ชมสเปก VN-16 รถถังเบาที่กองทัพเรือไทยซื้อจากจีน ติดปืน 105 มม. ส่งมอบก่อนวัคซีน

กลายเป็นกระแสฮือฮาเมื่อพรรคฝ่ายค้านอภิปรายการจัดการงบประมาณของกองทัพเรือ หนึ่งในนั้นคือการจัดซื้อยานเกราะโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่น VN-16 จำนวน 3 คัน มูลค่ารวม 398 ล้านบาท

การจัดซื้อดังกล่าวทำให้เกิดคำถามตามมาถึงความเหมาะสมในการใช้งบประมาณท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ผู้บัญชาการกองทัพเรือ พล.ร.อ.เชษฐา ใจเปี่ยม ชี้แจงเบื้องต้นว่าการจัดซื้อยานเกราะโจมตี VN-16 ทั้ง 3 คันเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ก่อนเพิ่งได้รับการส่งมอบในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมเข้าประจำการในกองร้อยรถถัง กองพันรถถัง กองพลนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

เราไปชมกันว่าเจ้ายานเกราะโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกจากแดนมังกรที่มีรหัส ZTD-05 หรือ VN-16 ที่เป็นชื่อในรุ่นส่งออก มีคุณสมบัติอะไรน่าสนใจบ้างในการปกป้องประเทศและเสริมสร้างขีดความสามารถด้านความมั่นคง

ชมความโหดยานเกราะโจมตี VN-16 สัญชาติจีน

เว็บไซต์ Armyreconigtion ระบุว่า VN-16 ได้รับการออกแบบและผลิตโดยบริษัท China North Industries Corporation หรือ NORINCO จากจีน ถือเป็นยานเกราะโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกสำหรับประจำการในหน่วยนาวิกโยธินโดยเฉพาะ

VN-16 ยังถือเป็นยานเกราะสะเทินน้ำสะเทินบกที่ติดอาวุธหนักหรือปืนใหญ่รถถังขนาด 105 มม. เพียงรุ่นเดียวในพิกัดนี้ ขณะที่อาวุธรองคือปืนกลขนาด 7.62 มม. และเครื่องยิงลูกระเบิดควันอีก 2 ชุดติดตั้งที่ด้านข้างของป้อมปืน มีระบบการยิงควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์และมีการวัดระยะด้วยเลเซอร์

ตัวยานเกราะปกป้องด้วยเหล็กกล้า สามารถป้องกันกระสุนปืนเล็กและเศษกระสุนปืนใหญ่ ขณะที่ส่วนท้ายยังมีการเสริมเกราะเพิ่มเติมเพื่อป้องกันกระสุนหัวระเบิดแรงสูง (HEAT rounds) ภายในตัวรถรองรับพลประจำรถ 4 นายคือ พลขับ ผู้บัญชาการรถ พลปืน และพลกระสุน

สำหรับระบบขับเคลื่อนสามารถส่งกำลัง VN-16 โลดแล่นในน้ำได้ความเร็วสูงสุด 25 กม.ต่อชม. ขณะที่การวิ่งบนบกทำความเร็วสูงสุด 65 กม.ต่อชม. มีระยะทางขับขี่ไกลสูงสุด 500 กม. น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 26,000 กก. มิติตัวถังยาว 9.5 เมตร กว้าง 3.37 เมตร และสูง 3.6 เมตร

เว็บไซต์ Armyreconigtion ยังรายงานว่าประเทศที่ใช้ยานเกราะ VN-16 ในเวลานี้ประกอบด้วยจีน เวเนซุเอล่า และประเทศไทย

ทั้งนี้ โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันว่า การจัดหายานเกราะโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก แบบ VN 16 นั้น เป็นการจัดหาในปีงบประมาณ 2563 ซึ่งเป็นไปตามแผนการเสริมสร้างกำลังกองทัพเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อดูแลความมั่นคงในส่วนที่กองทัพเรือรับผิดชอบ โดยดำเนินการในห้วงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ กองทัพเรือ มุ่งมั่นในการเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ เป็นที่พึ่งของประชาชนและบริหารจัดการด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งกระบวนการจัดหายุทโธปกรณ์เป็นไประเบียบราชการทุกประการ