Wuling เตรียมส่งรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นจิ๋ว Hongguang Mini EV หรือที่รู้จักกันในชื่อ Mini EV (วู่หลิง มินิ อีวี) ในบ้านเราข้ามน้ำข้ามทะเลไปทำตลาดประเทศญี่ปุ่นในปีนี้

Mini EV เป็นหนึ่งในรถอีวีที่มีราคาจำหน่ายย่อมเยาที่สุดในโลก เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2020 และสามารถสร้างสถิติทำยอดขายต่อเดือนได้สูงที่สุดต่อเนื่องยาวนานถึง 25 เดือนติดต่อกันมาจนถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ด้วยตัวถังที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด Wuling เล็งเห็นว่ารถไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถแบ่งส่วนแบ่งตลาดรถเคคาร์ของแดนอาทิตย์อุทัยได้ แต่อุปสรรคสำคัญคือการแข่งขันที่ดุเดือดเลือดพล่าน พวกเขาจะใช้ไม้เด็ดอะไรไปสู้กับค่ายรถเจ้าถิ่น?

เล็งขายกลุ่มองค์กร

Hongguang Mini EV ได้รับฉายาว่า “ดีกว่าเดิน” ด้วยการมีราคาที่ถูกมาก เริ่มต้นในแดนมังกรเพียงไม่ถึง 2 แสนบาท ก่อนหน้านี้ SAIC-GM-Wuling บริษัทร่วมทุนที่รับผิดชอบการผลิตรถอีวีรุ่นนี้เคยส่งไปทำตลาดยุโรปมาแล้ว

เป้าหมายต่อไปคือตลาดประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่รู้กันดีกว่าผู้บริโภคให้ความสนใจรถยนต์ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันบนถนนหนทางที่ค่อนข้างคับแคบ

สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า Wuling ตั้งเป้าจัดจำหน่าย MiniEV เริ่มต้นที่ 650,000 เยนหรือประมาณ 166,000 บาทเท่านั้น

ซุน เฟ็ง ประธานกรรมการ Apatech Motors บริษัทวิจัยตลาดที่รับผิดชอบการวิเคราะห์ตลาดญี่ปุ่นให้แก่ SAIC-GM-Wuling กล่าวว่า ราคาจำหน่ายข้างต้นถูกกว่ารถเคคาร์สัญชาติญี่ปุ่นถึงครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะดึงดูดผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทรถยนต์สัญชาติจีนเริ่มรุกตลาดญี่ปุ่นมากขึ่นเรื่อย ๆ โดยมีทั้งรถบัส รถบรรทุก และรถยนต์นั่งทั่วไป ล่าสุดยังมี BYD ที่ประกาศจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่น หนึ่งในนั้นคือ Atto 3 ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

“ความต้องการใช้งาน Wuling MiniEV นั้นแตกต่างจากความต้องการใช้งานรถยนต์ทั่วไป” ซุน กล่าวเพิ่มเติม

การวิจัยตลาดของ Wuling พบว่ามีความต้องการใช้งานรถยนต์ขนาดเล็กขององค์กรธุรกิจ ซึ่งจะซื้อให้พนักงานใช้แทนที่จะเป็นการจ่ายค่าเดินทางรายเดือน (ส่วนใหญ่เป็นค่ารถไฟ) พร้อมกับสามารถใช้ขับขี่ติดต่อธุรกิจได้อีกด้วย

ขณะเดียวกัน MiniEV ยังเหมาะสำหรับการใช้งานของผู้สูงอายุ ด้วยระยะทางขับขี่ 120 กม.ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง เหมาะสำหรับการเดินทางระยะใกล้

ปัจจุบัน ยอดขาย Wuling MiniEV ในจีนใกล้แตะหลัก 900,000 คันแล้ว ก้าวต่อไปคือการขออนุญาตจัดจำหน่ายในญี่ปุ่นซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้าหรือประมาณเดือนมีนาคม-เมษายนซึ่งก็เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนเท่านั้น