Toyota Motor (โตโยต้า) ประกาศเป้าหมายการผลิตรถยนต์ Toyota และ Lexus (เลกซัส) รวมทั้งหมด 10.4 ล้านคันทั่วโลกภายในปีหน้า หนึ่งในนั้นคือ Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) ในตลาดบ้านเกิด
เป้าหมายดังกล่าวหมายความว่า Toyota จะสามารถผลิตรถยนต์ทะลุหลัก 10 ล้านคันได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีซึ่งได้แรงขับเคลื่อนจากปัจจัยบวกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการฉีดวัคซีนที่เริ่มครอบคลุมมากขึ้นในตลาดใหญ่ทั่วโลก และปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่เริ่มคลี่คลาย
สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นได้แจ้งให้ซัพพลายเออร์ผู้ผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ เตรียมความพร้อมและขยายการลงทุนเพื่อผลิตชิ้นส่วนจำนวนมากขึ้นรองรับการผลิตรถยนต์ในอนาคต
ในปี 2020 ที่ผ่านมา Toyota สามารถผงาดขึ้นไปเป็นแชมป์ยอดขายสูงสุดในโลกได้สำเร็จในรอบ 5 ปี เขี่ย Volkswagen ตกลงมาเป็นอันดับ 2 และมีการคาดการณ์ว่าค่ายรถจากแดนอาทิตย์อุทัยจะรักษาแชมป์ได้อีกนานหลายปี
สำนักข่าว Nikkei ระบุว่า Toyota วางแผนผลิตรถยนต์ให้ถึง 9.5 ล้านคันในปีงบประมาณ 2021 ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 10.4 ล้านคันในปีงบประมาณ 2022 แบ่งเป็นการผลิตในต่างประเทศ 7.1 ล้านคันและในญี่ปุ่นอีก 3.3 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้น 10% และ 3% ตามลำดับเมื่อเทียบระหว่างปี 2021 และปี 2022
Toyota จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ด้วยการให้ความสำคัญสูงสุดกับตลาดจีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีขนาดใหญ่ระดับท็อป 3 ของโลก คาดว่าการขยายกำลังการผลิตจะช่วยกระตุ้นซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก และตลาดรถยนต์จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น
นอกจากการเจาะตลาดที่เหมาะสม กุญแจสำคัญที่จะส่งให้ Toyota รั้งผู้นำในตลาดโลกยาวนานหลายปีข้างหน้าคือการเลือกเจาะตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกในเวลาที่เหมาะสม ปัจจุบัน พวกเขากำลังซุ่มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอย่างเข้มข้นและกำลังจะเปิดประตูเข้าสู่ยุคแห่งรถอีวีอย่างเต็มตัวในอีกไม่ช้า แน่นอนว่าจีนจะเป็นตลาดหลักในช่วงแรกเนื่องจากมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับรถอีวีจำนวนมหาศาล
ในจีน Toyota จับมือกับหุ้นส่วน Guangzhou Automobile Group วางแผนการขยายกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2022 ขณะที่ในสหรัฐอเมริกา พวกเขามีการร่วมมือกับ Mazda Motor ในการผลิตรถยนต์ร่วมกัน
ส่วนในญี่ปุ่น Toyota ให้ความสำคัญกับการรักษาการว่าจ้างงาน และเตรียมขึ้นสายการผลิตรถยนต์ที่หลายคนรอคอยอย่าง Toyota Corolla Cross และ Toyota Land Cruiser ใหม่ที่จะออกจำหน่ายในตลาดบ้านเกิดในช่วงปลายปีนี้
สำนักข่าว Nikkei ระบุในรายงานข่าวว่า ปัญหาชิพส์เซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังขาดแคลนอย่างหนักเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ส่งผลต่อ Toyota มากนักเพราะมีแผนการรับมือที่รอบคอบ ค่ายรถเบอร์หนึ่งของโลกเรียนรู้ผลกระทบหลังเกิดภัยพิบัติมหาสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 จึงมีการสต็อกชิ้นส่วน รวมถึงชิพส์ไว้เป็นจำนวนมาก ทำให้ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนชิ้นส่วนดังกล่าวไม่หนักหนาสาหัสเท่าคู่แข่งอย่าง Volkswagen และ General Motors ที่ต้องลดกำลังการผลิตหรือปรับเปลี่ยนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในรถที่จำเป็นต้องใช้ชิพส์ใหม่
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}