Test Ride 2022 Triumph Tiger Sport 660 เมื่อเราได้ขึ้นหลังเสือแล้วก็ไม่อยากลงอีกเลย!

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทาง AutoFun Thailand ของเราได้รับสารเทียบเชิญจากทาง Triumph Thailand เพื่อให้เข้าร่วมงานทดสอบเจ้าเสือตัวใหม่จากทาง Triumph นั่นก็คือ 2022 Triumph Tiger Sport 660 นั่นเอง และแน่นอนว่างานลองของแบบนี้เราไม่พลาดอยู่แล้วที่จะตอบรับเข้าร่วมงาน โดยเส้นทางทดสอบในครั้งนี้ของเราจะเริ่มต้นจากเขาใหญ่ อ.ปากช่อง แล้วมุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพฯ บนระยะทางกว่า 250 กม.

• เจอเสือตัวจริง
• ขุมพลังเครื่องยนต์ 3 สูบเรียงอันเลื่องชื่อ
• ระบบกันสะเทือน และระบบเบรก
• ขึ้นหลังเสือแล้วจะติดใจ

เจอเสือตัวจริง

สำหรับ 2022 Triumph Tiger Sport 660 นั้นตัวรถจะมาในสไตล์ของรถทัวริ่งสปอร์ตที่เน้นใช้งานบนทางดำเป็นหลัก แต่ก็ยังสามารถใช้ลุยได้นิดหน่อย ซึ่งงานดีไซน์ตัวรถภายนอกนั้นแน่นอนว่าสวยงามดูดี สมกับเป็นค่ายผู้ดีอังกฤษอย่าง Triumph จริง ๆ ซึ่งตัวรถมาพร้อมการออกแบบภายนอกที่ดูโฉบเฉี่ยวให้อารมณ์ของความเป็นสปอร์ตอยู่เต็มที่ ด้านหน้าตัวรถโดดเด่นมาด้วยชุดไฟ LED แบบคู่แยกซ้ายขวาอันเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร พร้อมแฮนด์บาร์ทรงกว้างและเบาะนั่งแบบตอนเดียวไล่ระดับ ช่วยให้ท่าทางการขับขี่ที่สะดวกสบายตามสไตล์รถทัวริ่ง แต่สำหรับเจ้า 2022 Triumph Tiger Sport 660 คันนี้มันยังแฝงความเป็นสปอร์ตเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม 

และในส่วนของหน้าจอเรือนไมล์นั้น 2022 Triumph Tiger Sport 660 มาพร้อมเรือนไมล์ดิจิตอลแบบ TFT สวยงาม ที่แสดงข้อมูลต่าง ๆ ของตัวรถเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน มองง่ายสบายตา พร้อมรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น My Triumph พร้อม 2 โหมดการขับขี่ให้เลือกใช้คือ Road และ Rain ซึ่งสามารถควบคุมเมนูต่าง ๆ ได้ผ่านปุ่มจอยสติ๊กที่อยู่ตรงบริเวณชุดแฮนด์บาร์ทางด้านซ้ายได้อย่างง่ายดาย 

ขุมพลังเครื่องยนต์ 3 สูบเรียงอันเลื่องชื่อ

2022 Triumph Tiger Sport 660 คันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 3 สูบเรียงอันเป็นเอกลักษณ์ของทางค่ายขนาด 660 ซี.ซี. 4 จังหวะ DOHC 12 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมส่งมอบขุมพลัง 81 แรงม้าที่ 10,250 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 64 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบ/นาที ที่มาพร้อมระบบคลัตช์ช่วยผ่อนแรงที่ช่วยให้เราไม่ต้องออกแรงในการบีบคลัตช์ที่เยอะมาก พร้อมชุดเกียร์แบบ 6 สปีด ที่สามารถทำงานได้อย่างนุ่มนวลเพื่อให้คุณสามารถขับขี่รถคันนี้ได้อย่างสนุก และสะดวกสบายในเวลาเดียวกัน 

