ลองขี่ NIU NQI GT Sport สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เราอยากให้คุณได้รู้จักในยุคที่ราคาน้ำมันพุ่งปรี๊ดแบบนี้!

ลองขี่ NIU NQI GT Sport สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เราอยากให้คุณได้รู้จักในยุคที่ราคาน้ำมันพุ่งปรี๊ดแบบนี้!

ในช่วงงาน Motor Show ที่ได้ผ่านพ้นไปเมื่อเร็ว ๆ นี้เราคงจะได้เห็นอะไรบางอย่างภายในงานปีนี้แล้วว่ากระแสของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยนั้นได้เริ่มเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะเห็นได้จากยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าในปีนี้ที่เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ ทั้งที่ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ ที่มีวางจำหน่ายภายในงานปีนี้ก็ไม่ได้เป็นรถรุ่นใหม่ หรือรุ่นล่าสุดอะไรเลย นั่นแสดงให้เห็นว่าคนไทยได้เปลี่ยนความคิด และหันมาสนใจยานยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นหลังจากที่ตระหนักได้ว่าราคาน้ำมันในรถเครื่องยนต์สันดาปนั้นไม่มีวี่แววที่จะลดลงแล้ว หนำซ้ำราคายังกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นทำให้ในตอนนี้ทุกคนกำลังเล็ง และมองหายานยนต์ไฟฟ้าเพื่อมาใช้งานในชีวิตประจำวันกันเพิ่มมากขึ้นไม่เว้นแม้แต่กระทั่งในรถมอเตอร์ไซค์เอง ซึ่งในวันนี้ทาง AutoFun Thailand จึงอยากจะขอพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งรุ่นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่น่าสนใจ และมีวางจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย ณ เวลานี้กับเจ้า NIU NQI GT Sport นั่นเอง

• ทำความรู้จัก NIU แบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากประเทศจีน
• แบรนด์จีนแต่งานดีไซน์ระดับยุโรป
• ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า
• ระบบกันสะเทือน และระบบเบรก
• เทคโนโลยีสุดล้ำที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีในรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแบรนด์นี้
• ลองขี่แล้วเป็นไง
• ราคาวางจำหน่าย และความคุ้มค่า

ทำความรู้จัก NIU แบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากประเทศจีน

สำหรับแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอย่าง NIU (นิว) นั้นเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติจีนซึ่งคำว่า NIU นั้นจริง ๆ ต้องอ่านออกเสียงว่า “หนิว” ซึ่งแปลว่าวัวนั่นเองซึ่งเราจะเห็นได้จากโลโก้บนตัวรถคันนี้ที่มีลักษณะเป็นเหมือนส่วนหัวของวัวที่มาพร้อมเขา 2 ข้างนั่นเอง แต่ด้วยความที่รถสกู๊ตเตอร์แบรนด์นี้ถูกส่งออกไปวางขายยังฝั่งประเทศยุโรปจึงทำให้การออกออกเสียงว่า “หนิว” นั้นยากเกินไปสำหรับคนชาติตะวันตก ทางแบรนด์จึงได้ทำการเปลี่ยนแปลงชื่อของแบรนด์ตัวเองเสียใหม่โดยอ่านว่า NIU (นิว) นั่นเอง 

แบรนด์จีนแต่งานดีไซน์ระดับยุโรป

ต้องบอกก่อนเลยว่าถึงแม้แบรนด์อย่าง NIU นั้นจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติจีนแต่การออกแบบ และงานดีไซน์นั้นเรียกได้ว่าสวยงามไม่แพ้รถมอเตอร์ไซค์จากค่ายญี่ปุ่น หรือยุโรปเลย โดยสำหรับ NIU NQI GT Sport ที่เราได้ไปลองขี่กันมาแล้วนั้นตัวรถจะมาพร้อมชุดไฟแบบ LED ตลอดทั้งคันซึ่งจะโดดเด่นมาด้วยชุดไฟกลมด้านหน้าขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ที่มาพร้อมกับไฟ สูง และไฟต่ำ พร้อมไฟ Day Time Running Lift ที่ถูกติดตั้งไว้บริเวณรอบขอบวงกลมของชุดไฟด้านหน้า

พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ที่ถูกติดตั้งไว้บริเวณข้างก้านเบรกทั้ง 2 ซึ่งนอกจากให้ในเรื่องของความสวยงามในการดีไซน์แล้วยังให้แสงส่องสว่างที่คมชัด และเพียงพออีกด้วย และในส่วนท้ายนั้น NIU NQI GT Sport ได้มาพร้อมกับชุดไฟเบรกแบบ LED ในลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าในแนวนอนวางยาวตลอดส่วนท้ายของรถซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน

