ลองขี่ BMW CE 04 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยสัมผัสในตอนนี้!
ต้องบอกว่าในปัจจุบันนั้นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าค่อนข้างได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในตลาดเมืองไทยไม่แพ้ทางฝั่งของรถยนต์เลย แต่ตอนนี้หลายคนก็ยังคงทำใจไม่ได้กับราคาของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งคุณก็ไม่ผิด เพราะเราเองก็คิดแบบนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับรถเครื่องยนต์สันดาปที่มีวางจำหน่ายในตลาดบ้านเราตอนนี้ แต่ในวันนี้เราอยากพาทุกคนไปสัมผัสกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสุดล้ำอย่าง BMW CE 04 ว่ามันจะเจ๋งขนาดไหน
ดีไซน์ภายนอกยังกับยานอวกาศ
ขุมพลังไฟฟ้าที่โคตรแรง
เทคโนโลยีจัดเต็มตามสไตล์ BMW
ระบบกันสะเทือน และระบบเบรก
ลองขี่แล้วนี่คือรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดในตอนนี้!
BMW CE 04 เหมาะกับใคร
BMW CE 04
ดีไซน์ภายนอกยังกับยานอวกาศ
แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ทุกคนจะต้องสะดุดตากับรถคันนี้นั่นก็คืองานดีไซน์ภายนอกของ BMW CE 04 ที่ไม่ว่าใครได้เห็นครั้งแรกก็จะทำให้นึกถึงภาพยนตร์ไซต์ไฟแนวอนาคตที่เราเคยดู หรือได้เห็นกันในกาตูนบ่อย ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งภายนอกตัวรถมาพร้อมชุดแฟริ่งที่ดูบึกบึน และมีเส้นสายที่เฉียบคม แต่แฝงไว้ด้วยการออกแบบที่เน้นหลักอากาศพลศาสตร์
แฟริ่งภายนอกสุดล้ำ
และสิ่งที่ทำให้ตัวรถดูแปลกตาคงจะเป็นในเรื่องของมิติตัวรถที่เจ้า CE 04 นั้นมีฐานล้อที่ยาวกว่ารถมอเตอร์ไซค์ปกติทั่ว ๆ ไป เพราะต้องทำไว้รับกับขุมพลังไฟฟ้าอันทรงพลังนั่นเองไม่งั้นเปิดคันเร่งทีคงมีหน้าหงายกันแน่นอนซึ่งฐานล้อของรถคันนี้ก็ยาวถึง 1,675 มม. กับขนาดตัวรถ กว้าง X ยาว X สูง ที่ 855 X 2,285 X 1,150 มม. รวมไปจนถึงเบาะนั่งตอนเดียวแบบยาวอันแปลกตา และชุดโปรอาร์มที่ตัวล้อด้านหลังก็ยิ่งเพิ่มความสะดุดตาให้แก่ตัวรถคันนี้ขึ้นไปอีก
ออกแบบคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์
ขุมพลังไฟฟ้าที่โคตรแรง
BMW CE 04 คันนี้มาพร้อมกับขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 31 kW หรือเทียบเท่าขุมพลังขนาด 42 แรงม้าในรถเครื่องยนต์สันดาป พร้อมด้วยแรงบิดขนาด 62 นิวตันเมตร ส่งกำลังขับเคลื่อนด้วยสายพาน ซึ่งเห็นแบบนี้ตัวรถสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-50 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 1.20 วินาทีเท่านั้น และจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 6.05 วินาที กับความเร็วสูงสุดที่ตัวรถสามารถทำได้คือ 120 กม./ชม. ตามสเป็คแต่จากที่เราได้ลองขี่นั้นบอกเลยว่ามันสามารถทำความเร็วได้มากกว่านี้ ซึ่งเป็นอะไรที่แรงมาก ๆ สำหรับขุมพลังไฟฟ้าของเจ้ารถคันนี้
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 31 kW หรือเทียบเท่าขุมพลังขนาด 42 แรงม้า
