คมนาคมประกาศมาตรการสูงสุดคุมขนส่งทุกด้านสกัด COVID-19

กระทรวงคมนาคมเร่งทำความสะอาดรถเมล์ทุกสายที่วิ่งจากสมุทรสาคร พร้อมทั้งเดินหน้ามาตรการควบคุม COVID-19 อย่างใกล้ชิด หลังสถานการณ์เริ่มทวีความรุนแรงในประเทศไทย ขณะที่กทม.ออกประกาศขอความร่วมมือรอบด้าน ทั้งงดงานปีใหม่-ขอความร่วมมือทำงานที่บ้าน

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จังหวัดสมุทรสาคร กระทรวงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์ และดำเนินการตามแผนป้องกันโควิดอย่างใกล้ชิด โดยได้เริ่มจากการทำความสะอาดรถเมล์ 9 สายที่วิ่งจากสมุทรสาคร

นอกจากนี้ ได้ประกาศใช้มาตรการขั้นสูงสุดอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้ากากอนามัย การรักษาระยะห่าง การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รวมถึงการทำความสะอาดพ่นแอลกอฮอล์อุปกรณ์และยานพาหนะ โดยได้ระบุให้มีการรายงานผลการปฎิบัติทุกวัน จนกว่าจะเสร็จสิ้นสถานการณ์

เร่งเครื่องทำความสะอาดรถเมล์เคร่งครัด

สำหรับรถเมล์ที่วิ่งให้บริการบนเส้นทางสมุทรสาคร-กทม. ในปัจจุบัน ประกอบไปด้วย 9 สาย ได้แก่ สาย ปอ.7 สมุทรสาคร-หัวลำโพง สาย 43 ศึกษานารี 2-เทเวศน์ สาย ปอ.68 สมุทรสาคร-บางลำภู สาย 105 มหาชัยเมืองใหม่-คลองสาน สาย 140 แสมดำ-มหาชัยเมืองใหม่อนุเสาวรีย์ชัย (ทางด่วน)

สาย 141 แสมดำ - จุฬา (ทางด่วน) สาย 142 ปากน้ำ-แสมดำ (ทางด่วน) สาย 8183 สมุทรสาคร-ปิ่นทอง และสาย 8328 สมุทรสาคร-เคหะธนบุรี โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้เริ่มทำความสะอาดรถโดยสารประจำทาง สาย 105 ณ ท่ามหาชัยเมืองใหม่ และสายการเดินรถในเขต 5 

ทั้งนี้ ทางขสมก.ได้ดำเนินการฉีดพ่นแอลกอฮอล์ ตรวจสอบเจลทำความสะอาดมือ ตามมาตรการป้องกันการแพ่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมกำชับให้มีการทำความสะอาดทุกรอบ ทุกคัน รวมถึงกำชับการใช้การใช้หน้ากากอนามัยของพนักงานและผู้โดยสารผู้ใช้รถทุกคนอีกด้วย

กทม.ประกาศคุมเข้มทุกมาตรการโควิด-19

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า ในเขตกทม.มีจำนวนแรงงานต่างด้าวอยู่จำนวน 5-6 แสนคน โดยจะมีมาตรการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ด้วยการตั้งด่านคัดกรองโรค 4 จุดตลอด 24 ชม. รวมถึงให้ ตรวจพื้นที่เสี่ยงตลาดนัด 472 แห่ง เพื่อคัดกรองอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือภาคเอกชนในการงดจัดงานกิจกรรมปีใหม่ ได้ทำหนังสือถึงภาคเอกชนขอความรวมมือในเรื่องดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย โดยในส่วนของกทม.จะงดหมดทุกกิจกรรม  แต่หากภาคเอกชนหรือสถานที่ใดต้องการจะจัด จะต้องขออนุญาตสำนักอนามัย พร้อมทำแผนคุมโรคอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ ยังได้ประกาศให้ปิดโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็กของกทม.ที่อยู่ใกล้สมุทรสาคร 14 วัน ส่วนโรงเรียนอื่น ๆ หากไม่มีกิจกรรมสำคัญก็ขอให้หยุด รวมถึงขอให้เอกชน ภาครัฐให้หยุดหรือทำงานที่บ้าน โดยยืนยันว่าจะยังไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเวลานี้ แต่จะมีมาตรการคุมเข้มการระบาดของโรคมากขึ้น100%

จับตาเสนอใช้กฎหมายเด็ดขาดคุมโรค

มีรายงานข่าวเพิ่มเติวว่าช่วงเช้าของวันนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข จะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกเหนือไปจากการรายงานการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา คาดว่าจะมีการเสนอเพื่อขอใช้มาตรการการควบคุมโรคและป้องกันการระบาด ในสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เนื่องจากต้องให้ฝ่ายความมั่นคง เข้ามาดำเนินการและบังคับใช้กฎหมาย

ทั้งนี้ การประกาศใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด อาจจะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและบรรยากาศในช่วงเทศกาลปีใหม่  ทำให้ต้องนำเสนอให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. จะต้องพิจารณาตัดสินใจ