สโลแกนยี่ห้อรถยนต์ มีเพื่อบ่งบอกเป้าหมายหรือตำแหน่งการวางตัวของสินค้าว่าสื่ออารมณ์ในด้านไหน ทุกแบรนด์เอกลักษณ์แตกต่างกันไป เช่น เน้นความไฮเทค ความแรง ความหรู หรือความน่าเชื่อถือ โดยเราขอรวบรวมสโลแกนดัง จากค่ายรถที่ติดหูมากที่สุด ตั้งแต่ยุค 90 ซึ่งเป็นยุคที่ผู้อ่านหลายคนโตมาและจำความได้ และมาดูความเปลี่ยนแปลงของสโลแกนยี่ห้อเดียวกันในยุคปัจจุบัน ว่าต่างไปอย่างไรบ้าง
ค่ายสามห่วงในยุค 90 ช่วงต้น ใช้สโลแกนว่า “สัมผัสแห่งคุณภาพ” พอมาถึงช่วงกลางยุค 90 ก็เปลี่ยนใหม่เป็น It’s My Style “นี่แหละสไตล์เรา” ในช่วงของการเปิดตัว Soluna และ Corolla Hi-Torq ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนจำได้มากทุกสุด เพราะมีโฆษณาสโลแกนเด่นชัดเป็นครั้งแรก ในเวลาต่อมาได้เปลี่ยนเป็น Moving Forward ในปลายยุค 2000 และเปลี่ยนเป็น Mobility of Hapiness “ขับเคลื่อนความสุข” ใช้มาจนถึงปัจจุบัน
ฮอนด้าเป้นค่ายรถที่ไม่มีสโลแกนประจำยี่ห้อตอนยุค 90 เลย มีเพียงแค่สโลแกนประจำรถแต่ละรุ่นเท่านั้น จนเพิ่งจะเริ่มมีสโลแกนติดตัวในต้นยุค 2000 คือ “The Power of Dream” โดยไม่มีการแปลสโลแกนเป็นภาษาไทยแต่อย่างใด และยังใช้สโลแกนนี้ยาวจนถึงปัจจุบัน
นิสสันในยุค 90 อยู่ใต้การบริหารของบริษัทสยามกลการ ใช้สโลแกนว่า “เพื่อนที่แสนดี” จนติดหูมาตั้งแต่ยุค 80-90 ลามมาถึงปี 2004 โดยรถใหม่รุ่นสุดท้ายที่ได้ใช้สโลแกนสุดคลาสสิคนี้คือ Nissan Sunny Neo ต่อมาหลังจากปีดังกล่าว สยามกลการก็ถูกบริษัทนิสสันญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดแทน เปลี่ยนมาใช้สโลแกนว่า Shift the Future มาจนถึงปัจจุบัน
สโลแกนของมาสด้าย้อนกลับไปในยุค 90 เดิมทีมาสด้าอยู่ใต้การบริหารงานของบริษัทสุโกศล มีสโลแกนว่า “พร้อมสรรพ ประทับใจ” ซึ่งออกจะเชยเกินไปหน่อย ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็น Get in, Be Moved. มาถึงยุคของประโยคที่เรามักจะติดหูมากที่สุดคือ ซูม-ซูม ซึ่งเริ่มใช้ในยุค 2000 สื่อถึงเสียงคำเรียกแทนเสียงเครื่องยนต์ สื่อถึงความสนุกของการขับรถ แต่เสียดายที่ในยุคปัจจุบันไม่ได้ใช้ “ซูม-ซูม” แล้ว เพราะเมื่อปี 2562 ได้เปลี่ยนสโลแกนเป็น Feel the Drive ซึ่งก็ยังสื่อถึงอารมณ์สนุกในการขับรถอยู่ดี
ฟอร์ดเริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยโดยบริษัทแม่อย่างจริงจังในยุค 2000 เริ่มด้วยสโลแกน No Boundaries อยู่ระยะสั้นๆ ในรุ่น Ranger และ Laser Tierra ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชื่อ Feel the Difference ในปลายยุค 2000 ที่ใช้ในรุ่น Focus Mk II เป็นต้นมา
อีซูซุ เป็นค่ายรถกระบะที่เน้นความประหยัดมาตั้งแต่ยุค 80-90 ด้วยสโลแกน “รู้คุณค่าน้ำมันทุกหยด” จับกลุ่มผู้รักความประหยัดชัดเจน แต่หลายคนอาจจะไม่ติดหูสักเท่าไหร่ เพราะโดนแย่งซีนด้วยสโลแกนประจำรุ่น Rodeo 4WD ในยุค 90 กับโฆษณาที่นำรถส่งนักดับเพลิงไปผจญไฟป่า พร้อมสโลแกนเท่ห์ๆว่า “ยอดรถสำหรับยอดคน” ซึ่งมีใช้เฉพาะรถกระบะโรดิโอ รุ่นยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น กลายเป็นจุดเปลี่ยนของรถกระบะในยุคต่อมาที่ต้องมีรุ่นย่อยแบบเดียวกันนี้ออกมาแข่งขันกัน
สโลแกนที่โด่งดังที่สุดในวงการตลาดรถยนต์ไทย ได้แก่ Volvo กับสโลแกนในยุค 90 ที่กำหนดจากสวีเดนมาว่า Where the safety comes first แล้วถูกแปลเป็นไทยว่า “ทุกชีวิตปลอดภัยในวอลโว่” ด้วยความแปลกใหม่ของจุดขายเรื่องความปลอดภัย รวมถึงความนิยมในรถรุ่น 940-960 ทำให้สโลแกนนี้เป็นที่จดจำได้ในวงกว้าง ลามไปถึงคนที่ไม่ได้ติดตามวงการรถก็ยังรู้จัก ถึงขนาดที่ถูกนำไปใส่ในเนื้อเพลง “สี่แยกในดวงใจ” อย่างไรก็ตาม สโลแกนในปัจจุบันของวอลโว่ ถูกเปลี่ยนเป็น Volvo for life และไม่มีคำแปลภาษาไทยอีกแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สโลแกนไทยสุดคลาสสิคนี้ ก็จะติดหูคนเจเนอเรชั่นนี้ไปอีกนาน
สโลแกนรถยนต์แต่ละยี่ห้อนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีของการโปรโมทจนคนจดจำได้ ซึ่งการตัดสินว่าสโลแกนใดติดหูหรือไม่ เป็นการรวบรวมประสบการณ์จากการพูดคุยในกลุ่มคนชอบรถด้วยกัน รวมถึงการอ่านสารพัดบทความรถยนต์ ที่สื่อหลายสำนักก็ใช้เรียกแทนชื่อยี่ห้อก็มี แต่ถ้าหากมีรุ่นใด ยี่ห้อไหน ที่คุณคิดว่าติดหูมาก แต่ตกสำรวจจากบทความนี้ไป ก็คอมเมนท์เอาไว้ได้เลยครับ
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}