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นตัวรถมาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 8.5 kWh ซึ่งทาง BMW เคลมเอาไว้ว่าตัวรถสามารถวิ่งได้ไกล 130 กม./การชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ซึ่งสำหรับการชาร์จด้วยไฟบ้านโดยชุดสายชาร์จติดรถจะใช้เวลาชาร์จ 0-100 % ได้ภายในเวลา 4.20 ชม. แต่หากเป็นระบบชาร์จเร็วจะใช้เวลาเพียง 1.40 ชม. เท่านั้น แต่หากชาร์จที่ปริมาณแบตเตอรี่ 20-80 % จะใช้เวลาชาร์จเพียง 45 นาทีเท่านั้น
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ติดตั้งไว้ใต้ท้องรถ
เทคโนโลยีจัดเต็มตามสไตล์ BMW
แน่นอนว่าค่ายนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกบนตัวรถมาอย่างยาวนาน เพราะฉะนั้น BMW CE 04 คันนี้ก็มีมาให้ใช้แบบไม่น้อยหน้าเช่นกัน โดยเริ่มจากหน้าจอเรือนไมล์ขนาดใหญ่แบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมที่อยู่ทางตัวแฮนด์ด้านซ้าย ไม่ว่าคุณจะดูสถานะตัวรถ , รับสายโทรเข้า-ออก , ฟังเพลง หรือดูแผนที่ก็สามารถควบคุมได้ผ่านปุ่มบนตัวแฮนด์ทั้งหมด
หน้าจอเรือนไมล์ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว
พร้อมกันนี้ตัวรถจะมาพร้อมโหมดการขับขี่ให้คุณเลือกใช้ทั้งหมด 4 โหมด คือ ECO , Rain , Road และ Dynamicยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะตัวรถยังมาพร้อมระบบควบคุมการยึดเกาะถนน , ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) หรือจะเป็นระบบ ABS PRO ทางตัวรถก็มีมาให้พร้อม
สิ่งอำนวยความสะดวกจัดเต็ม
ระบบกันสะเทือน และระบบเบรก
BMW CE 04 มาพร้อมโช้คอัพด้านหน้าแบบเทเลสโคปิคที่มาพร้อมระยะยุบ 100 มม. ส่วนด้านหลังมาพร้อม Mono Shock ที่ถูกวางไว้ทางฝั่งซ้ายของตัวรถที่ยึดไว้กับสวิงอาร์มซึ่งดูแปลกตามาก ๆ โดยโช้คอัพด้านหลังจะมาพร้อมระยะยุบที่ 92 มม. ต่อมาในส่วนของระบบเบรกนั้น BMW CE 04 มาพร้อมจานดิสก์เบรกคู่ด้านหน้าขนาด 265 มม. ที่ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 4 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังมาพร้อมจานดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 265 มม. ที่ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 1 สูบ
ระบบเบรกจัดเต็มมาพร้อม ABS Pro
ลองขี่แล้วนี่คือรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดในตอนนี้!
เอาหล่ะมาลองขี่กันบ้างดีกว่า…สำหรับในเรื่องของงานดีไซน์นั้นเราบอกเลยว่าส่วนตัวแล้วเราชอบมาก เพราะตัวรถดูล้ำในแบบที่ไม่ซ้ำใคร ขับขี่ไปตรงไหนใครเห็นก็เป็นต้องเหลียวมอง ซึ่งในแง่ของการออกแบบนั้นเราคิดว่าความชอบของแต่ละคนมีไม่เหมือนกันเราเลยจะขอข้ามในเรื่องของงานดีไซน์ไปเลยก็แล้วกัน มาต่อกันที่ท่าทางการนั่งต้องบอกเลยว่าตัวรถทำออกมาได้ดีมาก ท่าทางการนั่งขับขี่บนเจ้า BMW CE 04 นั้นสบายเอามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวเบาะอันหนานุ่มซึ่งหากมองดูด้วยสายตานั้นคิดว่ามันต้องเมื่อยตูดแน่นอน แต่เมื่อได้ลองนั่งมันกลับตรงกันข้าม เพราะด้วยเบาะนั่งที่นุ่มรับกับตัวแฮนด์บาร์ทรงกว้างที่วางไว้อย่างพอดีรวมเข้ากับตำแหน่งวางเท้าขนาดใหญ่ทั้งหมดจึงทำให้ได้ออกมาเป็นท่าทางการขับขี่ที่ผ่อนคลาย และสบายสุด ๆ
