คณะกรรมการบริหารของ Renault และ Nissan (นิสสัน) ลงมติเห็นชอบการปฏิรูปสัดส่วนการถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกันในอนาคตอันใกล้
ภายใต้มติการตัดสินใจดังกล่าว ทั้งสองบริษัทจะถือหุ้นของแต่ละฝ่ายอยู่ที่ 15% โดยในปัจจุบัน Renault ถือหุ้น Nissan อยู่ถึง 43.4% แต่ในทางกลับกัน ค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่นถือหุ้นค่ายรถจากฝรั่งเศสอยู่ที่เพียง 15% เท่านั้น
สำนักข่าว Asahi รายงานว่าสัดส่วนการถือหุ้นที่เหลื่อมล้ำกันนั้นถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งในกลุ่มพันธมิตรดังกล่าว ซึ่งยังมีบริษัท Mitsubishi Motors Corporation อีกหนึ่งรายด้วย
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
“เราเฝ้ารอถึงช่วงเวลานี้ (การถือหุ้นที่เท่าเทียมกัน) มานานแล้ว” ฌอง โดมินิค เซนาร์ด ประธานกรรมการ Renault กล่าว
เดินหน้าสู่พลังงานไฟฟ้าเหมือนกัน
Nissan วางแผนทุ่มเงินลงทุนเพื่อถือหุ้นเป็นสัดส่วน 15% ใน Ampere ฝ่ายพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและซอฟต์แวร์ของ Renault ในยุโรป ขณะที่ Mitsubishi Motors ก็พิจารณาลงทุนถือหุ้นในหน่วยงานดังกล่าวเช่นกัน
การปฏิรูปความสัมพันธ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์สันดาปไปสู่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว ขณะที่หลายค่ายรถหันมาร่วมมือกันเพื่อลดต้นทุน
“การเป็นพันธมิตรของ Renault และ Nissan กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ ซึ่งจะมีการแบ่งปันเทคโนโลยีระหว่างกันมากขึ้น อย่างแพลตฟอร์มและชิ้นส่วนต่าง ๆ” เซนาร์ด กล่าวเพิ่มเติม
ขณะที่มาโกโตะ ยูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nissan กล่าวให้คำมั่นว่าจะมีการพลิกโฉมบริษัทฯ อย่างมากในอนาคตอันใกล้
“การปฏิรูปพันธมิตรครั้งนี้ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็น” ยูชิดะ เผย
สำนักข่าว Asahi ระบุว่าการจับมือเป็นพันธมิตรทำให้เกิดประโยชนน์มากมาย โดยเฉพาะการลดต้นทุนที่เกิดจากการแบ่งปันเทคโนโลยีและกระบวนการทำงานต่าง ๆ แต่จุดด้อยก็คือเมื่อจับมือกันแล้ว ยากที่จะแยกออกจากกันในภายหลังเมื่อการปฏิบัติงานเกือบทุกส่วนมีความแนบแน่นกันมากจนไม่สามารถทำได้แต่เพียงลำพังอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน ยังอาจทำให้เกิดความขัดแย้ง หากทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมากเกินไป ซึ่งนั่นหมายถึงวัฒนธรรมการทำงาน อาทิฝั่งยุโรปของ Renault และฝั่งเอเชียของ Nissan
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });