วิธีช่วยยืดอายุมอเตอร์ที่ปัดน้ำฝนให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ไม่ยากใครก็ทำได้!!!

หลาย ๆ คนคงคิดว่า ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับที่ปัดน้ำฝนนั้น เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของรถยนต์ และการเกิดการเสียหายนั้นก็เป็นเรื่องปกติและยังสามารถเปลี่ยนใหม่ได้ง่าย แต่ในช่วงเวลาที่ฝนตก ระบบมอเตอร์ที่ปัดน้ำฝนก็นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันจะก่อให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่ได้ถ้าเกิดเสียหายเมื่อขับรถในสภาวะที่มีฝนตก

แต่มีหลายคนยังไม่รู้ว่าเราสามารถดูแลมอเตอร์ใบปัดน้ำฝนด้วยตัวเอง เพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นได้ และยังไม่ยาก ทุกคนสามารถทำตามได้ทันที 

1.ถอดส่วนประกอบมอเตอร์ที่ปัดน้ำฝน

ขั้นแรกให้ถอดออกมอเตอร์ที่ปัดน้ำฝนเสียก่อน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากมาก เพราะมอเตอร์ที่ปัดน้ำฝน ประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก หนึ่งคือเกียร์ และอีกส่วนหนึ่งก็คือตัวมอเตอร์ไฟฟ้า โดยเราเริ่มจากการคลายเกลียวฝาปิดกล่องเกียร์ก่อน

2.ตรวจจาระบีภายใน

หลังเปิดที่เกียร์ออกมา เราก็จะมาตรวจสภาพจาระบีภายใน ซึ่งปกติเราใช้เกียร์นี้เป็นบ่อยมาก จนทำให้มันเป็นชิ้นส่วนที่เกิดความเสียหายได้ง่าย

3.แกนเกียร์เกิดสนิม

บางที่เราจะเห็นว่าที่แกนเกียร์นั้นเกิดการเป็นสนิม ซึ่งหลาย ๆทีเป็นเพราะน้ำฝนทำให้เกิดสนิมขึ้น 

4.เปิดมอเตอร์ไฟฟ้า

ถัดไปเราคลายน็อตและถอดปลอกพลาสติกออก และตรวจภายในของมอเตอร์ไฟฟ้า  ที่ส่วนใหญ่มีสองส่วนที่เราต้องบำรุงเป็นหลัก ได้แก่ แกนกับแปรงถ่าน ดังนั้นเราต้องตรวจสอบสองที่นี้อย่างละเอียด

5.ตรวจสภาพความหล่อลื่นของมอเตอร์ไฟฟ้า

สาเหตุหลักที่ทำให้มอเตอร์ที่ปัดน้ำฝนเกิดความเสียหายก็คือ จาระบีน้อย หลังถอดมอเตอร์ไฟฟ้าออกแล้ว เราต้องเติมจาระบีให้โรเตอร์และแกนเพื่อช่วยในการหล่อลื่นลดการสึกหรอของแกน

6.เติมจาระบีให้กับเกียร์หนอน

หลังคลายโรเตอร์ มีเกียร์หนอนอยู่บนเกียร์หนอนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการเชื่อมกับเกียร์เพื่อขับเคลื่อนเกียร์ให้หมุน และให้สวิงอาร์มหมุนไปทางซ้ายและขวา

7.เติมจาระบีให้เพลาเกียร์

หากเพลาเกียร์เกิดสนิมมากจะส่งผลต่อการทำงานของมอเตอร์และเพิ่มความต้านทานต่อการทำงานของมอเตอร์ จนทำให้มอเตอร์ทำงานไม่ราบรื่น ดังนั้นเมื่อติดตั้ง เราควรเน้นการทำความสะอาดสนิมของเพลาใบพัด และใช้กระดาษทรายละเอียดขัดแกนใบพัด และเติมจาระบีที่พื้นผิวเพื่อให้หล่อลื่นขึ้น

8.หล่อลื่นเกียร์

เกียร์มีหน้าที่ในการเชื่อมต่อระหว่างสวิงอาร์มปัดน้ำฝนและมอเตอร์ ดังนั้นในระหว่างขั้นตอนการติดตั้งเราจำเป็นเติมจาระบีที่ส่วนบนของเกียร์เพื่อให้หล่อลื่นขึ้น แต่ไม่ควรเติมมากเกินไป เพราะว่าถ้าหล่อลื่นมากเกินไป จาระบีจะถูกเก็บไว้ในกล่องเกียร์ เวลาผ่านไปนานๆจะแห้งง่าย และจะนำความต้านทานส่งผลต่อการทำงานของเกียร์

9.เติมจาระบีให้กับแผ่นโลหะที่ระบุตำแหน่ง

มีแผ่นโลหะที่ระบุตำแหน่งอยู่บนเกียร์ ซึ่งสามารถระบุตำแหน่งเชิงมุมในขณะนี้ของเกียร์ให้กับชุดควบคุมได้  แต่ในระหว่างการใช้งาน ที่นี่ก็มีแรงเสียดทาน แต่เนื่องจากว่าจำเป็นต้องเป็นสื่อกระแสไฟฟ้า ดังนั้นวิธีการบำรุงรักษาที่ดีที่สุดคือ การทาจาระบีที่เป็นสื่อกระแสไฟฟ้าให้กับพื้นผิว

10.ตรวจปะเก็นปิดผนึก

ในระหว่างการติดตั้งเราต้องตรวจสอบว่าปะเก็นปิดผนึกของกล่องเสียหายหรือไม่ สาเหตุหลักที่น้ำเข้ามอเตอร์ก็คือความเสียหายของปะเก็น ถ้ามีความเสียหายให้เปลี่ยนใหม่ทันที

จริง ๆ วิธีการบำรุงรักษามอเตอร์ที่ปัดน้ำฝนก็ง่ายอยู่แล็ว ใครก็ทำได้ และเราไม่ควรมองข้ามการดูแลตรงจุดนี้ไป อีกอย่างการดูแลชิ้นส่วนเล็ก ๆ เหล่านี้เป็นประจำ ก็จะช่วยใช้การใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้คงทนยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการดูแลเราระหว่างการขับขี่รถยนต์เช่นเดียวกัน