Honda Prelude มือสองเจ้าของฉายาล้อหลังเลี้ยวได้ หาง่ายไม่เกิน 200,000 อะไหล่เริ่มหายากแต่ทำไมน่าใช้

ถ้าหากจะพูดถึงรถสปอร์ตขนาดกลางที่มีราคาไม่แรงในปัจจุบันอาจจะเริ่มหาได้ยากแล้ว และคงต้องไปมองเป็นรถยนต์มือสองแทน

รถที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทยในช่วงปี 90 คงจะหนีไม่พ้นไปจาก Honda Prelude (ฮอนด้า พรีลูด) ในเจนเนอเรชั่นที่ 4

ด้วยรูปทรงที่ยังคงมีมนต์เสน่ห์ทำให้ในปัจจุบัน Honda Prelude ยังคงความนิยมในตลาดรถมือสองอยู่ เรามาดูว่าคันนี้ มีดีตรงไหน ในราคาไม่เกิน 200,000 บาท

รูปทรงเด่น

Honda Prelude เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991 ที่ญี่ปุ่น รุ่นที่ขายไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นที่แล้วเป็นอย่างมาก ด้วยรูปทรงภายนอกที่แปลกและล้ำสมัย ใช้โคมไฟยาวในแนวนอน ส่วนด้านท้ายมีการปรับใหม่หมด เพิ่มสปอยเลอร์ท้ายเข้ามาเสริมในรุ่นท๊อป

สำหรับการออกแบบทางวิศวกรรม มีความที่โดดเด่นที่มี การกระจายน้ำหนักให้มีความสมดุลทั้งหน้า (58%) และหลัง (42%), Traction Control และการติดตั้งซันรูฟที่เปิดได้มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกคัน และมีซันรูฟแก้วเป็นออพชั่น ถือว่าค่อนข้างหรูหราในสมัยก่อน

ภายในแตกต่าง

การตกแต่งภายใน จะฉีกจากรถรุ่นอื่น ๆ ในอดีต รวมถึงรถในสมัยเดียวกัน ด้วยคอนโซลยาวซ่อนแผงหน้าปัดเอาไว้ การแสดงผลจะเป็นแบบดิจิตอลทั้งหมด คืออุณหภูมิความร้อนเครื่องยนต์ และปริมาณน้ำมัน แต่ยังใช้เข็มแสดงข้อมูลความเร็ว และรอบเครื่องยนต์เป็นแบบอนาล็อก

และยังมีออพชั่นเพิ่มความสุนทรีย์เช่น ระบบเสียงรอบทิศทาง (DSP) ติดตั้งจากโรงงานในรุ่นท๊อป, จอทีวี, เครื่องฟอกอากาศ และแอร์ดิจิตอล ซึ่งในไทยถ้าเจอก็ควรรีบเก็บไว้ เบาะนั่งจะเป็นสไตล์กึ่ง Bucket Seat แต่มีความสบายตามสไตล์รถญี่ปุ่น

ระบบ 4WS

หนึ่งในระบบที่เป็นจุดเด่นของตัวรถคือระบบ 4WS ใน Honda Prelude ที่ล้อหลังจะเลี้ยวสวนทางกับล้อหน้าในความเร็วต่ำ ช่วยในเรื่องของการกลับรถจะมีระยะสั้นกว่าเดิม

ในความเร็วสูง ล้อหลังจะเลี้ยวไปในทางเดียวกันกับล้อหน้า ช่วยในการเข้าโค้งและเปลี่ยนเลนได้ไวขึ้น

ข้อดีของตัวรถ

แม้ว่าจะเป็นรถที่มีอายุเกือบ 30 ปีแล้ว แต่รูปทรงยังดูล้ำสมัย ไม่เก่า แต่หากจะหาทรงเดิม ๆ นั้นอาจจะยากเล็กน้อย เพราะส่วนมากคนมักจะนิยมเอามาแต่งกัน และจะมีราคาแพงขึ้น

อะไหล่ภายในยังพอหาได้ เพราะมีกลุ่มคนที่เล่นกันอยู่ เครื่องหรือเกียร์สามารถหาได้ตามเซียงกงทั่วไป

