ท่ามกลางข่าวคราวความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศอัฟกานิสถาน ที่กลุ่มตอลีบานได้เข้ายึกอำนาจการปกครองจากรัฐบาล ทำให้กองกำลังต่างชาติได้ถอนตัวออกจากเมืองหลวงของประเทศในรอบเดือนที่ผ่านมา และยังมีสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนถึงบัดนี้
มีการประเมินว่า ภายหลังจากที่ทุกอย่างจัดการอย่างลงตัวแล้ว สิ่งที่อัฟกานิสถานอาจจะส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมยานยนต์โลกอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือการที่ประเทศแห่งนี้ เป็นแหล่งแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเติบโตไปในอนาคต
นั่นก็คือแร่ลิเธียมและแรร์เอิร์ธ ซึ่งมีรายงานอย่างไม่เป็นทางการระบุว่าอัฟกานิสถานนั้น เป็นที่ตั้งของเหมืองแร่ขนาดใหญ่มหาศาลที่ยังไม่มีการขุดอย่างเป็นทางการ และเมื่อกลุ่มตอลีบานยึดประเทศสำเร็จ ก็หมายถึงพวกเขาจะเข้าถึงแหล่งแร่เหล่านี้ไปด้วย
ทำให้มีการจับตามองอย่างเข้มงวดว่าประเทศใดจะก้าวเข้าไปร่วมเป็นพันธมิตรกับอัฟกานิสถานในโครงการสำรวจและขุดหาแร่ธรรมชาติเหล่านี้ โดยนักวิเคราะห์หลายแห่งลงความเห็นกันว่า ประเทศจีนที่เริ่มแสดงสัมพันธไมตรีก่อนเพื่อนน่าจะมีโอกาสที่สุด
เพราะความพร้อมในการขุดแร่เหล่านี้ขึ้นมาใช้งาน รวมถึงการใช้งานในการผลิตสิ่งของต่าง ๆ อาจจะไม่ใช่ความเชี่ยวชาญโดยตรงของผู้ปกครองประเทศโดยตรง ทำให้เชื่อกันว่า อัฟกานิสถานก็ต้องหาพันธมิตรมา เพื่อแลกกับการช่วยเหลือทางด้านอื่น ๆ
ทำไมทุกคนถึงมองไปที่ประเทศจีนกันล่ะ
ย้อยหลังไปในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีรายงานการพบปะกันระหว่างรัฐมนตรีระดับสูงของรัฐบาลจีนและบุคลากรระดับผู้นำของกลุ่มตอลีบาน โดยมีรายงานว่า พวกเขาหวังว่าประเทศจีนจะเข้ามามีบทบาทในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจมากขึ้น
จีนนั้นไม่ใช่คนอื่นไกลสำหรับอัฟกานิสถาน พวกเขาเคยมีบริษัทที่ได้รับสัมปทานเหมืองแร่ทองแดงในประเทศ ด้วยมูลค่ากว่า 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นเวลา 30 ปี แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า รวมถึงโครงการขุดเจาะบ่อน้ำในบางพื้นที่ ที่ไม่คืบหน้าไปเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อกลุ่มตอลีบานได้เข้ามายึดครองประเทศทั้งหมด ก็อาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศจีนจะใช้ช่วงเวลานี้ในการเดินทางกลับเข้าไปแสดงความร่วมมือกับอัฟกานิสถานอีกครั้ง ซึ่งรวมไปถึงโครงการใหม่ ๆ ที่อาจจะต้องเจรจากันอย่างเร่งด่วน
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในประเทศจีนและตลาดโลกกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และการใช้แร่ลิเธียมและแรร์เอิร์ธนั้นมีความจำเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้งานนี้ อาจจะได้เห็นการคืบหน้าอย่างเป็นทางการของจีนในอัฟกานิสถาน
ประเทศจีนนั้นกำลังแย่งชิงความเป็นหนึ่งในการผลิตลิเธียมและแรร์เอิร์ธกับสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยแม้จีนเองจะมีสินแร่เหล่านี้มากพอควร แต่ก็น่าจะต้องหาเพิ่ม เพราะก่อนหน้านี้ สหรัฐอเมริกาและยุโรป ต่างก็เป็นลูกค้านำเข้าแร่ธาตุจากจีนทั้งหมด
แล้วรู้ได้อย่างไรว่าอัฟกานิสถานมีแร่เหล่านี้เยอะ
ซาอุดิอาระเบียแห่งลิเธียม คือชื่อเรียกสำหรับเอกสารภายในของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ที่เรียกถึงอัฟกานิสถาน ซึ่งอาจจะเปรียบเทียบกันได้ในเชิงของบ่อน้ำมันในซาอุฯ ที่ดูเหมือนว่าจะมีใช้งานได้อย่างมากมาย และสามารถนำมาใช้ได้ไม่มีวันหมด
ย้อนกลับไปในปี 2563 มีรายงานว่านักธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกสได้ต้นพบแหล่งแร่ปริมาณมหาศาล อันประกอบไปด้วยเหล็ก ทองคำ ทองแดง ลิเธียมและแรร์เอิร์ธ คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในพื้นที่หลายแห่งของประเทศอัฟกานิสถาน
ลิเธียมและแรร์เอิร์ธไม่ได้ถูกใช้ในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นสินแร่ที่สำคัญสำหรับธุรกิจหลากหลายประเภท รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ หรือยุทโธปกรณ์ทางทหารอย่างเรือดำน้ำ ก็ต้องใช้แร่เหล่านี้เพื่อเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิต
มีรายงานที่น่าสนใจจากองค์กรพลังงานระหว่างประเทศ ที่ระบุว่าความต้องการของลิเธียมทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 40 เท่าตัวภายในระยะเวลา 2 ทศวรรษนับจากนี้ ซึ่งทำให้หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่า ทำไมสหรัฐอเมริกาที่ครองอัฟกานิสถานอยู่นานไม่ขุดไปเสีย
คำตอบก็คือ เพราะความไม่แน่นอนทางการเมืองของอัฟกานิสถานเองที่ทำให้โครงการขนาดใหญ่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ และยังมีความเสี่ยงที่จะถูกกลุ่มตอลีบานเข้าถล่มได้ แถมแหล่งแร่หลาย ๆ แหล่งก็อยู่ในพื้นที่การครอบครองของตอลีบานมาอย่างยาวนาน
ปัญหาที่นอกเหนือจากการครองพื้นที่ของตอลีบาน ยังประกอบไปด้วยลักษณะโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเอง ที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนน รถไฟขนส่งหรือโรงไฟฟ้า ทำให้การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ไม่สามารถที่จะเกิดได้เลยในอดีตที่ผ่านมา
จึงต้องมาติดตามกันว่า การเปลี่ยนมือของผู้บริหารประเทศจากรัฐบาลเดิมมาเป็นกลุ่มตอลีบาน ที่มีท่าที่อ่อนลงกว่าเมื่อยุค 20 ปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด จะเดินหน้าผลักดันโครงการนี้อย่างไร และใครจะเป็นคนแรกที่เข้าไปเจรจาต้าอ่วยเรื่องนี้ได้สำเร็จก่อนกัน!!!