ต่อมาในส่วนของแฮนด์บาร์ตัวรถมาพร้อมกับแฮนด์บาร์ทรงกว้าง แบบยกสูงซึ่งให้ความคล่องตัวในการบังคับเลี้ยว และท่าทางการขับขี่ที่สะดวกสบายแบบสุด ๆ นอกจากนี้ในชิ้นงานของตัวจุดยึดแผงคอนั้นต้องบอกเลยว่าแบรนด์รถอย่าง NIU นั้นได้ใส่ใจในรายละเอียดเอาไว้ดีมาก ๆ เพราะตัวยึดแผงคอนอกจากจะสวยงามประณีตแล้วทางแบรนด์ยังได้มีการสลักโลโก้ที่มีลักษณะเป็นรูปส่วนหัวของวัวเอาไว้อีกด้วย

ในส่วนของหน้าจอเรือนไมล์นั้น NIU NQI GT Sport มาพร้อมกับหน้าจอเรือนไมล์ขนาดใหญ่แบบไดนามิกที่จะเปลี่ยนสีไปตามรูปแบบการขับขี่ได้เองแบบอัตโนมัติ ซึ่งนอกจะแสดงข้อมูลของตัวรถ และปริมาณแบตเตอรี่เอาไว้อย่างครบถ้วนแล้วตัวเรือนไมล์ยังมองง่ายชัดเจน และสบายตาอีกด้วย และต่อมาในตัวเบาะนั่งนั้น NIU NQI GT Sport มาพร้อมกับเบาะนั่งแบบตอนเดียวที่มีขนาดกว้าง และหนานุ่มซึ่งให้ท่าทางการขับขี่ที่สะดวกสบายทั้งผู้ขับขี่เอง และผู้ซ้อน

เพราะนอกจากตัวเบาะจะกว้างและหนานุ่มแล้วตัวรถยังมาพร้อมพื้นที่วางเท้าด้านหน้าที่กว้างสุด ๆ ทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งการวางเท้าได้ตามต้องการขณะขับขี่ และสุดท้าย NIU NQI GT Sport คันนี้ยังได้มาพร้อมกับตัวจับกันตกผู้ซ้อนที่ดีไซน์เป็นรูปส่วนเขาของวัวเอาไว้ได้อย่างสวยงาม โดยรวมแล้วถือว่า NIU NQI GT Sport นั้นออกแบบมาดูดีสวยงามลงตัวแบบสุด ๆ เลยทีเดียว จนเราคิดว่านี่อาจจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่สวยที่สุดแล้วที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทยตอนนี้ก็ได้

ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า

สำหรับ NIU NQI GT Sport นั้นมาพร้อมขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 3,000 w ขนาด 60v ความจุ 26 Ah จาก Bosch ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้เฉลี่ยที่ 80 กม./ ชม. พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคุณภาพสูงถึง 2 ลูกสามารถวิ่งได้ไกลประมาณ 140 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง โดยแบตเตอรี่แต่ละลูกจะมีน้ำหนัก 11 กก./ ลูก ซึ่งตัวแบตเตอรี่สามารถถอดออกไปชาร์จนอกตัวรถได้อย่างง่ายดาย

ซึ่งแบตเตอรี่ทั้ง 2 ลูกจะถูกซ่อนเอาไว้ใต้เบาะผู้ขับขี่ 1 ลูก และอีก 1 ลูกจะถูกซ่อนเอาไว้บริเวณใต้ตำแหน่งวางเท้าในส่วนหน้าของตัวรถ โดย NIU NQI GT Sport จะมาพร้อมกับอุปกรณ์สายชาร์จที่แถมมาให้กับตัวรถเป็นที่เรียบร้อยซึ่งการชาร์จไฟแบตเตอรี่เต็มทั้ง 2 ก้อนจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 6 ชม. แต่หากคุณอยากชาร์จได้ไวขึ้นต้องซื้อชุดชาร์จเพิ่มเติมมาอีก 1 ชุดเพื่อลดระยะเวลาการชาร์จให้เหลือ 3 ชม. นิด ๆ ได้ หรือลดระยะเวลาลงไปได้ครึ่งหนึ่งนั่นเอง ซึ่งชุดสายชาร์จที่ว่าจะสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต้น ๆ อันนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับวัยรุ่นใจร้อน

ระบบกันสะเทือน และระบบเบรก

NIU NQI GT Sport มาพร้อมโช้คอัพด้านหน้าแบบไฮดรอลิค ส่วนด้านหลังมาพร้อมโช้คอัพคู่แบบยูนิตสปริงที่สามารถปรับตั้งค่าการตอบสนองของโช้คอัพได้ ในส่วนของระบบเบรกนั้น NIU NQI GT Sport จะมาพร้อมกับจานดิสก์เบรกทั้งด้านหน้า และด้านหลังของตัวรถ ซึ่งทั้งหมดเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน

เทคโนโลยีสุดล้ำที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีในรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแบรนด์นี้

สำหรับ NIU NQI GT Sport นั้นมาพร้อมกับ 3 โหมดการขับขี่ให้เลือกใช้งานคือในโหมด Sport จะมาพร้อมอัตราเร่ง และความเร็วที่เต็มที่ซึ่งสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 80 กม./ชม. ต่อมาในโหมด Dynamic จะเป็นการประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่ลงมาโดยในโหมดนี้ตัวรถจะสามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 45 กม./ชม. และสุดท้ายโหมด E-Save ที่จะช่วยให้คุณประหยัดแบตเตอรี่ได้เยอะที่สุดแต่ตัวรถจะทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 25 กม./ ชม. ซึ่งแต่ละโหมดก็ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลายในชีวิตประจำวันซึ่งคุณสามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการ

ต่อมากับระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนสุดล้ำที่จะเชื่อมต่อกับกล่อง ECU ที่ถูกติดตั้งไว้ในตัวรถได้โดยตรงซึ่งความสามารถดังกล่าวนี้จะช่วยให้คุณตรวจเช็ครถของคุณได้ตลอดเวลาโดยเซ็นเซอร์ที่ถูกติดตั้งไว้ทั่วรถกว่า 32 จุดซึ่งจะถูกตรวจเช็คกว่า 200 ครั้ง/นาที ผ่านระบบที่ชื่อว่า OTA ของตัวรถ ซึ่งให้ความแม่นยำที่สูงเรียกว่า 99% เลยทีเดียว และมั่นใจได้ว่าระบบซอฟแวร์ดังกล่าวอัพเกรดตัวเองอยู่ตลอดเวลาผ่านระบบ 4G แบบอัตโนมัติ โดยที่คุณไม่ต้องนำรถเข้ามาศูนย์บริการแต่อย่างใด เพราะหากตัวรถตรวจเจอความผิดปกติ หรือมีส่วนใดบนตัวรถขัดข้อง ระบบจะมาพร้อมคำแจ้งเตือนรวมทั้งบอกวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นมาให้แบบเสร็จสรรพ นอกเสียจากปัญหา หรือความเสียหายดังกล่าวจะมากเกินไปจนต้องถึงมือช่างเพียงอย่างเดียวระบบก็จะแจ้งบอกคุณว่าให้นำรถไปยังศูนย์บริการ

โดยกล่องควบคุมอัจฉริยะของ NIU NQI GT Sport จะทำให้คุณสามารถตรวจเช็กสถานะของตัวรถได้ถึง 17 อย่าง ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งตำแหน่งของตัวรถปัจจุบัน , ประวัติการขับขี่ย้อนหลังพร้อมเส้นทาง , สถานะของตัวรถว่าพร้อมใช้งานหรือไม่   หรือจะเป็นสถิติการใช้พลังงานในแต่ละวัน แต่ละครั้งได้แบบทันทีผ่านสมาร์ทโฟนของคุณ นอกจากนี้ตัวรถจะแจ้งเตือนทันทีหากรถของคุณถูกเคลื่อนย้ายตำแหน่งโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งทั้งหมดนี้จะทำงานอยู่ตลอดเวลาผ่านระบบ 4G แม้ว่าคุณจะดับเครื่องรถไปแล้วก็ตาม ซึ่งเรียกได้ว่าเจ้ารถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอย่าง NIU NQI GT Sport คันนี้มีระบบที่ล้ำหน้าสุด ๆ เลยทีเดียว

ลองขี่แล้วเป็นไง

เริ่มกันด้วยงานออกแบบดีไซน์ของ NIU NQI GT Sport นั้นเราให้ผ่านเพราะเรียกได้ว่าทุกจุดมาพร้อมคุณภาพ และงานประกอบระดับยุโรปจริง ๆ ตัวรถมีความสวยงามตามแบบของรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์ยอดนิยมอยู่แล้วซึ่งเราขอยกให้มันเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่สวยที่สุดที่มีวางจำหน่ายอยู่ในประเทศไทยขณะนี้เลย

ต่อมาสำหรับท่าทางการขับขี่นั้นต้องบอกเลยว่า NIU NQI GT Sport เป็นรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ขี่ง่ายคล่องตัว เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นอย่างยิ่ง เพราะด้วยขนาดที่กะทัดรัดกับน้ำหนักตัวเพียง 110 กก.เท่านั้น ซึ่งตัวรถให้ท่าทางการขับขี่ที่ค่อนข้างสะดวกสบายแต่ติดตรงที่ตำแหน่งวางเท้าด้านหน้าในส่วนของผู้ขับขี่ที่เรามองว่ามันค่อนข้างสูงไป จึงอาจจะทำให้มีปัญหากับคนตัวสูง ๆ ด้วยเนื่องจากในส่วนของตำแหน่งวางเท้าด้านหน้านั้นมีการเก็บแบตเตอรี่ไว้ใต้เท้าผู้ขับขี่ 1 ลูก

นั่นจึงทำให้ในส่วนนั้นต้องมีความหนาขึ้นมาพอสมควรเพื่อใช้ในการเก็บแบตเตอรี่ ซึ่งความหนาตรงนี้เองทำให้เท้าด้านหน้าของผู้ขับขี่จะตั้งชันขึ้นมาเล็กน้อย แต่ด้วยความที่ตัวรถถูกสร้างขึ้นมาให้ขับขี่ใช้งานภายในเมือง หรือในชีวิตประจำวันที่ไม่ได้เน้นระยะทางการขับขี่ที่ไกล ผู้ขับขี่จะต้องมีการหยุดรถจอดพักอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ท่าทางการขับขี่ไม่เมื่อยเท่าไหร่ แต่หากต้องขับขี่เป็นระยะทางไกล ๆ นั้นบอกเลยว่ามีเมื่อยแน่นอน แต่สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นเพราะด้วยข้อจำกัดในเรื่องของแบตเตอรี่ที่ให้มานั่นเอง

ส่วนต่อมาในเรื่องของขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าของตัวรถที่ให้มาซึ่งจากการขับขี่นั้นเราสามารถทำความเร็วสูงสุดบนตัวรถได้  77 กม./ชม. ในโหมด Sport ซึ่งก็เป็นความเร็วที่เพียงพอต่อการขับขี่ใช้งานภายในเมืองอย่างกรุงเทพฯ แต่สำหรับในโหมด Dynamic และ E-Save ที่ตัวรถจะถูกลดความเร็วสูงสุดลงมาให้เหลือที่ 25-45 กม./ชม. นั้นเราว่ามันไม่เวิร์คสำหรับการขับขี่ใช้งานภายในเมืองเพราะเราคิดว่ามันเป็นความเร็วที่ช้าจนเกินไป และอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นได้นอกเสียจากคุณจะวิ่งในเลนซ้ายสุดถ้าอยากจะขับขี่ด้วยความเร็วขนาดนี้ภายในเมือง แต่เรามองว่าโหมดการขับขี่อย่าง Dynamic และ E-Save นั้นเหมาะมาก ๆ ต่อการใช้งานภายในหมู่บ้าน หรือตามท้องถนนที่เป็นตรอกซอกซอยต่าง ๆ ที่ไม่ได้เป็นถนนเส้นหลักเพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าการขับขี่รถของการจราจรในกรุงเทพฯ ในชั่วโมงเร่งด่วนนั้นเป็นอย่างไร แต่รถอย่าง NIU NQI GT Sport คันนี้ด้วยความที่เราเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพราะฉะนั้นเวลาคุณจอดติดไฟแดง และเปิดคันเร่งออกไปนั้นบอกได้เลยว่าหายห่วง กำลังมีเหลือ ๆ ตัวรถพุ่งแบบสุด ๆ ซึ่งนี่คือข้อดีของรถไฟฟ้าที่ไม่ต้องรอรอบจากกำลังเครื่องยนต์แบบในรถเครื่องสันดาป

ในส่วนต่อมาสำหรับแอปพลิเคชั่นที่ถูกติดตั้งมากับตัวรถนั้นเราบอกได้เลยว่าคุณจะต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน  หากรู้ว่าเจ้ารถ NIU NQI GT Sport คันนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะด้วยความที่ตัวรถมีซิมการ์ดติดตั้งมาให้แบบเดียวกับในโทรศัพท์มือถือของเรา นั่นจึงทำให้รถของเราถูกเชื่อมต่อด้วยสัญญาณ 4 G อยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันทำให้เราสามารถติดตาม และตรวจสอบสถานะของเราได้ทุกที่ทุกเวลาเรียกว่าหากมีใครมาขยับรถของเราเพียงเล็กน้อยระบบก็จะแจ้งเตือนให้คุณทราบผ่านมือถือของคุณทันที แถมยังรู้ตำแหน่งได้อีกด้วยว่ารถของคุณถูกเคลื่อนไปยังจุดไหน ซึ่งเรียกว่าใครคิดจะขโมยรถคุณนั้นไม่ได้แน่นอน

