หัวเรือ Mercedes-Benz ยืนยันรถยนต์ไฟฟ้ายังมีต้นทุนสูงอีกนาน

ซีอีโอ Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) เผยต้นทุนการพัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะยังสูงกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปต่อไปอีกนาน

โอลา คัลเลนเนียส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Mercedes-Benz เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุด และแผนการเปิดตัว CLA รถคอมแพ็กต์ซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่ในปีหน้าซึ่งจะมีระยะทางเพิ่มขึ้น 30 – 35%

“ต้นทุนแปรผันของการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มสูงขึ้น และจะเป็นเช่นนั้นต่อไปในอนาคตอีกหลายปี” คัลเลนเนียส กล่าวเพิ่มเติม พร้อมกับชี้ว่าบริษัทรถยนต์ไม่สามารถโยนต้นทุนดังกล่าวให้ลูกค้าแบกรับฝ่ายเดียวได้

ต้นทุนแปรผันของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่อยู่ที่ต้นทุนการจัดหาวัตถุดิบสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ การพัฒนาซอฟต์แวร์ และค่าไฟฟ้า

คัลเลนเนียสเปิดเผยว่าต้นทุนแปรผันที่สูงทำให้ Mercedes-Benz พยายามทำงานหนักเพื่อลดต้นทุนคงที่ และจัดสรรทรัพยากรเพื่อให้สามารถสร้างผลกำไรในการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าได้เท่าเทียมกับรถเครื่องยนต์สันดาป

เผยสเปกรถยนต์ใหม่

Mercedes-Benz CLA รุ่นใหม่คาดว่าจะใช้พลังงาน 12 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กม. และมีระยะทางขับขี่ 750 กม.ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ซึ่งดีกว่า EQA 350 ซึ่งใช้พลังงาน 17 – 18 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กม.

เมื่อถูกถามว่า CLA ใหม่มีต้นทุนลดลงหรือไม่เมื่อเทียบกับเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า มาร์คัส แชเฟอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Mercedes-Benz แย้มว่ากำลังบรรลุเป้าหมายการลดต้นทุนลงให้ถึงระดับ 50%

แบตเตอรี่ที่จะใช้ใน CLA จะผลิตโดยบริษัท CATL ยักษ์ใหญ่จากจีน และบริษัท ACC ซึ่งค่ายรถยักษ์เยอรมันถือครองหุ้นราว 1 ใน 3

แชเฟอร์ เผยว่า CLA เป็นตัวอย่างสำคัญของการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ผ่านกระบวนการลดความซับซ้อนในการพัฒนา โดยจะเปิดตัวในปีหน้า และออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2025

Mercedes-Benz CLA จะมีทั้งเวอร์ชั่นไฮบริดและพลังงานไฟฟ้า 100% แต่ไม่มีแผนการทำตลาดรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล