2023 Mazda CX-60 (2023 มาสด้า ซีเอ็กซ์-60) เผยโฉมอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อัดแน่นคุณสมบัติน่าสนใจมากมาย
CX-60 พัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่เอี่ยมที่ใช้ชื่อว่า Skyactiv Multi-Solution Scalable Architecture ไฮไลท์อยู่ที่รุ่นสูงสุดที่มาพร้อมหัวใจขับเคลื่อนไฮบริดเป็นครั้งแรก มีพละกำลังแรงที่สุดเท่าที่ Mazda เคยสร้างรถโปรดักชั่นมา ขณะเดียวกัน รุ่นอื่น ๆ ยังรองรับเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงทั้งเบนซินและดีเซลอีกด้วย
การใช้แพลตฟอร์มใหม่เป็นไปตามกลยุทธ์ของค่ายรถจากแดนอาทิตย์อุทัยที่ต้องการอัพเกรดภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความพรีเมียมมากขึ้น ผู้บริหารระดับสูงเคยให้สัมภาษณ์ว่าตลาดรถระดับบนยังมีโอกาสที่เปิดกว้าง พร้อมกับชี้ว่ามี Lexus แบรนด์เดียวที่เป็นคู่แข่งระดับโกลเบิลของพวกเขา
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
เครื่องยนต์ 6 สูบ มีทั้งเบนซินและดีเซล
หนึ่งในสิ่งที่แฟน ๆ Mazda จับตามองไม่ใช่แค่ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด แต่ยังรวมถึงเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง e-Skyactiv X บล็อกเบนซินที่การันตีว่าจะมอบ “อัตราเร่งที่นุ่มนวลและเสียงที่เร้าใจ”
Mazda ยืนยันว่าเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงมีขนาดใหญ่ขึ้นก็จริงแต่มีความประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์ 4 สูบ ด้วยเทคโนโลยีการเผาไหม้แบบลีน มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องติดตั้งระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน Mazda ยังนำเสนอเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง e-Skyactiv D ขนาด 3.3 ลิตร ซึ่งเป็นวิวัฒนาการจากบล็อก 2.2 ลิตร เพื่อ “เพิ่มอัตราเร่งในทุกรอบความเร็วและมีการเผาไหม้เชื้อเพลิงอย่างทรงประสิทธิภาพ”
ทีมวิศวกรได้สร้างห้องเผาไหม้รูปทรงวงรีคล้ายไข่เพื่อให้มีอากาศไหลเข้าได้มากขึ้น พร้อมกับแบ่งการผสมน้ำมันและอากาศออกเป็นสองส่วนภายในถังลูกสูบ การออกแบบดังกล่าวช่วยเพิ่มคุณภาพการเผาไหม้ ทำให้มีอัตราเร่งดีขึ้นและลดไอเสียไนโตรเจนออกไซด์
ถึงแม้เครื่องยนต์ดีเซลจะมีความจุถึง 3.3 ลิตร แต่ Mazda เคลมว่า ด้วยการออกแบบโครงสร้างที่เรียบง่ายทำให้มีน้ำหนักเบาเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเลยทีเดียว
สำหรับตัว e ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือการเซ็ทอัพระบบไมลด์ไฮบริด 48 โวลต์ ช่วยลดอัตราบริโภคน้ำมันและอัตราการปล่อยมลพิษ รวมถึงเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ในการออกตัว
เครื่องยนต์ 6 สูบเรียงทั้งเบนซินและดีเซลใช้ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดรุ่นใหม่ที่ไม่มีทอร์กคอนเวอร์เตอร์ แต่ใช้คลัตช์แบบมัลติเพลทที่มีการเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วมากกว่าและไหลลื่นยิ่งกว่า อีกทั้งยังมีขนาดกะทัดรัด นักออกแบบจึงลดขนาดอุโมงค์เกียร์ลงได้ นำมาซึ่งตำแหน่งการขับขี่ที่ดีกว่าเดิม
ทั้งนี้ Mazda จะเปิดตัวรถเอสยูวีตามมาอีกหลายรุ่น อย่าง CX-70 สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา และ CX-80 สำหรับยุโรปและญี่ปุ่น ส่วนคอรถยนต์ในเมืองไทยจะได้ใช้รุ่นไหนบ้างนั้น ต้องติดตามลุ้นกันต่อไป
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });