รถยนต์ไฟฟ้า หลายคนสนใจเป็นเจ้าของ แต่ราคาสูงเกินเอื้อม รถเก่าตัวเองก็ยังใช้ดีอยู่ เลยมีแต่คนสนใจ ไม่มีคนยอมซื้อใหม่ ดังนั้นจึงมีนวัตกรรมที่มาแทรกกลาง ระหว่างความใหม่เก่า โดย กฟผ. ร่วมกับ สวทช. ได้นำรถยนต์เก่าใช้แล้วมาดัดแปลงด้วยชุด EV Kit เป็นรถยนต์ไฟฟ้า เริ่มทำจริงแล้วในรถ Nissan Almera ซึ่งเราได้มาทดลองขับจริงในวันนี้
ตัวรถ Nissan Almera รหัสตัวถัง N17 โฉมไมเนอร์เชนจ์ ไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุด สาเหตุที่เลือกรุ่นนี้ คาดว่าเพราะเป็นรถอีโค่คาร์น้ำหนักเบาเพียง 1 ตันเท่านั้น แถมมีมิติตัวถังกว้างขวาง จึงเหมาะที่จะนำมาทดลองใส่มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอร์รี่ โดยจากเดิมใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรทำกำลังได้ 78 แรงม้า พอมาใส่มอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ มีกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 82 แรงม้า แม้น้ำหนักรถที่ดัดแปลงแล้วไม่ได้บอกสเปคมา แต่คาดว่าน่าจะหนักกว่าเครื่องยนต์เดิมพอสมควร
การลองครั้งนี้ มีตั้งแต่การทำสลาลอมแบบวงเลี้ยวแคบจัด และต้องตีวงกว้างสุดๆ เพื่อให้ลองสาวพวงมาลัยไปทั้งซ้ายและขวาอย่างว่องไวด้วยความไม่เกิน 30 กม./ชม. ทำเอามือหมุนเป็นระวิงเพื่อบังคับรถให้ไปตามกรวยอย่างราบรื่น ซึ่งการทำแบบนี้ ถ้าไม่ได้พวงมาลัยควงง่ายสบายแรงแบบรถคันนี้ ก็คงจะหมุนยาก และพารถไปกินกรวยเป็นแน่ โดยฟิลลิ่งการหมุนพวงมาลัย ไม่ต่างจากอัลเมร่าปกติที่คุ้นเคยมาก่อน
ในช่วงทางตรงก็ขอลองอัตราเร่ง โดยออกตัวจากหยุดนิ่ง กระทืบคันเร่งเข้าไป ระบบป้องกันออกตัวล้อฟรีก็ทำงาน โดยจะมีเสียงกึกๆออกมาให้ได้ยิน เป็นการป้องกันรถออกตัวกระชาก โดยอัตราเร่งมาเรื่อยๆชิวๆ ไม่ต่างจากอีโค่คาร์ทั่วไป ซึ่งไม่ได้เน้นความแรง อย่าคิดไปแซงรถคันอื่น ดังนั้นอย่าคาดหวังว่าเมื่อเป็นพลังไฟฟ้าแล้วจะต้องแรงเสมอไป
เมื่อทดสอบเบรคแล้วก็พบว่ายังมีการชาร์จกลับ โดยใช้แป้นเบรคแบบปกติ แยกออกจากแป้นคันเร่งเหมือนรถทั่วไป การเบรคก็ไม่ต่างจากมาตรฐาน ABS ของนิสสันเดิม เมื่อเสร็จสิ้นการทดลองขับในระยะทางประมาณ 2 กม. ที่มีการเปิดแอร์เย็นฉ่ำตลอดทาง และใช้งานมอเตอร์เร่งเต็มที่ พบว่าแบตเตอร์รี่ลดลง 1% เท่านั้น
มีการโปรโมทว่าค่าใช้จ่ายในการดัดแปลงประมาณ 200,000 บาท โดยหลายคนลืมอ่านไปว่าราคาไม่รวมแบตเตอรี่ ทำให้ราคาแท้จริงเมื่อรวมแบตเตอร์รี่แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 250,000-280,000 บาทแล้วแต่ขนาดแบตตามใจลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็คงจะเลือกแบตขนาดใหญ่สุด เพื่อจะไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ ทำให้งบประมาณรวมแล้วจบที่เกือบ 3 แสนบาทเลยทีเดียว
เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าตอนนี้ พัฒนาจาก 10 ปีก่อนจนสามารถผลิตได้คุณภาพทนทาน ในราคาจับต้องได้ง่ายมากขึ้นแล้ว ทำให้คนฐานะปานกลางก็สามารถนำรถที่มีอยู่ เข้าไปอู่เพื่อดัดแปลงออกมาได้ ซึ่งขณะนี้มีบางอู่ที่ได้รับความรู้ในการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้าไปบ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ยังมีระยะทางใช้งานไม่มากนัก ซึ่งเป็นข้อเสียหลักเพียงอย่างเดียว จึงเหมาะแก่การใช้งานในเมือง ขับไปทำงานแล้วกลับมาจอดชาร์จที่บ้านเท่านั้น อย่าหาทางขับไปไหนใกลๆ เอาไว้เป็นรถคันที่ 2 ของบ้าน เป็นของเล่นสำหรับคนฐานะปานกลางพอได้อยู่ครับ แต่ถ้าใครมีเงินน้อย ต้องใช้เป็นรถคันแรก ไม่ต้องใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพราะเดี๋ยวนี้มี รถป้ายแดงราคาเริ่มต้น 3 แสนกว่า ให้เลือกเยอะแยะ
รถยนต์ไฟฟ้า Nissan Almera ดัดแปลงคันนี้ ถือว่าเป็นรอยต่อระหว่างเทคโนโลยีเก่าใหม่อย่างลงตัว ทำให้คนขับรถเครื่องยนต์ สามารถก้าวข้ามมาขับคันนี้ได้โดยไม่ต้องปรับตัวอะไร มีเพียงจุดที่อยากให้ปรับปรุงคือช่วงล่างด้านหลังที่ยุบเยอะไปหน่อย เนื่องจากน้ำหนักแบตเตอร์รี่ หากมีคนนั่งเต็มคันรถ อาจจะทำให้ล้อยางหนุมขึ้นไปเสียดสีกับซุ้มล้อด้านในได้ ในช่วงซับแรงกระแทกเนินต่างๆ หากแก้ปัญหาได้ก็จะทำให้ใช้งานได้เหมือนรถทั่วไปได้เลย
สเปค Nissan Almera EV conversion | |
กำลัง | 82 แรงม้า |
ความเร็วสูงสุด | 160 กม./ชม. |
เวลาชาร์จ | 12 ชม.(ธรรมดา) 3 ชม.(ด่วน) |
ระยะทางที่วิ่งได้ | 150-200 กม. |
ราคาค่าแปลง | 250,000-280,000 บาท |
ใครสนใจลองไปขับรถจริง ก็เชิญที่ งาน EV Asia 2020 เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2563 ณ ไบเทค บางนา เวลา 10.00-18.00 น. เข้าชมฟรี
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}