2022 Hyundai Stargazer (2022 ฮุนได สตาเกเซอร์) ได้รับการเผยโฉมอย่างเป็นทางการในประเทศอินโดนีเซีย สร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าครอบครัวโดยเฉพาะ
Hyundai ประกาศว่ารถมินิเอ็มพีวี Stargazer ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานบนท้องถนนในประเทศอินโดนีเซียซึ่งการจราจรติดขัดจึงต้องการรถที่ให้ความสะดวกสบาย ขณะเดียวกัน ลูกค้าในแดนอิเหนายังชื่นชอบการเดินทางไกลในช่วงสุดสัปดาห์ รถรุ่นนี้เหมาะสำหรับลูกค้ากลุ่มครอบครัวที่มองหาความล้ำสมัยและสมรรถนะการขับขี่ที่โลดแล่นไปได้ทุกจุดหมายอย่างสะดวกสบาย
ค่ายรถจากแดนโสมขาวส่ง Stargazer ออกทำตลาดทั้งหมด 6 รุ่นย่อย ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 243,300,000 – 307,100,000 รูเปียห์อินโดนีเซียหรือประมาณ 595,000 – 752,000 บาท ถือว่าย่อมเยาและน่าจะแข่งขันกับ Toyota Veloz และ Suzuki XL7 ได้อย่างน่าติดตาม
รูปลักษณ์ถ่ายทอดมาจาก Staria
คนที่ชื่นชอบรูปลักษณ์ภายนอกของรถเอ็มพีวี Hyundai Staria แต่งบประมาณไม่ถึงอาจได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่และรอเก็บเงินดาวน์ได้เลย เนื่องจาก Stargazer ถ่ายทอดสไตล์มาจากรุ่นพี่มาอย่างชัดเจน ออกแบบภายใต้แนวคิด Sleek One Box ผสมผสานกับ One Curve Design ซึ่งทำให้ตัวถังมีขนาดพอเหมาะแต่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางกว่าที่เห็น
ด้านหน้าสะดุดตาด้วยเดย์ไลท์ Horizontal DRL ขณะที่บั้นท้ายติดตั้งไฟแบบ Distinctive H Rear Lamp ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มองปราดเดียวก็รู้ยี่ห้อได้ทันที ค่ายรถยักษ์เกาหลีระบุว่าดีไซน์แบบนี้เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและความเร้าอารมณ์ได้อย่างลงตัว ขณะที่ล้ออัลลอยใช้ขนาด 15 นิ้ว หุ้มด้วยยาง 185/65 R15
มิติตัวถังมีขนาดยาว 4,460 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,695 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,780 มม. ซึ่งใกล้เคียงกับ Mitsubishi Xpander อย่างมาก
ภายในห้องโดยสารจัดวางเบาะแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ออกแบบเน้นความกว้างขวางด้วยแนวคิด Multifunctional Storage Space ซึ่งเป็นคอนเซปต์เดียวกับ Staria มีช่องเก็บของมากมาย รวมถึงช่องวางแก้วน้ำ โต๊ะปิกนิก และอื่น ๆ รองรับการใช้งานอย่างอเนกประสงค์ พื้นที่จัดเก็บสัมภาระสูงสุด 585 ลิตร
นอกจากนี้ Stargazer ยังมีการดีไซน์อ็อปชั่นแบบ Captain Seat ซึ่งไม่เพียงเพิ่มความสะดวกสบายแต่ยังมอบความรู้สึกโปร่งโล่ง ตัวเบาะสามารถปรับเลื่อนไปด้านหน้า ด้านหลัง ตั้งตรงและปรับเอนได้ ส่วนผู้โดยสารเบาะแถวที่ 3 ก็รองรับการเข้าและออกได้ง่ายดาย บนเพดานมีช่องแอร์เหมาะสำหรับอากาศร้อน ๆ ทั้งในอินโดนีเซีย ไทย และเพื่อนบ้านอาเซียนชาติอื่น ๆ
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน มีแท่นชาร์จไฟไร้สาย ชุดมาตรวัดฟูลดิจิทัล TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ส่วนคอนโซลหน้ามีหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 8 นิ้ว
ระบบความปลอดภัยแพ็คเกจ Hyundai SmartSense ประกอบด้วยระบบป้องกันการชนด้านหน้า ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร ระบบตรวจจับมุมอับสายตา ตลอดจนระบบแจ้งเตือนจราจรตัดขวางด้านหลังและป้องกันการชน
ขุมพลังขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร MPI รีดพละกำลังสูงสุด 115 แรงม้าที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 14.7 กก.-ม. ที่ 4,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง IVT
นอกจากนี้ยังมีระบบ Hyundai Bluelink เชื่อมต่อตัวรถเข้ากับสมาร์ทโฟนเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถสั่งการและเข้าถึงข้อมูลตัวรถจากระยะไกล อย่างการสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ การปรับอุณหภูมิ การกดแตร เปิด-ปิดไฟ และการค้นหาตัวรถในลานจอด
สำหรับกำหนดการเปิดตัวในเมืองไทยยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าคอรถยนต์ในบ้านเราจะได้สัมผัสตัวจริงเสียงจริงกันภายในปลายปีนี้แน่นอน โปรดติดตามอย่างใกล้ชิด