เผยราคาต้นทุนลิเธียมซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญสำหรับการผลิตแบตเตอรี่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อาจทำให้ราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าขยับพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย
บริษัทวิจัยตลาด Benchmark Mineral Intelligence หรือ BMI ระบุว่าราคาลิเธียมคาร์บอเนตที่ผลิตในประเทศจีนปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 485% ในปีที่แล้ว ทำให้ราคาพุ่งกระฉูดเป็นสถิติใหม่ทะลุหลัก 40,000 เหรียญสหรัฐต่อ 1 ตัน
BMI ระบุว่าสาเหตุที่ราคาลิเธียมขยับขึ้นหลายเท่าตัวมาจากความต้องการใช้งานเพื่อการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และการสต็อกลิเธียมคาร์บอเนตของจีนก่อนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ของปีนี้
ทั้งนี้ ลิเธียมคาร์บอเนตเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตหรือ LFP ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนส่วนใหญ่ใช้แบตเตอรี่ดังกล่าว
“การต้องการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน ฟอสเฟตในจีนผลักดันให้ราคาลิเธียม คาร์บอเนตพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2021 ซึ่งเป็นแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปในตลาดรถยนต์ในปี 2022 นี้” BMI ระบุในรายงานวิเคราะห์ตลาด
ด้านดัชนี Bloomberg Commodities Index ระบุว่าไม่ใช่แค่ราคาลิเธียมที่พุ่งสูงในปี 2021 เท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัตถุดิบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับบริษัทเหมืองแร่ต่าง ๆ แต่เป็นข่าวร้ายอย่างยิ่งของผู้บริโภค
เว็บไซต์ Whichcar ของออสเตรเลียรายงานว่า หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น คาดว่าราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าจะสูงขึ้นตามราคาต้นทุนอย่างแน่นอน
โจ ซิดเดิล นักวิเคราะห์จากบริษัทลงทุน Blackstone จัดให้ลิเธียมอยู่ในรายการวัตถุดิบที่น่าจับตามองที่สุดในปีใหม่นี้
ซิดเดิล กล่าวว่า ยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกายังไม่สามารถจัดซื้อแบตเตอรี่ลิเธียมหรือวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าได้มากเพียงพอ
“นั่นเป็นเพราะจีนสามารถควบคุมตลาดลิเธียมไว้ทั้งหมด รวมถึงครองตลาดโคบอลต์และนิกเกิลที่ใช้สำหรับการผลิตก้านส่งกำลังด้วย ที่ผ่านมา จีนเลือกที่จะเก็บสงวนวัตถุดิบไว้เพื่อใช้งานภายในประเทศ ทำให้ราคาพุ่งสูงต่อเนื่อง” ซิดเดิล วิเคราะห์ปิดท้าย
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}