McLaren Elva สปอร์ตเปิดประทุน 815 แรงม้า ค่าตัว 200 ล้าน เตรียมเปิดตัวในไทยเดือนหน้า

McLaren Elva (แม็คลาเรน เอลว่า) รถยนต์เบอร์ 5 ในอัลติเมต ซีรี่ย์ ของ McLaren (แม็คลาเรน) เตรียมเปิดตัวในประเทศไทยต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ คาดว่าสปอร์ตเปิดประทุนสายพันธุ์แรง 815 แรงม้ารุ่นนี้ จะมาพร้อมค่าตัวในประเทศไทยสูงถึง 200 ล้านบาท

รถยนต์สปอร์ตสายพันธุ์สุดขั้วที่ได้รับการสานต่อชื่อเอลว่ามาจากรถสปอร์ตในตำนานที่มีชื่อเสียงของแมคลาเรนที่ถูกผลิตในช่วงปี 1964 โดยมาพร้อมรูปทรงแบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง ที่เลือกใช้การออกแบบที่โฉบเฉี่ยวดุดัน พร้อมรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่ง

แม็คลาเรน ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยสนนราคาค่าตัวที่คาดว่าจะทะลุ 200 ล้านบาท และยังไม่แน่ใจว่าจะมีเหลือโควต้าให้ลูกค้าชาวไทยสักกี่คัน จากที่มีการลดการผลิตทั้งหมดเหลือ 249 คันก่อนหน้านี้

ทำไมรถคันนี้ถึงแพงนักนะ... มาชมกัน!!!

สายพันธุ์สปอร์ตระดับอัลติเมต

เอลว่าเป็นรถยนต์สปอร์ตลำดับที่ 5 ในอัลติเมต ซีรี่ย์ของแมคลาเรน ที่แต่ละคันต่างมีเอกลักษณ์ ผลิตจำนวนจำกัดและแพงระยับทั้งสิ้น เป็นกลุ่มรถยนต์สปอร์ตที่ลูกค้าทั่วโลกต่างแสวงหามาสะสม ไม่ว่าจะเป็น McLaren F1, McLaren P1, McLaren Senna และ McLaren Speedtail ก่อนจะเปิดตัว Elva ในช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ และเริ่มส่งมอบช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา

ตัดกระจกหน้าและหลังคาเพิ่มบรรยากาศสปอร์ต

แม็คลาเรนได้ออกแบบรถคันนี้เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึงเสียงเครื่องยนต์และบรรยากาศสปอร์ตแบบเต็มพิกัด ด้วยการตัดทั้งหลังคาและกระจกหน้าออกจากรถเวอร์ชั่นผลิตจริง แต่หากใครกังวลว่าจะเกิดปัญหาลมปะทะหน้า ทีมออกแบบของแม็คลาเรนได้แก้ปัญหาด้วยการออกแบบช่องดักลมด้านหน้า เพื่อบังคับให้กระแสลมไหลผ่านไปทางเหนือห้องโดยสารทั้งหมด

โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ เบาที่สุดของแบรนด์

แม็คลาเรนเลือกใช้โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน เพื่อให้ได้น้ำหนักรถที่เบาที่สุด ทำให้รถคันนี้มีน้ำหนักเบาที่สุดของแบรนด์ และเสริมความแข็งแรงด้วยคานเสริมแกร่งด้านบนของรถ ออกแบบด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Active Air Management System ดักทางลม และสามารถเลือกติดตั้งกระจกหน้าเป็นออพชั่น ติดตั้งปีกที่ด้านท้ายสำหรับการคุมลมที่ด้านหลัง

เครื่องยนต์สุดระทึกใจ เอาใจนักขับขี่

เลือกใช้เครื่องยนต์วี8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 815 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบดูอัลคลัตช์ 7 สปีด สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3 วินาที และวิ่งจาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.7 วินาที ซึ่งถือว่ามีสมรรถนะสูงกว่ารุ่นพี่อย่างเซนน่าเสียอีก

ห้องโดยสารดีไซน์เรียบ เบาะนั่งต่ำติดพื้น

การออกแบบห้องโดยสารภายในเน้นให้เหมาะสมกับการขับขี่ ด้วยเบาะที่นั่งแบบเตี้ยติดพื้นดิน เน้นการตกแต่งที่เรียบง่าย เน้นหน้าจอแบบดิจิตอลเพื่อแสดงถึงความล้ำสมัย จออินโฟเทนเมนต์ขนาดใหญ่ตรงกลางรถ ออกแบบปุ่มเพื่อใช้งานต่าง ๆ ให้เรียบง่ายและใช้งานได้อย่างง่ายดาย ไม่ซับซ้อน เบาะที่นั่งแบบโอบกระชับรับน้ำหนักผู้โดยสาร

ลดจำนวนผลิตลง ทำให้หายากขึ้นกว่าเดิม

ในตอนที่เปิดตัวรถคันนี้อย่างเป็นทางการ แม็คลาเรนประกาศว่าจะมีการผลิตรถรุ่นนี้จำนวน 399 คันทั่วโลก ก่อนที่จะประกาศลดจำนวนการผลิตเหลือเพียง 249 คันเท่านั้น ทำให้รถยนต์รุ่นพิเศษที่มีราคาจำหน่าย 1.69 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 55.7 ล้านบาท) กลายเป็นรถยนต์รุ่นหายากสำหรับนักสะสมมากขึ้นไปในทันที

เจอภาษีไทยเข้าไปราคาเพิ่มทะลุ 200 ล้านบาท

แม็คลาเรน ประเทศไทย ยังไม่ได้ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับเอลว่า แต่คาดการณ์กันว่าราคาจำหน่ายเบื้องต้นจะเริ่มต้นที่ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท เป็นผลจากภาษีนำเข้ารถยนต์สมรรถนะสูงที่้ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในในประเทศไทยยังสูงอยู่ แต่ก็คิดว่าจะมีโควต้ามาไม่มากนัก หากเศรษฐีคนใดสนใจคงต้องรีบตัดสินใจหน่อย