EV ขายมา 10 ปีแล้ว แต่เพิ่งได้ครองตลาดรถยนต์ทั่วโลก 10% และหากแบ่งเป็นแต่ละภูมิภาคแล้วพบว่าจีนเติบได้ไวมาก
ครอง 10% ของตลาดรถยนต์ทั้งโลก
ข้อมูลขององค์กรวิจัยการขายรถยนต์ในต่างประเทศ LMC Automotive และเว็บไซต์ EV-Volumes ระบุว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2022 อยู่ที่ประมาณ 7.8 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบเป็นรายปี และเมื่อมองตลาดรถยนต์ภาพรวม จะมีส่วนแบ่งจะถึง 10% เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ EV
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ยอด EV ตามภูมิภาค
ตามข้อมูล หากจะดูย่อยตามแต่ละภูมิภาค จะพบว่าในตลาดจีน มีอัตราการเติบโตของส่วนแบ่งรถยนต์ไฟฟ้า แย่งตลาดรถยนต์สันดาปทั้งประเทศ มีสัดส่วนสูงขึ้น 19% และเมื่อดูในยุโรปพบว่ามีอัตราเติบโต 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน การศึกษาบางชิ้นยังชี้ให้เห็นว่าส่วนแบ่งตลาด EV ทั่วโลกจะสามารถเพิ่มเป็น 2 เท่าเป็น 20 % ภายในปี 2030
รถโดยสารจีนโตเยอะสุด
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ Passenger Federation ประเทศจีน จะขายส่งรถยนต์โดยสารพลังไฟฟ้าล้วนจำนวน 6.498 ล้านคันในปี 2022 เพิ่มขึ้น 96.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี และอัตราการครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 27.6% ซึ่งสูงกว่ามาก ข้อมูลที่กล่าวถึงข้างต้น นอกจากนี้ Passenger Association ยังคาดการณ์ว่ายอดขายรถโดยสารไฟฟ้านี้ จะสูงถึง 8.5 ล้านคันในปี 2023 และจะมีอัตราการครองส่วนแบ่งการตลาดจะสูงถึง 36% ซึ่งเป็นผลมาจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น
เพิ่งเริ่มมา 10 ปี
รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่งเริ่มขายอย่างจริงจังในปี 2012 โดยการบุกเบิกของ Tesla Model S นับจากนั้นเป็นต้นมา ค่ายรถยนต์ก็หันมาวิจัยและพัฒนาระบบไฟฟ้าใส่ในแบรนด์ตัวเองมากขึ้น โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เป็นการเปลี่ยนผ่านจากสันดาปเป็นไฟฟ้าด้วยระบบไฮบริดมาแล้ว แต่รถยนต์ไฟฟ้ายังมีราคาแพง
ยังเติบโตได้อีก
นักวิเคราะห์หลายสำนัก ทำนายการเติบโตไว้หลายแบบ โดยสำนัก CBInsights Auto and Mobility Trends ทำนายว่าในปี 2030 รถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถครองสัดส่วน 22% จากตลาดรถยนต์ทุกแบบ ส่วนทางด้านอีกสำนัก BloombergNEF ทำนายไว้สูงถึง 40% ในปี 2030 หรือนับเป็น 4 เท่าจากปัจจุบัน ภายในเวลาอีกแค่ 7 ปีข้างหน้า ต้องจับตามองว่าระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจะยั่งยืน หรือมีกระแสความต้องการจะลดลงหรือไม่ ต้องให้เวลาเป็นตัวตัดสิน
อ่านเพิ่มเติม : โตโยดะ นายใหญ่ Toyota เชื่อ ขายรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่พอ ต้องมีทางเลือกให้คนใช้สันดาปด้วย
คุณกัส ผู้จำชื่อรถได้หมดตั้งแต่เด็ก ขับรถเป็นตั้งแต่มัธยม ซ่อมรถใช้เองตอนปริญญาตรี สะสมรถคลาสสิคและรถหายาก ทำงานเรื่องรถมานาน 5 ปี ผ่านการอบรมขับขี่ปลอดภัยจาก Sach มีรถทดสอบผ่านมือมาตั้งแต่รถกระบะ รถเก๋ง จนถึงรถสปอร์ต งานอดิเรกก็แค่ซ่อมรถสะสมที่มีอยู่ ติดตามชีวิตคนบ้ารถได้ที่กลุ่ม
https://www.facebook.com/groups/97434297973776
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });