2022 Triumph Tiger 1200 พี่เสือสายลุยรุ่นใหญ่เปิดตัวในประเทศไทยแล้ว!
สิ้นสุดการรอคอยกันเสียทีสำหรับสาวกแอดเวนเจอร์ไบค์ของพี่เสือพันธุ์ดุจากค่ายผู้ดีอังกฤษ Triumph อย่าง 2022 Triumph Tiger 1200 ที่ได้ทำการเปิดตัวพร้อมราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยกันแล้วอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคาร ที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งรายละเอียดของการเปิดตัวในครั้งนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างเราไปชมกันเลย
- แอดเวนเจอร์พี่ใหญ่แห่งตระกูล Tiger
- ขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่
- เทคโนโลยีอัดแน่น
- ในแต่ละรุ่นย่อยจะมีความแตกต่างกันออกไป
- รุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย
แอดเวนเจอร์พี่ใหญ่แห่งตระกูล Tiger
สำหรับ 2022 Triumph Tiger 1200 มันคือรถแอดเวนเจอร์ไบค์พี่ใหญ่สุดจาก Triumph ที่ก่อนนี้ได้มีข่าวการทดสอบออกมาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดพี่เสือดุคันนี้ก็เปิดตัวไปแล้วในหลายประเทศ จนในที่สุดก็มาถึงคิวของประเทศไทยเรากันแล้วในครั้งนี้ โดย 2022 Triumph Tiger 1200 มุ่งเน้นไปที่การลดน้ำหนักตัวรถ เพื่อให้มีน้ำหนักที่เบาโดยการใช้ตัวเฟรมแบบใหม่ พร้อมซับเฟรมส่วนท้าย และชุดพักเท้าแบบอลูมิเนียมซึ่งนั้นช่วยให้ตัวรถลดน้ำหนักลงไปได้มากกว่า 25 กก. เลยทีเดียว
นอกจากน้ำหนักที่เบาลงแล้วตัวรถ 2022 Triumph Tiger 1200 ยังมาพร้อมระบบไฟส่องสว่าง LED แบบใหม่ พร้อมไฟ DRL และไฟหน้าปรับทิศทางตามการเข้าโค้ง (Adaptive Cornering Lights)
พร้อมหน้าจอเรือนไมล์แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อระบบ My Triumph Connectivity ที่สามารถใช้เชื่อมต่อเพื่อควบคุมกล้อง GoPro ได้เช่นเดิม พร้อมระบบการนำทางแบบ Turn by Turn
ขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่
ซึ่งหัวใจของขุมพลังในครั้งนี้อยู่ที่การเปลี่ยนมาใช้เพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-Plane ที่คล้ายคลึงกับเครื่องยนต์ Cross-Plane ของทางฝั่ง Yamaha นั่นเอง โดยเครื่องยนต์แบบ T-Plane จะมาพร้อมช่วงการจุดระเบิดแบบไม่เท่ากัน ซึ่งช่วยให้ตัวรถขี่ได้สนุกขึ้นในทุกช่วงรอบความเร็ว พร้อมทั้งยังได้กำลัง และแรงบิดที่สูงขึ้น ความสามารถในการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้นในช่วงรอบต่ำ และการตอบสนองที่รวดเร็วต่อคันเร่ง
ผสมผสานเข้ากับข้อดีทั้งหมดของเครื่องยนต์แบบ 3 สูบเรียงอันเป็นเอกลักษณ์ขนาด 1,160 ซี.ซี. ที่พร้อมส่งมอบขุมพลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 9,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 130 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบ/นาทีทำให้ตัวรถ 2022 Triumph Tiger 1200 มาพร้อมสมรรถนะที่โดดเด่นไม่ว่าคุณจะขี่บนถนน หรือบนทางวิบาก และนอกจากนี้มันยังมาพร้อมกับระบบเกียร์แบบ Triumph Shift Assist ในทุกรุ่นอีกด้วย
เทคโนโลยีอัดแน่น
และนอกจากเครื่องยนต์อันทรงพลังแล้ว 2022 Triumph Tiger 1200 ยังมาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำหน้ามากมายไม่ว่าจะเป็น
-ระบบเรดาร์ที่สามารถตรวจจับรถที่เข้ามาในจุดอับสายตาได้ (Triumph Blind Spot Radar )
-ระบบ Cornering ABS และ Cornering TCS ที่จะทำงานประสานร่วมกับ IMU ของตัวรถ
-โหมดการขับขี่ให้เลือกใช้มากถึง 6 โหมดได้แก่ Road, Rain, Sport, Rider-configurable, Off-Road และOff-Road Pro
-ระบบ Keyless ที่ไม่ต้องคอยเสียบกุญแจสตาร์ทรถให้วุ่นวาย
-ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง
-ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
-ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
-เบาะนั่งปรับอุณหภูมิสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
