โซอิชิโระ ฮอนดะ
Honda (ฮอนด้า ) สร้างชื่อเสียงระดับโลกในด้านการพัฒนาเครื่องยนต์มายาวนานหลายทศวรรษ พวกเขามี “ขุมพลัง” หลากหลายรูปแบบให้เลือกสรร
ศูนย์วิจัยและพัฒนาของ Honda ในเมืองโทชิกิ ประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดศูนย์กลางของการพัฒนาเครื่องยนต์มากมายซึ่งถูกใช้ทั้งในรถสปอร์ตระดับตำนานอย่าง Honda NSX ไปจนถึงรถจักรยานยนต์ รถแทร็กเตอร์ ปั๊มน้ำ และเครื่องตัดหญ้าที่มีคุณภาพเป็นเลิศ
นั่นจึงเป็นที่มาของการชื่อบริษัท Honda Motor Company โดยผู้ก่อตั้งอย่างโซอิชิโระ ฮอนดะ ที่เริ่มต้นจากการสร้างเครื่องยนต์ 2 จังหวะติดตั้งบนเฟรมจักรยาน นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 1948 มีการผลิตเครื่องยนต์มากถึง 20 ล้านเครื่องต่อปี
โซอิชิโระ ฮอนดะ
เดวิด ฮัลเบอร์สแตม เจ้าของหนังสือชื่อว่า The Reckoning ว่าด้วยอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นและอเมริกาเคยเขียนถึงฮอนดะไว้ว่าเป็น “ชายอัจริยะผู้ชื่นชอบการสร้างสรรค์และทดลอง เปรียบได้กับเฮนรี่ ฟอร์ดแห่งญี่ปุ่นยุคใหม่”
การเปรียบเทียบฮอนดะกับฟอร์ดไม่ใช่เรื่องเกินเลย ทั้งคู่เป็นวิศวกรที่นิ้วเปื้อนคราบน้ำมันเครื่องตลอดเวลาเพราะชอบลงมือทำด้วยตัวเอง และเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศของตนเอง
รถจักรยานยนต์ Honda Super Cub คือผลงานระดับมาสเตอร์พีซของฮอนดะ เปิดตัวออกมาในเดือนสิงหาคม 1958 มาพร้อมรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายแต่ทนทานอย่างยิ่ง เปรียบได้กับการเปิดตัว Ford Model T ในปี 1908 เลยทีเดียว
Ford ผลิต Model T ทั้งหมดกว่า 16.5 ล้านคัน ขณะที่ Honda ปล่อย Super Cub ออกสู่ท้องถนนทั่วโลกมากกว่า 100 ล้านคัน
สิ่งที่แตกต่างกันของทั้งสองคนคือ Ford หมกมุ่นกับการหาวิธีการที่ดีกว่าในการสร้างรถยนต์ ขณะที่ฮอนดะฝักใฝ่ในการหาวิธีการในการสร้างรถยนต์ที่ดีกว่า เดือนมิถุนายน 1960 ฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Honda ถูกแยกส่วนออกมาจากบริษัทแม่ เพื่อให้ทีมวิศวกรได้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถใช้งานในรถยนต์รุ่นใหม่ได้เร็วขึ้น
การแยกฝ่ายวิจัยและพัฒนาหรือ Honda R&D ออกมาสัมฤทธิ์ผลอย่างรวดเร็วด้วยการเปิดตัวระบบ Compound Vortex Controlled Combustion system (CVCC) ที่ถูกใช้ใน Honda Civic ในปี 1974 ผ่านมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดของสหรัฐอเมริกาโดยไม่จำเป็นต้องมีแคททาไลติกคอนเวอร์เตอร์หรือระบบการจัดการเครื่องยนต์ที่ซับซ้อน มาตรฐานไอเสียดังกล่าวทำให้บริษัทรถยนต์อเมริกันต่อต้านอย่างหนัก
ฮอนดะเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “เมื่อสภาคองเกรสผ่านกฎหมายมาตรฐานมลพิษฉบับใหม่ เราจ้างวิศวกรเพิ่ม 50 คน แต่ General Motors (GM) จ้างทนายความเพิ่ม 50 คน”
GM ต้องส่งรถ Chevrolet Impala V8 มายังญี่ปุ่นเพื่อติดตั้งระบบวาล์ว CVCC ไว้ที่ฝาสูบก่อนที่จะส่งคืนกลับไปยังสหรัฐอเมริกาซึ่งสามารถผ่านมาตรฐานไอเสียในปี 1975 ได้อย่างง่ายดาย
CVCC สร้างภาพลักษณ์ให้ Honda กลายเป็นบริษัทนักบุกเบิกและผู้นำทางเทคโนโลยี นำไปสู่การสร้างธุรกิจที่มั่นคงบนแผ่นดินมะกัน
แต่อย่างไรก็ดี ในอีก 50 ปีต่อมาหรือในยุคปัจจุบัน Honda เพิ่งประกาศว่ากำลังจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในปี 2023 ซึ่งสร้างบนโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ผ่านการพัฒนาวิศวกรรมและผลิตโดย GM
นั่นเป็นเพราะ Honda ที่เคยเป็นหนึ่งในผู้นำการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปที่มีขนาดเล็กแต่แรงเหนือชั้นยังต้องวิ่งตามเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าตามการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่รวดเร็วอย่างยิ่ง
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นรายนี้วางเป้าหมายว่าจะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถฟิวเซลให้ได้ถึง 40% ของยอดขายทั้งหมดภายในปี 2030 แต่พวกเขามิอาจก้าวไปสู่เป้าหมายนั้นได้หากปราศจากพันธมิตรสำคัญอย่าง GM