ระบบกันสะเทือน และระบบเบรก

ในส่วนของระบบกันสะเทือนนั้น 2022 Triumph Tiger Sport 660 มาพร้อมโช้คอัพด้านหน้าแบบ Up Side Down ขนาด 41 มม. จาก Showa พร้อมระยะยุบที่ 150 มม. ส่วนด้านหลังมาพร้อม Showa Mono Shock RSU ที่สามารถปรับตั้งค่าพรีโหลดได้ พร้อมระยะยุบ 150 มม. เช่นเดียวกัน ซึ่งในตัวโช้คอัพด้านหลังนั้นคุณสามารถปรับตั้งค่าได้เลยในทันทีเพียงใช้มือบิดเท่านั้น ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์อื่น ๆ ให้ยุ่งยากแต่อย่างใด เรียกได้ว่าสะดวกต่อการใช้งานแบบสุด ๆ

ส่วนของระบบเบรกนั้น 2022 Triumph Tiger Sport 660 มาพร้อมจานดิสก์เบรกคู่ด้านหน้าขนาด 310 มม.ทำงานร่วมคาลิปเปอร์ 4 สูบจาก Nissin ส่วนด้านหลังมาพร้อมจานดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 255 มม. พร้อมคาลิปเปอร์เบรก 2 สูบจาก Nissin เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งด้านหน้าและด้านหลังมาพร้อมระบบเบรก ABS

ขึ้นหลังเสือแล้วจะติดใจ

และแล้วก็มาถึงเวลาที่เราจะได้ลองขี่เสือกันแล้ว ซึ่งต้องบอกเลยว่าเจ้า 2022 Triumph Tiger Sport 660 คันจริงนั้นมาพร้อมกับรูปทรง และสีสันที่สวยงามเอามาก ๆ และมันสามารถสร้างความประทับใจให้เราได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ขึ้นนั่งบนมันเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะเป็นความสูงของตัวเบาะที่ 835 มม. กับน้ำหนักของตัวรถที่ 206 กก. บวกกับตำแหน่งของแฮนด์บาร์ และท่าทางการนั่งที่กระชับ เพราะช่วงเข่าของเรานั้นแนบชิดไปกับตัวถังน้ำมันที่มีขนาดความจุ 17.2 ลิตรได้แบบพอดิบพอดี ซึ่งแน่นอนว่ามันช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่เราเป็นอย่างมาก

ต่อมากับเครื่องยนต์แบบ 3 สูบจากทาง Triumph นั้นต้องบอกเลยว่ามันเป็นเอกลักษณ์และความดีงามของทางค่ายที่ไม่เหมือนใครอยู่แล้ว และด้วยความเป็นเครื่องยนต์ 3 สูบนั้นมันทำให้ตั้งแต่ความเร็วในรอบต่ำไปจนถึงย่านความเร็วที่ใช้รอบสูงนั้นตัวรถมีกำลังให้ใช้อยู่ตลอดเวลา พูดง่าย ๆ ว่าเปิดเป็นมา แม้กระทั่งตอนที่เราขับขี่อยู่บนถนนด้วยเกียร์ 6 แล้วต้องการเปิดคันเร่งเพื่อแซงตัวรถก็สามารถทำได้ดั่งใจสั่งแบบทันใด ซึ่งเมื่อบวกกับตัวคันเร่งไฟฟ้าที่ตัวรถให้มาด้วยแล้วทำให้เราสามารถควบคุมคันเร่ง และความเร็วของตัวรถได้อย่างสมูทสุด ๆ เอาจริง ๆ คือมันเป็นเครื่องยนต์พิกัดกลางขนาด 660 ซี.ซี. ที่ขี่ได้อย่างเพลิดเพลินและสนุกมาก ๆ 

ในส่วนต่อมากับช่วงล่าง และระบบกันสะเทือนของตัวรถที่ให้มานั้นเราบอกได้เลยว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว เพราะตลอดเส้นทางที่เราได้ขับขี่บนไหล่เขา ไม่ว่าจะเป็นโค้งกว้าง โค้งแคบ ทางลาดชันทั้งขึ้นเขา และลงภูเขา เราสามารถพลิกรถเลี้ยวแบบโค้งต่อโค้งได้อย่างมั่นใจ เพราะด้วยตำแหน่งท่าทางการนั่งที่ส่วนของหัวเข่าเราหนีบเข้ากับถังน้ำมันได้แบบพอดีจึงทำให้เรามีพื้นที่ในการยึดเกาะและสามารถพับรถเลี้ยวเข้าโค้งไปได้อย่างมั่นใจ เพราะช่วงล่างติดรถเดิม ๆ จาก Showa ที่ให้มานั้นเราบอกเลยว่าเพียงพอต่อการขับขี่แล้ว

ตัวรถไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาให้เราได้เห็นเลยไม่ว่าจะเป็นการลดเกียร์ลงอย่างรวดเร็วก่อนพับเลี้ยวเข้าโค้ง หรือการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงตัวรถก็ไม่แสดงอาการให้เห็นแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งมาจากคันเร่งไฟฟ้าที่ให้มาทำให้เราสามารถควบคุมรอบความเร็วได้ดั่งใจ และระบบแทร็คชั่นคอนโทรลของตัวรถที่เราต้องขอชมเลยว่าทำงานได้ดีแบบสุด ๆ จนเราต้องสารภาพว่าเราต้องปิดการทำงานของมันเพื่อการขับขี่ที่สนุกขึ้น แต่เราไม่แนะนำให้ทำตามนะเปิดไว้จะดีและปลอดภัยที่สุด แต่ถ้าคุณคิดว่าอยากจะลองท้ายสไลด์ให้เสียว ๆ ดูบ้างก็ลองปิดดูได้เลยรับรองมีตื่นเต้น

สรุปเจ้าเสือพิกัดกลาง 2022 Triumph Tiger Sport 660 คันนี้เป็นรถที่เหมาะสำหรับสายทัวริ่งที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวแบบสุด ๆ เพราะด้วยขนาดเครื่องยนต์ 660 ซี.ซี. แบบ 3 สูบนั้นมีขนาดที่ไม่ใหญ่ และไม่เล็กจนเกินไป สามารถเรียกพละกำลังของตัวรถได้ตั้งแต่รอบต้น ไปจนถึงความเร็วปลายก็มีให้ใช้มากกว่า 180 กม./ชม. ซึ่งเรามองว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้วต่อการขับขี่เดินทางไม่ว่าจะใกล้ หรือไกล

และหากคุณคิดว่าแค่นี้ยังสบายไม่พอเราขอบอกเลยว่า 2022 Triumph Tiger Sport 660 คันนี้มีของเล่นให้คุณได้เลือกซื้อมาติดตั้งได้อีกเยอะไม่ว่าจะเป็นปี๊บบรรทุกสัมภาระ 3 ใบ , Quickshifter ที่ช่วยให้คุณเข้าเกียร์ได้แบบไม่ต้องกำคลัตช์ทั้งขึ้น และลง , ตัววัดแรงดันลมยาง , ปลอกมือจับปรับอุณหภูมิ และอื่น ๆ อีกมากมายกว่า 40 รายการให้คุณได้เลือกสรร สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่ามันดีจริง ๆ เจ้าเสือร้ายคันนี้ แต่อย่าพึ่งเชื่อการรีวิวของเราเพราะเราอยากให้คุณได้ไปลองสัมผัส และขับขี่มันด้วยตัวของคุณเองก่อน เพราะสุดท้ายแล้วความชอบก็เป็นเรื่องที่บังคับกันไม่ได้

และสุดท้ายท้ายสุดกับค่าตัวสุดคุ้มของเจ้าเสือพิกัดกลาง 2022 Triumph Tiger Sport 660 คันนี้อยู่ที่ 359,000 บาทเท่านั้นกับสีสันแบบไม่ซ้ำใครที่ให้คุณได้เลือกถึง 3 เฉดสีด้วยกันคือ สี Lucerne Blue/ Sapphire Black อันร่วมสมัย สี Korosi Red/ Graphite พร้อมกราฟิกแบบสปอร์ตสุดโดดเด่น และสี Graphite/ Black ในสไตล์มินิมอล

พร้อมระยะการซ่อมบำรุงที่ยาวนานถึง 16,000 กม. หรือ 12 เดือน ซึ่งเรามองว่ากับของที่ให้มาบนตัวรถ และสมรรถนะของรถระดับนี้ด้วยราคาเพียงเท่านี้ถือว่าคุ้มค่าสุด ๆ ไม่ได้แพงไปจนคิดหนัก หรือเกินเอื้อม

อ่านเพิ่มเติม : 2022 Triumph Tiger Sport 660

อ่านเพิ่มเติม : Full Review 2021 Triumph Trident 660

อ่านเพิ่มเติม : 2022 Triumph Tiger 1200 เสือใหญ่พันธุ์ดุ