นอกจากนี้ระบบตรวจเช็คสภาพความพร้อมของตัวรถในการขับขี่นั้นเสมือนกับคุณมีช่างส่วนตัว หรือคุณนำรถเข้าไปตรวจเช็คใหญ่ที่ศูนย์บริการอยู่ตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ เพราะเซ็นเซอร์ที่อยู่บนตัวรถนั้นมีเยอะมากจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของมอเตอร์ , แบตเตอรี่ , เบรก , โชคอัพ และอื่น ๆ อีกมากมายที่แอปพลิเคชั่นจะบอกคุณทุกอย่างหากมีส่วนใดส่วนหนึ่งเสียหรือชำรุด และหากเป็นความเสียหายที่คุณสามารถแก้ไขเองได้ทันทีตัวแอปพลิเคชั่นจะมาพร้อมการบอกวิธีการแก้ไขปัญหามาให้คุณอีกด้วย ซึ่งเรียกได้ว่านอกจากจะรู้ปัญหาแล้วคุณยังจะรู้วิธีแก้ไขอีกด้วย ซึ่งเอาจริง ๆ นี่เป็นระบบที่เราทึ่งมาก ๆ ที่ในรถสกู๊ตเตอร์คันจิ๋วอย่าง NIU NQI GT Sport สามารถทำได้

ส่วนต่อมากับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ให้มาถึง 2 ลูกกับระยะทางการใช้งานที่ 140 กม. นั้นเราคิดว่ามันเพียงพอแล้ว เพราะหากคุณใช้รถด้วยความเร็วสูงสุดอยู่ตลอดเวลาระยะทางจะถูกลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 80-100 กม. ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการขับขี่ และการเซฟแบตเตอรี่ของแต่ละคนด้วย แต่คุณอย่าลืมว่าแบตเตอรี่ของคุณสามารถถอดออกไปชาร์จได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะฉะนั้นหากคุณซื้อมันมาเพื่อขับขี่ไปสำนักงาน ไปออฟฟิศเมื่อคุณไปถึงก็เพียงแค่ถอดแบตเตอรี่ออกมาชาร์จไว้ ตอนเย็นเลิกงานคุณก็พร้อมขี่กลับบ้านต่อได้ในทันที ซึ่งนี่เป็นเป้าหมาย และจุดประสงค์หลักที่รถอย่าง NIU NQI GT Sport คันนี้ถูกสร้างขึ้นมาก็เพื่อตอบสนองต่อกลุ่มลูกค้า

และแน่นอนว่ามันไม่ได้เป็นรถที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้วิ่งในระยะทางไกลแบบข้ามตัวจังหวัด หรือเป็นรถออกทริปท่องเที่ยวได้ เพราะต้องบอกว่าการใช้งานขับขี่ในรูปแบบนี้จริง ๆ ก็สามารถทำได้แต่ด้วยระยะเวลาการชาร์จไฟของมัน เราจึงคิดว่ามันไม่สะดวกอย่างแน่นอน และสุดท้ายด้วยความที่ตัวแบตเตอรี่ถูกติดตั้งไว้ใต้เบาะนั่งอีก 1 ลูกนั่นจึงทำให้ NIU NQI GT Sport คันนี้สูญเสียพื้นที่ในการเก็บของไปพอสมควร บวกกับหากคุณขับขี่ไปทำงานคุณจะต้องพกพาเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วยนั่นจึงจะทำให้ NIU NQI GT Sport คันนี้ไม่มีพื้นที่เก็บสัมภาระใต้เบาะให้คุณเลย

ราคาวางจำหน่าย และความคุ้มค่า

สุดท้ายหากมองราคาวางจำหน่ายของ NIU NQI GT Sport ที่ 109,000 บาท กับงานออกแบบ สมรรถนะ หรือเทคโนโลยีที่ตัวรถให้มาเราถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ หากคุณกำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าซัก 1 คันที่สามารถขับขี่ใช้งานภายในเมือง สามารถขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ สำหรับเราในตอนนี้เรามองว่า NIU NQI GT Sport คันนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ กับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคุณภาพสูงที่มีวางจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย ณ เวลานี้ 

อ่านเพิ่มเติม : เมื่อไต้หวันกำลังจะเข้าสู่เมืองแห่งรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแบบ 100%

อ่านเพิ่มเติม : ทำความรู้จัก Land Moto District ไฟฟ้าสายเดิร์ท

อ่านเพิ่มเติม : วัยรุ่นดูไบกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่งอาหาร