ท่าทางขับขี่ที่ผ่อนคลาย
ในส่วนต่อมากับโหมดการขับขี่ หรือคำสั่งควบคุมตัวรถต่าง ๆ ก็ใช้งานได้อย่างง่ายดายลื่นไหล หากใครที่เป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ BMW อยู่แล้วก็จะเข้าใจระบบเหล่านี้ได้ไม่ยาก เพราะคำสั่ง หรือปุ่มควบคุมต่าง ๆ นั้นก็เป็นการผสมผสานมาจากรถมอเตอร์ไซค์ของทางค่ายในรุ่นอื่น ๆ นั่นแหละ ซึ่งการเชื่อมต่อตัวรถเข้ากับโทรศัพท์ของเราได้ทันที แถมยังสามารถดึงแผนที่ หรือระบบนำทางจากมือถือของเราขึ้นสู่หน้าจอเรือนไมล์ได้นั้นเป็นอะไรที่สะดวกสบายสำหรับการเดินทางมาก ๆ
มาพร้อม 4 โหมดการขับขี่ให้เลือกใช้งาน
ส่วนต่อมากับขุมพลังเครื่องยนต์ในรูปแบบไฟฟ้าที่ให้มา เราขอบอกเลยว่าตัวรถให้ความรู้สึกที่ไม่แตกต่างไปจากการขับขี่รถเครื่องยนต์สันดาปเลย เรียกได้ว่านี่คือรถมอเตอร์ไซค์ที่ให้ความรู้สึกแบบเดียวกับเวลาที่เราขับขี่รถน้ำมันเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดคันเร่งแซง การเบรก หรือการใช้เอ็นจิ้นเบรกช่วยในการหยุดรถ BME CE 04 สามารถทำทุกอย่างออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเราสามารถควบคุมตัวรถได้อย่างง่ายดาย แต่จะมีอยู่จุดหนึ่งที่แตกต่างนั่นก็คือเมื่อเราทำการปิดคันเร่งบนตัวรถจะมีแรงกระชาก หรือแรงฉุดที่เราจับความรู้สึกได้ที่มากกว่ารถน้ำมัน แต่คุณอย่าลืมว่านี่คือรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพราะฉะนั้นความแรง หรืออัตราเร่งต่าง ๆ ตัวรถจะมาเร็วมาก ๆ เร็วจนเราตกใจได้เลย หรือพูดง่าย ๆ ก็คือมันแรงมากจริง ๆ สำหรับ BMW CE 04 คันนี้
ฐานล้อที่ยาวกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป
BMW CE 04 เหมาะกับใคร
สุดท้ายนี้เราบอกเลยว่ารถคันนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร และตัวรถมาพร้อมสไตล์ที่แตกต่าง ซึ่งมันเหมาะสำหรับการใช้งานภายในเมือง และในชีวิตประจำวันเท่านั้น เพราะอย่างที่เราได้บอกไปว่าแบตเตอรี่ของตัวรถสามารถวิ่งได้เพียง 130 กม./การชาร์จ 1 ครั้งเท่านั้น
ราคา 859,000 บาท
ซึ่งนั่นทำให้มันไม่เหมาะสำหรับการออกทริป หรือการเดินทางไกล และอีกอย่างด้วยราคาค่าตัวของมันที่ 859,000 บาท นั้นแน่นอนว่ามันเหมาะสำหรับผู้ที่พร้อม และรักในความแตกต่างเท่านั้น ซึ่งมันไม่ใช่รถตลาดทั่วไปอย่างแน่นอน และอีกอย่างเรามองว่ามันเหมาะสำหรับเป็นรถสะสมเพราะนี้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นแรกจากทาง BMW Motorrad ที่เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม : ลองขี่ 2021 New BMW R nineT รถที่ว่ากันว่าเท่ที่สุดแล้วในค่ายใบพัดสีฟ้า
อ่านเพิ่มเติม : ลองขี่ BMW R 18 ได้ฟิวบุตรแห่งอนาธิปไตยอารมณ์โก๋มาเต็ม
อ่านเพิ่มเติม : ลองขี่ BMW R 1250 RT ตัวจบสายเดินทางของจริงที่ทำให้เราลืม GS ไปเลย