ผู้ใช้รถในอังกฤษมั่นใจตนขับเก่งกว่าระบบอัตโนมัติ เผยช่วงอายุใดเปิดใจรับเทคโนโลยี

ผลวิจัยของ Volkswagen Financial Services UK ระบุว่าผู้ขับขี่รถยนต์ชาวอังกฤษเกือบครึ่งคิดว่าตนเองขับได้ดีกว่ารถยนต์ไร้คนขับหรือรถที่ใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

ผลการศึกษาพบว่า 46 เปอร์เซ็นต์ของผู้ขับขี่รถยนต์ในอังกฤษเชื่อมั่นในทักษะการขับขี่ของตนเองมากกว่ารถยนต์ที่มีระบบขับขี่อัตโนมัติ ขณะที่ 54 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้รถในสกอตแลนด์เชื่อในการขับขี่ของตัวเองมากกว่า และ 48 เปอร์เซ็นต์ของผู้คนที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของอังกฤษคิดว่าพวกเขามีศักยภาพในการขับที่เหนือกว่ารถยนต์ไร้คนขับ

ไม่น่าแปลกใจที่ 52 เปอร์เซ็นต์ของผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยระหว่าง 18-24 ปีจะเชื่อมั่นในทักษะของตนเอง ขณะที่ 39 เปอร์เซ็นต์ของคนที่มีอายุมากกว่า 75 ปีเชื่อว่าพวกเขาจะเป็นคนขับที่ดีกว่ารถยนต์ไร้คนขับ

การศึกษายังชี้ให้เห็นว่ามีคนจำนวนมากที่ยังไม่เชื่อมั่นในการซื้อรถยนต์ไร้คนขับแบบเต็มรูปแบบ แท้จริงแล้ว ผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 21 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อรถยนต์ไร้คนขับหากมีการขายหรือเปิดจองแล้ว

ความเต็มใจของผู้คนที่จะนำรถยนต์ไร้คนขับมาใช้นั้นแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละกลุ่มอายุ โดย 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุระหว่าง 25-34 ปีเต็มใจที่จะซื้อสักคัน แต่มีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ของผู้ขับขี่ที่มีอายุระหว่าง 55-64 ปี ที่มีความคิดนี้

ในบรรดาผู้ที่กระตือรือร้นที่จะซื้อรถยนต์ไร้คนขับนั้น 44 เปอร์เซ็นต์จะใช้เวลาไปกับการฟังเพลง ในขณะที่ 25 เปอร์เซ็นต์ของผู้ขับขี่จะดูทีวีหรือภาพยนตร์  25 เปอร์เซ็นต์อ่านหนังสือ และ 20 เปอร์เซ็นต์จะนอนหลับ ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะซื้อรถยนต์ไร้คนขับมากกว่าผู้หญิง (29 เปอร์เซ็นต์  เทียบกับ 13 เปอร์เซ็นต์)

ไมค์ ท็อดด์ ผู้บริหารระดับสูงของ Volkswagen Financial Services UK กล่าวว่า “ผมคิดว่าการศึกษาของเรานำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับจิตใจและความคิดในภาพรวมของผู้ขับขี่ในสหราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นการยืนยันว่าเราเป็นชาติที่ภูมิใจและมั่นใจในความสามารถในการขับขี่ของตนเอง”

“พูดได้เต็มปากเลยว่าพวกเราหลายคนต้องการควบคุมอยู่หลังพวงมาลัยมากกว่าที่จะถูกขับโดยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย  แน่นอนว่าถนนที่เต็มไปด้วยพาหนะไร้คนขับจะไม่เกิดขึ้นหากขาดความท้าทายนี้ ซึ่งจะช่วยอธิบายเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้ขับขี่ต่อยานพาหนะไร้คนขับที่ถูกค้นพบในงานวิจัยของเรา แต่ถ้าเทคโนโลยีที่ไร้คนขับยังคงพัฒนาต่อไปตามจังหวะของมันในปัจจุบัน รถยนต์ไร้คนขับแบบเต็มรูปแบบอาจจะมาเร็วกว่าที่เราคิด” ท็อดด์ กล่าวเพิ่มเติม