Volkswagen ประกาศว่ารถยนต์รุ่นใหม่ที่ถูกส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้วมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลที่รองรับเชื้อเพลิงใหม่แทบจะปราศจากมลพิษ
การพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายกลยุทธ์การมุ่งสู่ความเป็นกลางของคาร์บอนภายในปี 2050 และลดมลพิษของกลุ่มผลิตภัณฑ์ในยุโรปลง 40% ภายในปี 2030 นั่นหมายความว่ารถยนต์แต่ละคันจะต้องปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง 17 ตันตลอดอายุใช้งาน
ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีระบุว่า นอกจากการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า การพัฒนาเชื้อเพลิงที่มีความยั่งยืนก็มีความสำคัญเช่นกันซึ่งทำได้ด้วยการดัดแปลงเครื่องยนต์สันดาปที่มีอยู่เดิมให้รองรับเชื้อเพลิงที่มีมลพิษน้อยลง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
นำเสนอเชื้อเพลิงดีเซลรุ่นใหม่ล่าสุด
Volkswagen เคลมว่าเครื่องยนต์ดีเซล TDI บล็อก 4 สูบรุ่นใหม่ล่่าสุดสามารถรองรับเชื้อเพลิงดีเซลที่จะช่วยลดการปล่อยมลพิษคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 70 – 95% เลยทีเดียว
เชื้อเพลิงดังกล่าวถูกผลิตขึ้นภายใต้มาตรฐาน EN15940 2016 ของยุโรปซึ่งนับเป็นเชื้อเพลิงไบโอฟิวและอี-ดีเซลที่ผ่านกระบวนการ Fischer-Tropsch ที่ใช้วิธีทำปฏิกิริยาเคมีเปลี่ยนไฮโดรคาร์บอนให้กลายเป็นน้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์แท้และเชื้อเพลิงสังเคราะห์
ศาสตราจารย์โธมัส การ์เบ หัวหน้าทีมนักวิจัยเชื้อเพลิงของ Volkswagen กล่าวว่า “การใช้เชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในรถยนต์ของเราจะช่วยให้ลูกค้าสามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้อย่างมหาศาล”
อย่างไรก็ตาม การ์เบตั้งข้อสังเกตว่าเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่จะมีมลพิษน้อยลงก็ต่อเมื่อเชื้อเพลิงดีเซลใหม่มีให้ใช้งานอย่างแพร่หลายด้วย
ทั้งนี้ การนำเสนอรถเครื่องยนต์สันดาปของ Volkswagen เป็นเพียงแผนงานระยะกลางเท่านั้น เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงเคยออกมาย้ำหลายครั้งว่าจะยุติการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปในยุโรปภายในปี 2035 แต่จะยังคงนำเสนอในสหรัฐอเมริกาและจีนที่มีกฎหมายด้านมลพิษเข้มงวดน้อยกว่าหรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับในอนาคต
นั่นแสดงให้เห็นว่าไม่ช้าก็เร็ว ขุมพลังสันดาป โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลถึงเวลานับถอยหลังสิ้นยุคอย่างเป็นทางการ ก่อนจะถูกแทนที่อย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อดีตนักข่าว เอเจนซี่ และฟรีแลนซ์ฝีมือเยี่ยม ที่นำประสบการณ์ร่วม 20 ปีมาถ่ายทอดคอนเทนท์และประเด็นข่าวในวงการยานยนต์ทั้งไทยและเทศในรูปแบบที่สดใหม่และแตกต่าง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });