Ferrari (เฟอร์รารี่) ร่อนแถลงการณ์ระบุข้อเท็จจริงกรณีข่าวลือการ “แบน” จัสติน บีเบอร์ และเหล่าเซเลบริตี้อีกหลายคนที่ห้ามซื้อรถของบริษัท

โดยทั่วไปแล้ว แบรนด์ระดับโลกส่วนใหญ่ชื่นชอบที่มีลูกค้าคนดังหันมาใช้สินค้าของตนเอง เพราะถือเป็นการโปรโมทและเพิ่มการรับรู้ในกลุ่มผู้บริโภค ช่วยยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์และนำมาซึ่งยอดขายที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

แต่ไม่ใช่กับ Ferrari ที่มีนโยบายพิเศษในการรักษาภาพลักษณ์แบรนด์จนทำให้เกิดข่าวลือมากมายว่าพวกเขาขึ้นแบล็กลิสต์เซเลบหลายคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

ไขข้อข้องใจด้วยข้อเท็จจริง

ล่าสุด แบรนด์ซูเปอร์คาร์ตราม้าลำพองได้เปิดเผยข้อเท็จจริงผ่านสื่อยักษ์ใหญ่ของสเปนอย่าง Marca ไขข้อข้องใจว่าการแบนคนดังอย่างจัสติน บีเบอร์หรือคิม คาร์ดาเชียนที่ถูกพูดถึงอย่างหนาหูในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเป็นความตริงหรือไม่

ข่าวลือที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ Ferrari มีนโยบาย “ที่ไม่ได้เป็นลายลักษณ์อักษร” ในการครอบครองรถของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการห้ามโมดิฟายด์ตัวรถ การห้ามถ่ายรูปกับรถคู่แข่งอย่าง Lamborghini หรือการห้ามขายต่อรถถ้ายังครอบครองไม่ถึง 1 ปี

Marca รายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของ Ferrari ว่า แท้จริงแล้ว ค่ายรถซูเปอร์คาร์จากอิตาลีไม่ได้แบล็กลิสต์เหล่าคนดังโดยตรง เพราะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะห้ามเซเลบกระเป๋าหนักในการซื้อรถของพวกเขา เพราะมีหลากหลายช่องทางในการเข้าถึงและครอบครอง

แต่ Ferrari สามารถ “จำกัด” การซื้อรถลิมิเต็ดเอดิชั่นได้ รถซูเปอร์คาร์รุ่นพิเศษหรือรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัดมากอย่าง La Ferrari หรือ Enzo นั้นจะไม่ตกถึงมือกลุ่มลูกค้าบางคนที่เคยมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม แต่จะกลายเป็นสมบัติของมหาเศรษฐีที่ดูแลรถของพวกเขาเป็นอย่างดี

Ferrari ยังไม่ความสำคัญกับการให้ความเห็นถึงผลิตภัณฑ์ของพวกเขา หากมหาเศรษฐีคนใดวิจารณ์รถของพวกเขาเสีย ๆ หาย ๆ ก็จะห้ามซื้อรถต่อไปในอนาคตด้วยเช่นกัน

“Ferrari ขอสงวนสิทธิในการตัดสินใจขายรถรุ่นพิเศษหรือลิมิเต็ดเอดิชั่น” Ferrari ระบุในแถลงการณ์ที่ Marca รายงาน

นั่นหมายความว่า จัสติน บีเบอร์, คิม คาร์ดาเชียน, 50 เซนต์ และฟลอยด์ เมเวเธอร์ที่ตกเป็นข่าวถูกแบนนั้นสามารถซื้อซูเปอร์คาร์  Ferrari รุ่นปกติได้สบาย แต่มิอาจเป็นเจ้าของรุ่นพิเศษได้ ซึ่งหากต้องการครอบครองมือสองก็มิอาจทำได้เช่นกันเพราะคงไม่มีเศรษฐีคนใดขายให้เนื่องจากสุ่มเสี่ยงที่จะเสียสิทธิซื้อรุ่นใหม่ในอนาคต