กลุ่มงานจราจรเชียงใหม่เผยผลการใช้งานกล้องอัจฉริยะ AI (Artificial Intelligence) ในจังหวัดเชียงใหม่ประสบความสำเร็จด้วยดี พบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อกกว่า 100 รายต่อวันโดยเฉพาะช่วงกลางคืน
พ.ต.ท.ศุภชัย จันทรา รองผู้กำกับการกลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการโครงการกล้องอัจฉริยะ AI เพื่อตรวจจับผู้กระทำความผิดไม่เคารพกฎจราจร โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยซึ่งเริ่มวันแรกเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา พบผู้กระทำความผิดประมาณ 20 รายในช่วงกลางวัน และมากกว่า 100 กว่ารายในช่วงกลางคืน
การใช้เทคโนโลยีกล้อง AI เป็นการต่อยอดจากนโยบายสมาร์ทซิตี้เพื่อตรวจสอบสภาพการจราจร และยกระดับการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดในส่วนของยานพาหนะที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอันดับสูงสุดคือรถจักรยานยนต์ และความรุนแรงอันดับต้นๆ ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็คือการไม่สวมใส่หมวกนิรภัยขณะขับขี่
กล้อง AI ถูกติดตั้งอยู่ใน 5 อำเภอที่มีสถิติอุบัติเหตุสูง ประกอบด้วย แม่ริม, สารภี, หางดง, สันทราย และตัวเมืองเชียงใหม่ โดยมีการติดตั้งและทดลองใช้งานระบบมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา และมีการประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนตระหนักถึงความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
ระบบกล้อง AI จะใช้เซ็นเซอร์ทำหน้าที่ตรวจจับหมวกนิรภัยเป็นหลัก โดยในการทดสอบการใช้งานพบว่ามีความแม่นยำถึง 98% และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ เพื่อดูวัน เวลา และสถานที่ รวมไปถึงหมายเลขทะเบียนรถเพื่อลดข้อโต้แย้งกรณีผู้ขับขี่ที่ถูกตรวจจับมาขอตรวจสอบ
หากกล้องมีการตรวจจับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้ซ้อนท้ายไม่สวมหมวกนิรภัย ระบบจะเชื่อมโยงกับระบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและมีการพิมพ์ใบสั่งอัตโนมัติเพื่อส่งไปยังเจ้าของรถ และจะต้องชำระค่าปรับสำหรับผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ 400 บาท และโดยสารรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับ 800 บาท
ขณะเดียวกัน หากมีการปกปิดแผ่นป้ายทะเบียนรถหรือไม่สวมป้ายทะเบียนจะเข้าข่ายการกระทำความผิดโดยซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถบังคับใช้กฎหมายการกระทำความผิดซึ่งหน้า โดยจะมีความผิดเพิ่มฐานปิดบังซ่อนเร้น
เชียงใหม่ถูกกำหนดให้ติดตั้งกล้อง AI เป็นแห่งแรกในประเทศไทยเนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีจำนวนรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมากที่สุดอยู่ที่ประมาณ 8.4 แสนคัน และที่ผ่านมาเกิดความสูญเสียจากอุบัติเหตุเป็นประจำทุกวัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจเน้นย้ำว่าการใช้กล้อง AI มีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุโดยเฉพาะกรณีที่เกิดกับรถจักรยานยนต์
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบความคิดเห็นของชาวเน็ตในจังหวัดเชียงใหม่พบว่ามีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ ส่วนใหญ่มองว่าแค่ปฏิบัติตามกฎหมายด้วยการสวมหมวกกันน็อกก็ได้รับทั้งความปลอดภัยต่อร่างกายและไม่ต้องเสียเงินค่าปรับ แต่ก็มีผู้ใช้รถจักรยานยนต์บางรายมองว่าเงินค่าปรับ 800 บาทนั้นสูงเกินไปเมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำซึ่งอยู่ที่ 300 บาทต่อวัน
ขอบคุณภาพ: PPTV, เชียงใหม่นิวส์
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}