ปัจจัยลบมากมายไม่ว่าจะเป็นภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ต้นทุนด้านพลังงาน รวมถึงการขาดแคลนชิ้นส่วนต่าง ๆ ทำให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์ขยายตัวไม่หยุดยั้ง
AlixPartners บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงิน เปิดเผยผลการศึกษาล่าสุดในหัวข้อต้นทุนการผลิตรถยนต์ฟ้า พบว่าพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องและทิ้งห่างเครื่องยนต์สันดาปภายในไปหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
ผลการศึกษาระบุว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ค่าเฉลี่ยต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 5,076 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 181,000 บาท เพิ่มขึ้นเกือบ 75% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 2020
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ขณะเดียวกัน ต้นทุนการผลิตเครื่องยนต์สันดาป รวมถึงขุมพลังไฮบริดก็เพิ่มขึ้นเช่นกันแต่ไม่เร็วเท่ารถอีวี โดยอยู่ที่ 1,851 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 66,000 บาท
ดาริโอ ดูส ประธานกรรมการ AlixPartners ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศอิตาลีเปิดเผยว่า ผลการศึกษาชิ้นนี้ไม่ได้ครอบคลุมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด แต่มีแนวโน้มว่าจะมีต้นทุนสูงลิบลิ่วเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้า
ตัวเลขต้นทุนดังกล่าวคือการผลิตวัตถุดิบที่ใช้ในรถยนต์ประเภทต่าง ๆ ของทั้งบริษัทรถยนต์และซัพพลายเออร์ผู้ผลิตชิ้นส่วน แต่ไม่รวมต้นทุนด้านการผลิตซึ่งคาดการณ์ว่าอยู่ที่ 3,100 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 111,000 บาทสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งสูงเพราะราคาวัตถุดิบหายากที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่ที่ปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลิเธียม โคบอลต์ แมงกานีส และนิกเกิล ดีมานด์ความต้องการใช้งานที่มากได้ถีบราคาให้สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ส่วนราคาพลังงานและต้นทุนด้านกระบวนการผลิตก็เป็นปัจจัยหลักด้วยเช่นกัน
ซีอีโอ Volvo อาจคาดการณ์ผิด?
ก่อนหน้านี้ จิม โลแวน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Volvo Cars ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาเทียบเท่ากับรถเครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2025
“เราคิดว่าเราจะมี (ความเท่ากันของราคา) ในช่วงปี 2025 ในตอนที่เทคโนโลยีนั้นเพียงพอที่จะทำให้ต้นทุนแบตเตอรี่ถูกลง” โลแวน กล่าวเพิ่มเติม “เทคโนโลยีจะทำให้ระยะทางขับขี่ไปได้ไกลขึ้น ใช้แบตเตอรี่น้อยลง และจะใช้ต้นทุนที่ถูกกว่า–เราจะไปถึงจุดนั้น”
ดูแล้วการประเมินของโลแวนอาจคาดเคลื่อนเสียแล้ว หรือไม่เราก็ต้องรอนานกว่า 2025 ถึงจะได้เห็นราคารถอีวีที่ขยับลงมาใกล้เคียงรถเครื่องยนต์ดั้งเดิมได้
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });