่สามารถเลือกวางเท้าได้ตามความถนัดเนื่องจากมีตำแหน่งวางเท้าที่ค่อนข้างกว้าง และยาวให้สามารถเลือกขยับปรับท่าทางได้ตามใจชอบ ส่วนของผู้ซ้อนตัวพักเท้าก็อยู่ในตำแหน่งที่พอดีไม่ต่ำ หรือสูงจนเกินไป
แถมพื้นที่เก็บสัมภาระใต้เบาะยังคงจัดมาให้แบบเต็ม ๆ เช่นเดิมกับขนาด 48 ลิตรที่สามารถใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบพร้อมกันได้ถึง 2 ใบเลยทีเดียว นอกจากนี้ 2022 Honda ADV350 ยังสะดวกใช้งานง่ายดายด้วยระบบกุญแจ Honda Smart Key System ที่เพียงแค่เก็บกุญแจไว้กับตัวก็พร้อมสตาร์ทรถออกไปได้ทันที
ระบบกันสะเทือนที่แตกต่างจาก Forza350
สำหรับระบบกันสะเทือนที่ใช้ในรถ 2022 Honda ADV350 นั้นได้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ให้มีความแตกต่างจากทาง Honda Forza350 โดยตัวโช้คอัพด้านหน้าจะมาแบบ Up Side Down พร้อมระยะยุบที่มากถึง125 มม. จาก Showa ส่วนด้านหลังจะมาพร้อมกับโช้คอัพยูนิตสวิงพร้อมซับแทงค์ในตัวจาก Showa ที่มีระยะยุบ 130 มม. นอกจากนี้ในส่วนของระบบเบรกตัวรถก็มาพร้อมระบบจานดิสก์เบรกเดี่ยวทั้งด้านหน้า และด้านหลัง พร้อมเสริมความปลอดภัยด้วยระบบเบรก ABS
เครื่องยนต์จาก Forza350
ในส่วนของเครื่องยนต์นั้น 2022 Honda ADV350 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ eSP+ ขนาด 330 ซี.ซี. 1 สูบ SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Honda Forza350 นั่นเอง ซึ่งทำให้ 2022 Honda ADV350 มาพร้อมขุมพลัง 28.8 แรงม้าที่ 7,5000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 31.5 นิวตันเมตรที่ 5,250 รอบ/นาที นอกจากนี้ตัวรถยังมาพร้อมระบบ HSTC ป้องกันล้อหมุนฟรีที่สามารถเลือกปรับระดับได้ พร้อมทั้งเลือกปิดได้อีกด้วย
ลองขี่แล้วติดใจ
ซึ่งสำหรับการขับขี่เจ้า 2022 Honda ADV350 ในครั้งนี้เราได้ทำการทดสอบมันในสนามฝึกขับขี่ปลอดภัยของทาง Honda ซึ่งก็มีเส้นทางจำลองสถานีต่าง ๆ เอาไว้อย่างครบครันเพื่อให้เราสามารถเค้นเอาประสิทธิภาพสูงสุดของตัวรถออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่นั่นเอง ซึ่งสิ่งแรกที่เราประทับใจเลยก็คือท่าทางการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งขี่แบบปกติ หรือการยืนขับขี่ในเส้นทางออฟโรด
เพราะด้วยแฮนด์บาร์ทรงกว้างที่ให้มาทำให้เราได้ท่าทางที่ผ่อนคลายสะดวกสบาย สามารถบังคับรถไปในทิศทางที่เราต้องการได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งพื้นที่ตำแหน่งของการวางเท้าที่กว้างทำให้เราสามารถเลือกวางเท้าได้หลายรูปแบบตามสถานการณ์ของการขับขี่ที่เหมาะสม รวมไปจนถึงการยืนขี่ในเส้นทางออฟโรดเมื่อเรายืนวางเท้าถอยมาด้านหลังเล็กน้อยนั้นมันจะทำให้เราสามารถหนีบกับตำแหน่งของเบาะได้เป็นอย่างดี ซึ่งนั่นทำให้เราลุยผ่านอุปสรรคตรงหน้าไปได้อย่างมั่นใจนั่นเอง
