ในโอกาสฉลองครบรอบ 110 ปีของผู้ผลิตแดนน้ำหอม Bugatti (บูกัตติ) พวกเขาได้ทำการประกาศเปิดตัว Bugatti Centodieci ไฮเปอร์คาร์รุ่นล่าสุดตั้งแต่ปี 2019 แต่เป็นเพียงการรับจองเท่านั้น
และหลังจากทำการทดสอบต่าง ๆ มากว่า 50,000 กิโลเมตร รถรุ่นนี้ก็กำลังจะได้เข้าสายพานการผลิตแล้ว
Bugatti กล่าวว่ารถคันนี้นั้นได้ถูกขับวันละ 1,200 กิโลเมตร เพื่อให้ทีมช่างสามารถเก็บข้อมูลการขับขี่ทั้งบนสนาม, ทางด่วน และบนถนนที่รถติด รวมถึงในสนามทดสอบ Nardò ประเทศอิตาลี่
ในการทดสอบตัวรถจะถูกขับโดยนักขับ 3 คนแบบทั้งวันทั้งคืนเป็นการวนกัน ซึ่งแต่ละคนจะต้องหา "เสียงผิดปกติ การเคลื่อนไหว และความผิดปกติอื่น ๆ" ทั้งในอากาศที่เปียกและแห้ง
"Centodieci นั้นถูกขับจนถึงขีดจำกัดเพื่อการันตีว่าการขับขี่นั้นจะไว้ใจได้ในระดับสูงสุด, แม้แต่ในสถานการณ์สุดโหด แมม้ว่าส่วนมากเมื่อรถถูกซื้อไปแล้วมันจะไม่ได้ถูกขับถึงขนาดนี้ เราก็ต้องทำอยู่ดี" Carl Heilenkötter ผู้จัดการโปรเจคนี้กล่าว
อ่านเพิ่มเติม ดูค่าบำรุง Bugatti Chiron ต้องมีเงินแค่ไหน?
การทดสอบอื่น ๆ ยังรวมถึงสภาพอากาศ ที่มีการทำให้รถมีอุณหภูมิภายในสูงขึ้นไปถึง 50 เซลเซียส และให้วิศวกรทัั้ง 27 คนคอยตรวจสอบระบบไฟฟ้า, หน้าปัด, คลื่นวิทยุ, ระบบจ่ายน้ำมัน และแอร์
หรือการจอดไว้กลางแดดและเปิดแอร์แบบแรงสุด, ขับด้วยความเร็ว 318 กม./ชม.บนถนนปิด, การขับขี่แบบรถติดธรรมดา
มีการทดสอบใน California, สหรัฐ ขับไปทาง Central Pacific Highway เพื่อไป Arizona ผ่านทาง San Diego ก่อนจะมีการขับเขา Lemmon เพื่อทดสอบรถบนความสูง 2,800 เมตร
มี 10 คันเท่านั้น
ตัวรถ Bugatti Centodieci จะถูกผลิตมาเพียง 10 คันเท่านั้น โดยใช้เครื่องยนต์เดียวกันกับ Bugatti Chiron คือเครื่อง 8.0 ลิตร W16 เทอร์โบ 4 ลูก ให้กำลังถึง 1,578 แรงม้า แรงกว่าชิรอนเดิมถึง 97 แรงม้า
ระบบขับเคลื่อน All-Wheel Drive จับคู่กับเกียร์ 7 สปีด DSG สามารถเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 2.4 วินาที แต่ถูกจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 379 กม./ชม. ในขณะที่ชิรอนสามารถทำได้ 420 กม./ชม.
นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาลงกว่าเดิม 20 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับ Chiron ปกติ และเบากว่า 2 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับ Chiron Sport ผลจากการเปลี่ยนชิ้นส่วนหลายอย่าง และชุดตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์แบบใหม่เข้าไป
ขายหมดแล้วนะ
ตัวรถถูกผลิดด้วยมือ ที่โรงงานในเมืองมอลไซม์ ประเทศฝรั่งเศส และแมม้มันจะจำกัดเพียง 10 คัน ก็ถูกขายหมดเรียบร้อยแล้ว
ด้วยราคากว่า 9,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 274 ล้านบาท ไม่รวมภาษี ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นสุดพิเศษที่เชื่อว่าเก็บไว้ระยะเวลานาน มูลค่าของมันจะสูงขึ้นเท่าตัวแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม มาดู Bugatti Chiron คันนี้ไปซื้อฟาสต์ฟู้ดว่ายากแค่ไหน