ถอดรหัสญี่ปุ่นลดอุบัติเหตุบนถนนอย่างไร ขณะไทยยังมีผู้เสียชีวิตติดอันดับโลก

ทีดีอาร์ไอ เผยอุบัติเหตุบนท้องถนนของประเทศไทยยังร้ายแรงติดอันดับโลก มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20,000 รายต่อปีหรือประมาณ 56 รายต่อวัน

ตัวเลขดังกล่าวส่งให้ไทยกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตบนท้องถนนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสูงที่สุดติดท็อป 10 ของโลก ถึงแม้หน่วยงานภาครัฐจะออกมาตรการและนโยบายมากมายเพื่อจำกัดจำนวนอุบัติเหตุที่ทำให้ผู้เสียชีวิตก็ตาม

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยหรือทีดีอาร์ไอ นำโดย ดร. สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานกรรมการ ได้เปิดเผยแนวทางเบื้องต้นในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยอ้างอิงจากความสำเร็จของประเทศญี่ปุ่นที่ถือว่ามีจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุน้อยที่สุดในโลก

ญี่ปุ่นลดจำนวนอุบัติเหตุร้ายแรงได้อย่างไร?

ในปี 2020 ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจำนวนทั้งสิ้น 2,839 ราย ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากปี 2019 ซึ่งอยู่ที่ 3,215 ราย และลดเกือบครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับปี 2011 ซึ่งอยู่ที่ 4,691 ราย

รายการ “คิดยกกำลังสอง” ทางช่องไทยพีบีเอสทำการสัมภาษณ์ ดร. สมเกียรติ ซึ่งเปิดเผยว่า แท้จริงแล้ว ไทยพยายามแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังหาสูตรสำเร็จไม่พบซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปหรืออาจจะต้องถอดแบบจากต่างประเทศ

เมื่อดูจากความสำเร็จในประเทศญี่ปุ่น ยกตัวอย่างจังหวัดไอจิ สามารถลดผู้เสียชีวิตลงจาก 725 คนในปี 1971 เหลือ 189 คนในปี 2018 และ 154 คนในปี 2020 ที่ผ่านมา  

ดร. สมเกียรติ ชี้ว่าญี่ปุ่นจะมีระบบการดำเนินการที่เป็นระเบียบและรอบคอบในทุกด้าน โดยมี 4 ขั้นตอนหลัก คือ 1. วางแผน 2. ลงมือทำ 3. ประเมินผล และ 4. ปรับแผนใหม่ โดยทั้ง 4 ขั้นตอนจะหมุนเวียนซ้ำกันไปเพื่อยกระดับผลลัพธ์ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สิ่งสำคัญของการวางแผนทั้งระยะสั้น 1 ปีและระยะยาว 5 ปีขึ้นไปคือต้องลงมือทำจริง ภาครัฐต้องแบ่งงานระหว่างส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น พร้อมกับมีการจับมือกับภาคเอกชนเพื่อร่วมกันพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

ลงพื้นที่ - เก็บข้อมูล - วางแผน

คณะทำงานที่ได้รับมอบหมายจะลงพื้นที่เพื่อระบุจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และระบุจุดเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการคำนวณด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมและสามารถนำมาวางแผนป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ดร. สมเกียรติ ยกตัวอย่างการป้องกันอุบัติเหตุในจุดที่ควรหยุดรถก่อนถึงทางแยกต่าง ๆ แต่ผู้ขับขี่มักไม่หยุด จึงต้องมีการทาสีแดงบนพื้นถนนเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ โดยหลังจากทาสีแดงไปแล้ว จำนวนผู้ขับขี่ที่ไม่หยุดรถนั้นลดลงจาก 52.3% เหลือ 24.3%

บทเรียนความสำเร็จจากญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่ไทยสามารถทำได้ตามความคิดเห็นของ ดร. สมเกียรติ หากมีการรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้อง มีการวางแผน การปรับปรุง และการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง

แต่ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่ญี่ปุ่นมีแต่บ้านเราไม่มี?

ปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จในการลดอุบัติเหตุของญี่ปุ่นยังมีอีกมากมาย รายงานของสำนักงานกิจการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า มาตรการสำคัญที่ญี่ปุ่นดำเนินการเพื่อลดอุบัติเหตุตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 เป็นต้นมาถูกเรียกว่า “สงครามการจราจร ครั้งที่ 1” (Traffic War) ได้แก่

  • การพัฒนาระบบกฎหมายจราจรที่ครอบคลุม
  • การส่งเสริมการติดตั้งสัญญาณจราจรที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย (โดยเฉพาะผู้ใช้ทางเท้า)
  • การให้ความรู้ด้านความปลอดภัยจราจร
  • การบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด

สงครามการจราจร ครั้งที่ 2 เริ่มดำเนินการในปี 1992 อันเป็นช่วงที่สภาพเศรษฐกิจเฟื่องฟูอย่างมากจนปริมาณจราจรมีความหนาแน่นมากขึ้นตามไปด้วย ความเร็วเฉลี่ยที่ผู้ขับขี่ใช้ก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ซึ่งการดำเนินการหลักใหญ่ที่รัฐบาลญี่ปุ่นใช้นั้นได้แก่

  • ลดความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุด้วยการส่งเสริมให้คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกกันน็อก
  • กวดขันการจำกัดความเร็ว
  • ยกระดับการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ
  • ดำเนินการลงโทษผู้ที่ทำผิดกฎจราจรให้หนักมากขึ้น

และตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ภาครัฐของแดนปลาดิบมุ่งเน้นดำเนินการ 3 ด้านที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของสังคมในปัจจุบัน

  • การให้ความรู้ด้านความปลอดภัยจราจร
  • การเพิ่มความปลอดภัยของผู้ใช้ทางเท้า
  • มาตรการดูแลผู้ขับขี่สูงอายุ

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
May

นักเขียนอาวุโส

อดีตนักข่าว เอเจนซี่ และฟรีแลนซ์ฝีมือเยี่ยม ที่นำประสบการณ์ร่วม 20 ปีมาถ่ายทอดคอนเทนท์และประเด็นข่าวในวงการยานยนต์ทั้งไทยและเ...

ซื้อรถถูกกว่า ขายรถเร็วขึ้น

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Toyota Fortuner

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