คาร์ลอส กอส์น อดีตประธานใหญ่ Nissan (นิสสัน) ชี้สาเหตุที่รถยนต์ไฟฟ้า Leaf (นิสสัน ลีฟ) ต้องตามหลังคู่แข่งหลายช่วงตัวเพราะปัญหาด้านการตลาด
เว็บไซต์ Drive มีโอกาสให้สัมภาษณ์กอส์นซึ่งปัจจุบันพำนักอยู่ในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน หลังจากหลบหนีการถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงออกจากประเทศญี่ปุ่นจนกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกตั้งแต่ปลายปี 2019
อดีตหัวเรือใหญ่ Nissan เปิดเผยว่าปัญหาของ Leaf เกิดจากการไม่ยอมออกจากกรอบเดิม ๆ เพื่อก้าวมาเป็นผู้นำของบริษัทรถยนต์ที่เขาเคยกุมบังเหียนอยู่
เริ่มก่อนแต่ก้าวช้ากว่าเพื่อน
Nissan Leaf เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการผลิตจำนวนมากรุ่นแรกของโลก โดยได้รับการพัฒนาและเปิดตัวออกทำตลาดภายใต้การดูแลของกอส์นในยุคที่รถอีวียังไม่แพร่หลายมากนัก ทำให้ถูกมองว่ามีข้อได้เปรียบคู่แข่งในด้านการเป็นผู้บุกเบิก
อย่างไรก็ตาม บริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์โลกก้าวตามมาอย่างรวดเร็วและแซงหน้า Leaf ไปในที่สุด ซึ่งกอส์นฟันธงว่าสาเหตุที่ทำให้ Nissan ล้าหลังไม่เรื่องการวิจัยและพัฒนา แต่เป็นการตลาดและการขาย รวมถึงความเป็นผู้นำที่ขาดหายไป
“เมื่อคุณพูดถึงนวัตกรรมอย่างรถยนต์ไฟฟ้า คุณจะต้องกล้าแหวกขนบและขยับมายืนแถวหน้า หากคุณมัวแต่ดำเนินงานด้วยการหาฉันทามติจากบอร์ดบริหาร คุณก็จะล้มเหลวอย่างแน่นอน” กอส์น เผย
อดีตผู้บริหารที่กลายเป็นผู้หลบหนีกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ใดก็ตามไม่สามารถนำรถยนต์ไฟฟ้าออกสู่ตลาดระดับแมสได้ถ้ามัวแต่หาเสียงสนับสนุนจากบอร์ดบริหารด้วยเหตุผลง่าย ๆ ก็คือ คุณจะต้องตัดงบประมาณส่วนอื่นเพื่อทุ่มเทไปกับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด
“คุณอาจต้องลดงบประมาณพัฒนาเครื่องยนต์ ผลิตรถยนต์ หรือหยุดการทำตลาดในบางประเทศ เพื่อรวบรวมงบมาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า” กอส์น กล่าว
สิ่งเหล่านี้มิอาจทำได้หากไม่มีใครสักคนเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง กอส์นชี้ เพราะการสร้างนวัตกรรมระดับปฏิวัติวงการต้องอาศัยความกล้าหาญ ไม่ใช่การหาฉันทามติ
“การสร้างนวัตกรรม เราต้องมุ่งไปในทิศทางที่ต้องใช้ความกล้าอย่างยิ่ง และคุณไม่สามารถทำให้ทุกคนเห็นด้วยกับคุณได้” กอส์น เผย “คุณต้องสร้างผลลัพธ์ให้เห็นเป็นรูปธรรมเพื่อสร้างความชอบธรรมว่าคุณกำลังพาบริษัทไปในทิศทางที่ถูกต้อง”
กอส์น ยังเปิดเผยด้วยว่า เขาประสบกับปัญหาเรื่องนี้หลายครั้งขณะเป็นผู้นำ Nissan เขาเคยคิดพาบริษัทลุยตลาดจีนในปี 2002 – 2003 แต่ก็ถูกวิจารณ์ เคยจะสร้างโรงงานในบราซิล แต่ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักอีกเช่นกัน
“แม้กระทั่งจับมือเป็นพันธมิตรกับ Mitsubishi ผู้คนที่เกลียด Mitsubishi ก็วิจารณ์กันอย่างมาก การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ผมก็ถูกวิพากษ์อีกว่าทำไมเราถึงไม่ทำรถไฮบริดให้เหมือน Toyota คุณรู้ไหม คนบางคนก็เก่งแต่วิจารณ์คนอื่น” กอส์น กล่าว “ถ้าผมเป็นพวกชอบฉันทามติ ถ้าผมต้องเข้าประชุมเพื่อหาข้อสรุปจากทุกคน รับรองว่าเราจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย”
กอส์น กล่าวเสริมว่าปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการเติบโตของ Nissan และดูเหมือนพวกเขาก็ชื่นชอบที่จะทำแบบนี้ในเสลานี้
“พวกเขากำลังทิ้งบทบาทการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ และคิดว่าฉันทามติคือธรรมเนียมใหม่ที่ควรปฏิบัติ ซึ่งเรื่องงี่เง่าเหล่านี้จะทำให้บริษัทต่าง ๆ พังพาบไม่เป็นท่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า” กอส์น กล่าวปิดท้าย