-ปลอกแฮนด์แบบปรับความร้อน
ในแต่ละรุ่นย่อยจะมีความแตกต่างกันออกไป
โดยทั้งนี้ในแต่ละรุ่นย่อยจะมาพร้อมออฟชั่นที่แตกต่างกันซึ่งนอกจาก Triumph Tiger 1200 แล้วยังมีรุ่น GT และ Rally และที่น่าสนใจในปีนี้คือการเพิ่มรุ่น Explorer ที่มาพร้อมถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดใหญ่ถึง 30 ลิตร สำหรับในรุ่น Tiger 1200 GT และ GT Pro จะมาพร้อมระบบกันสะเทือนเซมิแอคทีฟรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Showa ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มสมรรถนะในหลากหลายสถานการณ์การขับขี่ รุ่น GT จะมีระยะยุบตัว 200 มม. และได้รับการตั้งค่าเพื่อมอบความสะดวกสบายพร้อมความสามารถในการขับขี่บนท้องถนนได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมชุดล้ออะลูมิเนียมด้านหน้าขนาด 19 นิ้ว และด้านหลัง 18 นิ้ว
ในส่วนของ Tiger 1200 Rally และ Rally Pro จะมีระยะยุบตัวเพิ่มขึ้นอีก 20 มม. เป็น 220 มม. พร้อมการตั้งค่าที่เน้นการใช้งานบนทางวิบากที่มากยิ่งขึ้น เป้าหมายของการใช้ระบบเซมิแอคทีฟ คือการมอบสัมผัสในการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ พร้อมการยึดเกาะ การควบคุมรถ และการซับแรงกระแทกที่ดีที่สุด ระบบจะรับข้อมูลแบบเรียลไทม์อย่างต่อเนื่องจากหลากหลายเซนเซอร์บนตัวรถ และใช้อัลกอริธึมภายในยูนิตควบคุมระบบกันสะเทือน ในการเลือกการตั้งค่าระบบกันสะเทือนที่ดีที่สุดสำหรับสภาวะการขับขี่ในปัจจุบัน และการกำหนดค่าที่ผู้ขับขี่เลือกไว้ โดยวาล์วโซลินอยด์ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะทำการปรับแต่งการตั้งค่าการยุบตัวได้ภายในไม่กี่มิลลิวินาที พร้อมชุดล้อซี่ลวดแบบไม่มียางใน กับล้อด้านหน้าขนาด 21 นิ้ว และด้านหลัง 18 นิ้ว เพื่อให้รองรับกับการขับขี่ในสไตล์ Off-Road ได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
และสำหรับในรุ่น Explorer จะมาพร้อมระบบตรวจจับจุดบอดที่เป็นเทคโนโลยีใหม่จาก Triumph ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกันกับที่ใช้อยู่ในรถอย่าง Ducati Multistrada V4 และ KTM 1290 Super Adventure S นั่นเอง โดยเรดาร์จะทำทำงานร่วมกันทั้งส่วนหัว และส่วนท้ายของรถเพื่อสนับสนุนผู้ขับขี่ โดยระบบเตือนจุดอับสายตาจะเปิดไฟสัญญาณเตือนใต้กระจกมองหลัง เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามียานพาหนะคันอื่นอยู่ด้านหลังในจุดอับสายตา และระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลนจะแสดง
รุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย
สำหรับในประเทศไทยของเรานั้นทาง Triumph Thailand ได้ทำการเปิดตัว 2 รุ่นด้วยกันคือในรุ่น Triumph Tiger 1200 Rally Pro ในราคา 972,000 บาท และในรุ่นท็อปสุดอย่าง Triumph Tiger 1200 Rally Explorer ในราคา 1,039,000 บาท ซึ่งในอนาคตทาง Triumph บอกว่าอาจจะมีรุ่นอื่น ๆ ตามเข้ามาเพิ่มเติมทั้งนี้ต้องดูตลาด และเสียงเรียกร้องจากแฟน ๆ
เพราะที่ผ่านมานั้นส่วนใหญ่แล้วไบค์เกอร์ชาวไทยจะมุ่งไปที่ตัวท็อปสุดของรุ่นเท่านั้น ดังนั้นทาง Triumph จึงได้นำ Triumph Tiger 1200 Rally Pro และ Triumph Tiger 1200 Rally Explorer เข้ามาวางจำหน่ายนั่นเอง ซึ่งสำหรับใครที่สนใจก้สามารถติดต่อไปยังโชว์รูมใกล้บ้านได้เลย เพราะตอนนี้รถพร้อมวางจำหน่ายแล้วเป็นที่เรียบร้อย
ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย |
Triumph Tiger 1200 Rally Pro |
972,000 บาท |
Triumph Tiger 1200 Rally Explorer |
1,039,000 บาท |
อ่านเพิ่มเติม : Triumph Tiger 1200 กับ 10 คำตอบที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อรถคันนี้
อ่านเพิ่มเติม : Triumph TE-1 เน็คเก็ตไบค์ไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์
อ่านเพิ่มเติม : Test Ride 2022 Triumph Tiger Sport 660