Ford Motor Company (ฟอร์ด) ในสหรัฐนั้นกำลังเจอกับปัญหา ที่จริง ๆ แล้วฟังเหมือนจะดูดี เพราะยอดจอง Ford Bronco นั้นยังได้รับความสนใจอยู่เรื่อยมา
แต่ก็ต้องเจอกับการผลิตที่ล่าช้าจนไม่สามารถส่งมอบได้ทัน จึงจะแก้ทางด้วยการบังคับให้ "ลูกค้าที่สั่งจอง Bronco จำนวนหนึ่ง" เลือกแพคเกจใหม่ที่ไม่ใช่ของเดิม พร้อมเงินอีก 82,000 บาท
เพื่อให้สามารถทำตามคำสั่งซื้อของลูกค้าที่มีอยู่สำหรับ Ford Bronco รุ่นปี 2023 ได้ ทางค่ายได้แจ้งกับทางดีลเลอร์เพื่อ "สนับสนุน" ลูกค้าที่สั่งซื้อแพคเกจที่มียอดจองเยอะ ให้เปลี่ยนเป็นแบบอื่นแทน
ซึ่งผู้ที่ยอมรับข้อเสนอนี้นอกจากจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นในการรับรถภายในปีนี้ แต่ยังได้รับเครดิตจำนวน 2,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 82,000 บาท เพื่อเอาไปเป็นส่วนลดในการซื้อได้
ตามข้อมูลของ Bronco Nation ลูกคาสามารถใช้เครดิตเหล่านี้ได้หากพวกเขามีออเดอร์สั่งจอง Bronco อยู่แล้ว และตกลงที่จะเปลี่ยนแพคเกจตามนี้
- ลูกค้ารุ่น Wildtrak 4 ประตูเปลี่ยนเป็น Big Bend, Outer Banks, หรือ Badlands แบบไม่มีหลังคาแข็ง MIC
- ลูกค้ารุ่น Wildtrak 2 หรือ 4 ประตูเปลี่ยนเป็น Sasquatch หรือ Lux
- ลูกค้ารุ่น 4 ประตู นำออพชั่นหลังคาแข็ง MIC รวมถึงแพค Sasquatch และ Lux
ส่วนลูกค้ารุ่น 4 ประตูจะไม่สามารถเปบี่ยนเป็นรุ่น 2 ประตูได้ ส่วนแพคพิเศษอื่น ๆ เช่น Heritage, Heritage Limited, Everglades และ Raptor จะไม่สามารถรับข้อเสนอนี้ได้
หรือให้กล่าวง่าย ๆ ก็คือเป็นการยกเลิกรุ่นท็อปของ Bronco เพื่อให้ได้รุ่นรองกว่าแทน
ตามข้อมูลของ Ford เป้าหมายนี้ทำออกมาเพื่อส่งมอบคำสั่งจองรุ่นปี 2023 ออกให้หมดโดยยังคงได้ราคาแนะนำอยู่ ผู้ซื้อที่ไม่ต้องการเปลี่ยนออเดอร์จะสามารถยกเลิกได้ แต่ก็ต้องรับได้กับการเสียราคาแนะนำช่วงเปิดตัวไป หรืออาจจะเสี่ยงกับการไม่ได้รถเลย
สำหรับลูกค้าคนอื่น ๆ ที่ยกเลิกจะได้รับเงินมัดจำคืนเต็มจำนวน และการสุ่มรับเครดิต 2,500 ดอลลาร์เพื่อให้ได้รถที่มีอยู่ในสต็อค หรือลูกค้าจะเปลี่ยนเป็นรถรุ่นอื่นอีก 7 รุ่นก็ได้ และยังจะได้ส่วนลดอยู่คือ
- Escape
- Bronco Sport
- Edge
- Explorer
- Expedition
- Ranger
- F-150.
Ford กล่าวกับสำนักข่าว Car and Driver ว่าปัญหานี้มาจากชิ้นส่วนขาดแคลนที่ยังคงเป็นอยู่ ทำให้มีชิ้นส่วนไม่เพียงพอสำหรับการผลตบางออพชั่น เช่น หลังคา Molded in Color
ก่อนหน้านี้ก็มีการยกเลิกระบบการเชื่อมต่อบางอย่างไปบ้างแล้วเพราะเกิดปัญหาขาดแคลนชิพ ซึ่งทางค่ายก็ได้ปิดรับจองรถไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลังจากความต้องการรถเกินกว่าความสามารถในการผลิตได้ต่อปี
สรุปก็คือ ลูกค้าจะต้องเลือกระหว่างการลดออพชั่นลงมาพร้อมเงินส่วนลด หรือเปลี่ยนไปเป็นรถยนต์รุ่นอื่นที่มีพร้อมส่งมอบภายในปี 2023 หรือจะรอออเดอร์ของตัวเองต่อ แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจจะไม่ได้รถเลยก็ได้