ต่อมาในส่วนของเครื่องยนต์ eSP+ ขนาด 330 ซี.ซี. ที่ให้มาอย่างที่เรารู้กันแล้วว่ามันคือเครื่องยนต์เดิมจากรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์สายชิวอย่าง Honda Forza350 นั่นเองซึ่งคุณสมบัติของเครื่องยนต์ลูกนี้อยู่ในช่วงรอบความเร็วกลางถึงปลายที่ทำงานได้อย่างไหลลื่นสุด ๆ ถึงแม้ในรอบต้นเมื่อทำการเปิดคันเร่งตัวรถจะดูหน่วง ๆ อืด ๆ อยู่บ้างก็ตาม แต่มันแค่เล็กน้อย เพราะโดยรวมแล้วเครื่องยนต์ลูกนี้ถือเป็นเครื่องที่ขับขี่ได้สนุกมาก ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือการเดินทางท่องเที่ยวระยะไกลซึ่งเราว่ามันเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานแบบปกติทั่วไป ยกเว้นเสียจากคุณจะเป็นสายซิ่งตัวพ่อ หรือต้องการเอามันไปลุยให้หนักกว่านี้อันนี้ก็ต้องโมดิฟายเพิ่มเข้าไปอย่างที่เรารู้กัน
ในส่วนต่อมากับระบบช่วงล่างจาก Showa ทั้งด้านหน้า และด้านหลังที่ให้มามันสามารถใช้งานในทางดำได้อย่างดีเยี่ยมตัวรถสามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นคงไม่ว่าจะโค้งความเร็วสูง โค้งแคบ หรือต้องพลิกรถเลี้ยวอย่างกะทันหันตัวโช้คอัพก็พร้อมรองรับเป็นอย่างดี ส่วนในทางฝุ่นนั้นเป็นไปตามคาดตัวรถลุยไปได้แต่ก็ไม่ถึงกับดีแบบรถวิบาก แต่อย่าลืมว่านี่คือรถสกู๊ตเตอร์การลุยไปได้ในเส้นทางออฟโรดระดับหนึ่งก็ถือว่ามากเลย โดยคุณสามารถขี่ในเส้นทางขรุขระ ดันขึ้นเนิน ได้แบบสบาย ๆ เพราะด้วยช่วงท้องของตัวรถที่ค่อนข้างสูงจึงทำให้มันสามารถข้ามผ่านอุปสรรคที่ต้องพบเจอไปได้แบบไม่ยากเย็นนัก
นอกจากนี้ในส่วนของระบบ HSTC หรือเทคชั่นคอนโทรลที่ให้มาก็สามารถทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งสำหรับในตัว 2022 Honda ADV350 คุณสามารถเลือกปรับตั้งค่าได้ 2 ระดับคือแบบที่ 1 ตัวรถจะไม่ยอมให้ล้อหลังหมุนฟรีหรือเกิดอาการเลย กับอีก 1 รูปแบบก็คือยอมให้มีอาการบ้างเล็กน้อยเพื่อการขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้นแต่จะไม่ยอมปล่อยให้หมุนฟรีจนถึงขั้นตัวรถเกิดเสียอาการ และสุดท้ายก็คือเลือกปิดระบบได้ซึ่งแน่นอนว่าสายลุยฝุ่นชอบใจสิ่งนี้
จุดเล็กน้อยที่เราไม่ชอบ
ในส่วนของข้อเสียนั้นเรามองไปที่ชุดชิลบังลมด้านหน้าที่จำเป็นต้องใช้ 2 มือในการปรับซึ่งมันดูใช้งานยากเกินไป และไม่สะดวกเท่าไหร่เพราะหากคุณจะปรับนั่นเท่ากับว่าคุณจะต้องหยุดรถก่อน และอีกหนึ่งจุดคือเรื่องความสูงตัวเบาะที่ 795 มม. พร้อมความสูงใต้ท้องรถที่ 155 มม. ซึ่งสูงกว่าทาง Honda Forza350 อาจจะมีปัญหาสำหรับคนตัวเล็กได้เพราะอาจจะมีเขย่งกันเล็กน้อยสำหรับงานนี้
เหมาะกับใคร
ซึ่งทั้งหมดที่เราได้พูดมาก็คือเจ้า 2022 Honda ADV350 รุ่นใหม่ล่าสุดคันนี้ซึ่งหากให้เราสรุปโดยรวมก็คือรถคันนี้เหมาะทั้งการขับขี่ใช้งานในเมือง และการเดินทางท่องเที่ยว รวมไปถึงราคาค่าตัวในรุ่นเริ่มต้นที่ 181,900 บาทกับของที่ให้มากับตัวรถถือว่าคุ้มค่าแบบสุด ๆ จะติดอยู่เรื่องเดียวก็คือต่อจากนี้หารถยากแน่นอนถ้าใครคิดจะซื้อ เพราะมันจะขาดตลาดอย่างแน่นอนสำหรับเจ้า 2022 Honda ADV350 คันนี้
ราคาวางจำหน่าย 2022 Honda ADV350 |
รุ่น Standard |
181,900 บาท |
รุ่น RoadSync |
183,900 บาท |
รุ่น Touring Master Edition |
197,500 บาท |
รุ่น Urban Racer Edition |
199,500 บาท |
อ่านเพิ่มเติม : 2022 Honda ADV350 เปิดราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย
อ่านเพิ่มเติม : Test Ride 2021 All New Honda CBR1000RR-R Fireblade SP
อ่านเพิ่มเติม : 2022 Honda Africa Twin มาพร้อมการอัพเกรด