ด้วยความที่เป็นรถญี่ปุ่น จึงมีข้อดีที่ค่าบำรุงรักษาถูก ไม่ค่อยมีอาการจุกจิก สามารถเป็นรถที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน

ข้อเสียของตัวรถ

ถึงจะใช้อะไหล่ร่วมกับ Honda (ฮอนด้า) รุ่นอื่น ๆ ได้บ้าง แต่อะไหล่บางชนิดที่มีเฉพาะรุ่นเริ่มหาได้ยากบ้างแล้ว อย่างเช่นตัวกระจกรอบคัน ที่มีเสียงจากผู้ใช้งานจริงที่เคยทำแตกมาแล้วต้องรออะไหล่นาน รวมถึงไฟหน้าที่เบิกไม่ได้แล้ว

ด้วยความที่เป็นรถสปอร์ตทรงสั้น กระจกด้านหลังจึงลาดลง อาจบดบังทัศนวิสัยได้เล็กน้อยหากมีคนมานั่ง และตัวกระจกนี้เอง จะทำให้คนนั่งหลังร้อนได้หากนั่งเป็นเวลานาน อีกทั้งยังค่อนข้างแคบ ไม่เหมาะกับคนตัวสูงหรือตัวใหญ่

จุดหลัก ๆ ที่ควรดูคือระบบ 4WS นี้เอง หากเสียจะมีอาการล้อล็อคขณะขับ หรือทำให้เลี้ยวไม่ไปได้หากในขณะนั้นล้อไม่ได้ตั้งตรง ทำให้รถเอียงหรือเฉไปมา เนื่องจากระบบมีทั้งกลไกและไฟฟ้า เซนเซอร์ตรวจจับ แต่ก็สามารถถอดปลั๊กออกก่อนได้แล้วค่อยนำไปตรวจเช็ค

สำหรับบางคันอาจเจอปัญหาสนิมกินเนื่องจากมีโครงสร้างเป็นเหล็ก เป็นเรื่องปกติของรถเก่า แต่ก็สามารถแก้ไขได้

อยากแรงสุดต้อง VTEC

เครื่องยนต์ถือว่าไม่น้อยหน้ารถสปอร์ตในยุคนั้น มีทั้งเครื่อง 2.2 ลิตร F22A1 ให้กำลังสูงสุด 135 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 193 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที

และรุ่นเครื่องยนต์ วีเทค H22A1 190 แรงม้าที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสูด 217 นิวตันเมตรที่ 5,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ระบบกันสะเทือนอิสระทั้ง 4 ล้อ ล้อหน้า-หลังจะติดตั้งปีกนก 2 ชั้น โช๊คอัพแบบคอยล์สปริงท์พร้อมเหล็กกันโคลง และล้ออัลลอย 15 นิ้ว ทำให้ประสิทธิภาพการเกาะถนนไม่แพ้รถยุโรปเท่าใดนัก ระบบเบรกที่ใช้แบบ 2 วงจรอิสระพร้อมหม้อลมเบรก และวาล์วปรับแรงดันเบรก ดิสก์เบรกหน้า-หลัง

สำหรับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ด้วยความที่เป็นรถค่อข้างสปอร์ต ไม่ใช่ซิตี้คาร์จึงอาจเห็นอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 8-9 กม./ลิตร แต่ก็สามารถเอาไปจูนกล่องหรือรีแฟลชเพื่อเติม e85 ได้

Honda Prelude มือสองถือว่ายังเป็นรถที่น่าใช้ในราคาไม่แพง เป็นเจ้าของได้ในราคาแสนปลาย ๆ ไม่เกิน 200,000 บาท ไปจนถึง 4-5 แสนหากมีสภาพสวย สามารถใช้งานได้ทุกวันหากไม่ได้ใช้เป็นรถหลักของบ้านด้วยความแคบ

โดยเราแนะนำให้หาคันที่เก็บงานมาแล้ว สภาพดี ไม่เคยเฉี่ยวชน จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลเก็บงานที่หลังกัน หรือใครมีงบจัด Honda Civic Coupe ก็เป็นทางเลือกที่ดีนะ