Xiaomi บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเลคโทรนิคยักษ์ใหญ่จากจีนเผยโฉมรถซีดานพลังงานไฟฟ้า SU7 รุ่นแรก เตรียมส่งมอบช่วงต้นปีหน้า
SU7 ซึ่งก่อนหน้านี้มีรหัสเรียกขานภายในองค์กรว่า MS11 จะขึ้นสายการผลิตโดยบริษัทคู่สัญญาของ Xiaomi ที่มีชื่อว่า Beijing Automotive Industry Holding Co. Ltd (BAIC) แต่ยังไม่มีการเปิดเผยราคาจำหน่ายแต่อย่างใด
ภาพชุดแรกนี้ได้รับการเปิดเผยโฉมกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน ถึงแม้จะมีรายงานว่าผู้บริหาร Xiaomi ไม่ชอบใจนักที่มีการเผยภาพออกมาก่อน แต่ก็ทำให้คอรถยนต์ได้ยลโฉมคันเต็มหัวจรดท้าย
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ชมสเปกทางเทคนิค
Xiaomi SU7 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารูปทรงตัวถังแบบซีดานขนาดใหญ่ มีมิติตัวถังยาว 4,997 มม. กว้าง 1,963 มม. และสูง 1,455 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 3,000 มม. ล้ออัลลอยมีทั้งขนาด 19 นิ้วและ 20 นิ้วให้เลือกสรร หุ้มด้วยยาง 245/45 R19 และ 245/40 R20 ตามลำดับ
มีการเผยโฉม SU7 ออกมา 2 เวอร์ชั่น นั่นคือรุ่นมีการติดตั้ง Lidar และรุ่นที่ไม่มีระบบดังกล่าว ซึ่งแน่นอนว่าระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ก็จะแตกต่างกันด้วย
หากดูที่เสาหลังคากลางจะพบว่ามีกล้องตรวจจับอยู่ด้วย แสดงว่า SU7 อาจมาพร้อมระบบปลดล็อกประตูด้วยการสแกนใบหน้าเหมือนกับสมาร์ทโฟน
ขุมพลังเริ่มต้นที่รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว 220 กิโลวัตต์ และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมีมอเตอร์คู่ขนาด 220 กิโลวัตต์และ 275 กิโลวัตต์ ชุดแบตเตอรี่เป็นแบบ LFP ของ BYD และแบบ NMC ของ CATL ซึ่งแบบหลังนั้นมีราคาสูงกว่า
น้ำหนักตัวรถรุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1,980 กก. สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 210 กม.ต่อชม. ขณะที่รุ่นท็อปมีน้ำหนักตัวถึง 2,205 กก. และทำท็อปสปีดได้ที่ 265 กม.ต่อชม.
ภายในห้องโดยสารมีระบบปฏิบัติการ HyperOS เอกสิทธิ์เฉพาะของ Xiaomi ที่รองรับการเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์และสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกสบาย
รายงานข่าวระบุว่า Xiaomi SU7 จะขึ้นสายการผลิตในเดือนธันวาคม 2023 และเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2024 เป็นต้นไป แต่ยังไม่มีการยืนยันราคาจำหน่ายและการทำตลาดในประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากจีนแต่อย่างใด
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });