![ทำไมต้องล้างรถหน้าฝน เดี๋ยวรถก็เลอะเหมือนเดิม ถ้าไม่ล้างจะเป็นยังไง 01]()
ล้างรถเรียกฝน ไม่ใช่อาถรรพ์ใดๆ เพราะฤดูฝนแบบนี้ มักจะตกไม่เลือกวันเวลาอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อบางคนเห็นรถถูกน้ำฝนชะล้างฝุ่นติดรถไปหมดแล้ว ก็คิดว่าไม่ต้องเสียเวลาราดน้ำล้างรถ แค่เอาผ้าเช็ดให้แห้งก็พอแล้ว แต่ความคิดนี้ไม่จริง ในทางกลับกัน เราควรล้างรถมากกว่าฤดูอื่นๆ ด้วยซ้ำ แล้วถ้าไม่ล้างจะเกิดอะไรขึ้น มาดูคำตอบกัน
![ทำไมต้องล้างรถหน้าฝน เดี๋ยวรถก็เลอะเหมือนเดิม ถ้าไม่ล้างจะเป็นยังไง 02]()
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
น้ำฝนสกปรกกว่าที่คิด
น้ำฝนตกจากฟ้า มาล้างฝุ่นจากผิวรถ แต่กลับสร้างปัญหาใหม่มากกว่าฝุ่นเดิม เพราะว่าในน้ำฝนถูกรวมเอาก๊าซไอเสียจากรถยนต์ทั้งดีเซลและเบนซิน รวมถึงเขม่าจากการเผาทั้งโรงงานและการเผาป่า เกิดมลพิษลอยขึ้นในอากาศ แล้วเข้าไปทำปฏิกิริยากันในเมฆ จากนั้นก็ตกกลับมาเป็นฝนกรด มีฤทธิ์เป็นกรดมากกว่าน้ำดื่มทั่วไป เมื่อราดลงสีรถ ก็จะทำลายชั้นสีอย่างช้าๆ โดยที่เราไม่รู้สึกตัว กว่าจะคิดได้ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว
![ทำไมต้องล้างรถหน้าฝน เดี๋ยวรถก็เลอะเหมือนเดิม ถ้าไม่ล้างจะเป็นยังไง 01]()
ถ้าไม่ล้างจะเป็นยังไง
การปล่อยรถโดนฝนจนหยุด แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งเอง จะทำให้เกิดคราบน้ำฝังแน่น จนเป็นรอยด่างดวงเกิดขึ้นทั้งบนกระจก ตัวถัง ล้อแม็กซ์ ชิ้นส่วนโครเมียมต่างๆ แม้อาจจะไม่เกิดภายในวันเดียว แต่ต้องสะสมไปเรื่อยๆ จากรอยด่างกลายเป็นคราบตะกรัน เด่นชัดจนต้องเสียเงินขัดเคลือบกันยกใหญ่
อีกหนึ่งผลร้ายหากไม่ล้างรถ นั่นคือการสะสมของฝุ่นโคลนตามซอกหลืบตัวถัง เป็นแหล่งสะสมความชื้น และกัดกินเนื้อสีเป็นคราบดำ อันเป็นที่มาของการเกิดสนิมในเวลาต่อมาด้วย
![ทำไมต้องล้างรถหน้าฝน เดี๋ยวรถก็เลอะเหมือนเดิม ถ้าไม่ล้างจะเป็นยังไง 02]()
ล้างแค่น้ำเปล่าได้มั้ย
คำถามสำหรับบางคนที่ขี้เกียจล้างรถเต็มระบบหลังฝนตก ก็มักจะฉีดล้างน้ำฝน และดินโคลนจากบังโคลนรอบๆ แล้วเช็ดผ้าแห้ง โดยข้ามขั้นตอนฟอกแชมพูเพื่อประหยัดแรงและเวลา ทำแบบนี้ก็อาจจะลดการทำร้ายสีรถลงไปได้บ้าง แต่ยังไงก็สู้วิธีลงแชมพูไม่ได้อยู่ดี
![ทำไมต้องล้างรถหน้าฝน เดี๋ยวรถก็เลอะเหมือนเดิม ถ้าไม่ล้างจะเป็นยังไง 03]()
ล้างแชมพูดีที่สุด
วิธีที่ปกป้องสีรถจากฝนตกได้ดีที่สุด คือการหมั่นล้างรถด้วยน้ำยาล้างรถบ่อยๆ เพราะในแชมพูล้างรถทุกยี่ห้อ มีฤทธิ์เป็นด่าง แถมมีสารลดแรงตึงผิว ไว้ทำลายสภาพฝนกรดให้ละลายไปพร้อมกัน อีกทั้งในบางยี่ห้อยังมีแว็กซ์ในตัว เพื่อเคลือบสีรถบางๆ เอาไว้เป็นโล่รับน้ำฝนในครั้งต่อไป ซึ่งควรจะล้างด้วยแชมพูทุกครั้ง ไม่ว่าจะใช้ยี่ห้อใดก็ตาม
![ทำไมต้องล้างรถหน้าฝน เดี๋ยวรถก็เลอะเหมือนเดิม ถ้าไม่ล้างจะเป็นยังไง 04]()
ขี้เกียจล้างบ่อย ทำไงดี?
ในระยะเวลา 5 เดือน (หรือ 8 เดือนในภาคใต้) จะต้องเจอฝนแทบจะวันเว้นวัน แถมเจ้าของรถหลายคนก็ไม่ได้มีเวลาดูแลรถ ทำให้ในสภาพความเป็นจริงไม่สามารถล้างรถได้บ่อยตามวันที่ฝนตก ก็อนุโลมให้เอาน้ำเปล่าฉีดบรรเทาเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แล้วค่อยล้างรถเต็มระบบในวันหยุด หรือเข้าคาร์แคร์เดือนละครั้งตามสภาพการเงิน ในระยะยาวก็ซื้อเครื่องทุ่นแรงอย่างเช่น เครื่องฉีดน้ำ/โฟม ก็เป็นสิ่งที่น่าลงทุน
![ทำไมต้องล้างรถหน้าฝน เดี๋ยวรถก็เลอะเหมือนเดิม ถ้าไม่ล้างจะเป็นยังไง 05]()
ฝนกรดนั้นมีฤทธิ์ร้ายโดยที่เรารู้ตัว ความร้ายลึก-ร้ายเงียบแบบนี้กินเวลานานหลายปี กว่าจะรู้สึกตัวก็ตอนที่เริ่มเห็นแลคเกอร์ลอกเป็นแผ่นๆ ออกมาแล้ว ดังนั้นหากเราบำรุงสีรถตั้งแต่เนินๆ เมื่อรถแก่ตัวลงไปก็จะยังฉายความสดใส ลดอาการซีดจาง ลดโอกาสเกิดสนิมอีกด้วย
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });