The Beast คันใหม่ของ Donald Trump เมื่อไปสหราชอาณาจักร 2019
หากจะบอกว่าประธานาธิบดีสหรัฐ คือชายที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกคนหนึ่ง ก็คงเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงมากนัก
ซึ่งก็แน่นอนว่าบุคคลที่มีระดับความสำคัญขนาดนี้ การเดินทางไปไหนมาไหนจะต้องมีความปลอดภัยที่แน่นหนา และซับซ้อนเป็นอย่างมาก
เชื่อว่าคนไทยอาจเคยเห็นรถยนต์ของประธานาธิบดีสีดำที่มีความใหญ่โตคับถนนอย่าง The Beast ลิมูซีนที่ได้รับการปรับแต่งจาก Cadillac โดยเฉพาะมาบ้าง เราจะมาบอกกันว่าภายในเจ้าสัตว์ประหลาดคันนี้มีเทคโนโลยีอะไรบ้าง
The Beast รุ่นล่าสุด
ไม่ได้มีพื้นฐานรถยนต์นะ ปกติแล้วรถลีมูซีนมักจะมีพื้นฐานมาจากรถซีดานสี่ประตูธรรมดา ถูกนำมายืดออกเพื่อพื้นที่กว้างขวางและความหรูหรา
แต่สำหรับ The Beast คันนี้ กล่าวกันว่าใช้พื้นฐานแชสซีเดียวกับรถกระบะขนาดใหญ่ GMC Topkick เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักได้ ซึ่ง Cadillac นั้นผลิตขึ้นที่ General Motors โดยเฉพาะ
The Beast นั้นจะมีความคล้ายคลึงกันเพียงเล็กน้อยกับรุ่นธรรมดาหรือ Cadillac One จะมีเพียงส่วนประกอบเดิม เช่น ไฟหน้าและไฟท้าย กระจังหน้าเท่านั้น แต่นอกนั้นต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
อ่านเพิ่มเติม Mercedes-Maybach S 650 Pullman Guard มูลค่า 74 ล้านบาท กันกระสุน-ระเบิดได้สบาย
ข้างในมีอะไรบ้าง? จริง ๆ แล้วข้อมูลที่แน่ชัดของ The Beast นั้นไม่มีเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย มีหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกาเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลรักษารถ ซึ่งในรุ่นปัจจุบันของ Donald Trump ได้รับการอัพเกรดมาจากสมัยของ Barack Obama อีกทีหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติเบื้องต้นของมันก็เรียกว่าเป็นทำเนียบขาวเคลื่อนที่ได้เลย จะต้องเป็นรถหุ้มเกราะที่มีประตูหนาถึง 10 ซม. กระจกกันกระสุนหนา 5 ชั้น ซึ่งกล่าวกันว่ากันกระสุนได้ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงกลาง และกันระเบิดได้ระดับหนึ่ง
The Beast รุ่นเก่า
ประตูรถนั้นนำวัสดุมาจากเครื่องบิน Boeing 757 ที่สามารถปิดสนิทได้ทุกรอบด้านเพื่อกันแก๊ซพิษหรือแก๊ซน้ำตา ส่วนกระจกรอบคันนั้นจะมีคนขับที่สามารถควบคุมได้เท่านั้น สามารถเปิดได้เพียง 3 นิ้ว
ถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงหุ้มฉนวนกันระเบิดและไฟไหม้ มีอาวุธตอบโต้ต่าง ๆ เช่น ปืนลูกซอง และเครื่องปล่อยควัน Smoke Screen
ล้อเสริมใยเหล็ก Kevlar ที่แม้จะถูกเจาะแตกก็ยังวิ่งต่อได้
ภายในรถยังมีถังออกซิเจน และถุงเลือดสำรองที่มีกรุ๊ปเลือดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการถ่ายเลือดฉุกเฉิน
ห้องโดยสารคนขับแยกออกจากด้านหลัง มีอุปกรณ์สื่อสาร และระบบติดตาม GPS พร้อมกล้อง Night Vision ฉากกั้นห้องโดยสารสามารถลดลงได้โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นผู้กดสวิตช์เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีโทรศัพท์ดาวเทียมในรถ โดยมีลิงก์ต่อตรงไปยังรองประธานาธิบดีและตึกเพนตากอน
แม้ตัวรถจะหนักอึ้ง แต่คนขับรถ The Beast จะต้องเป็นสายลับที่ได้รับการฝึกฝนจาก Secret Service ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในศิลปะการหลบหลีกแบบตำรวจ และสามารถทำ J-Turn ได้
ดาดว่าจะเป็นดีเซล ตัวเครื่องยนต์เองไม่มีการเปิดเผยที่แน่ชัด บ้างก็ว่าเป็นเบนซิน บ้างก็ว่าเป็นดีเซล หรืออาจจะมีทั้ง 2 แบบ แต่จากการคาดเดาของหลาย ๆ สื่อ มันมีโอกาสที่จะเป็นดีเซลมากกว่า เพราะนอกจากความทนทานแล้ว มันมีอัตราการระเหยที่ต่ำ ทำให้ลดความเสี่ยงในการระเบิดได้ แถมตัวน้ำมันยังหาได้ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องไร้สารตะกั่ว
ขุมกำลังนั้นอาจเป็นDuramax ใน Chevrolet หรือ GMC สำหรับกระบะ Heavy Duty ที่จะสามารถลากน้ำหนักตัวระหว่าง 6,800 - 9,100 กก. นั่นทำให้มันสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 97 กม./ชม. ภายใน 15 วินาที
1.5 ล้านดอลลาร์ แม้มันจะไม่ได้มีการแปะป้ายบอกราคาอย่างเป็นทางการ แต่จากการคำนวนออพชั่นต่าง ๆ ดูแล้ว จะทำให้ The Beast นี้มีราคามากถึง 1.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 45 ล้านบาทไทยไม่รวมภาษีนำเข้า
อ่านเพิ่มเติม Bentley คันนี้มีราคาถึง 430 ล้านบาท สร้างใหม่ทั้งคัน เพื่อคนเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ เขายังต้องมีขบวนรถอื่น ๆ คอยคุ้มกันกว่าอีกหลายสิบคัน ซึ่งเราจะมาตีแผ่กันให้ดูอีกครั้งว่าเขาประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และทำไมถึงใช้เงินกว่า 80,000 บาทต่อนาทีในการเดินทางแต่ละครั้ง คอยติดตามนะครับ
