อินโดนีเซียอกหัก! Tesla ยกเลิกแผนตั้งโรงงาน เพราะเหตุนี้!?

Tesla (เทสล่า) ยกเลิกแผนการตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในอินโดนีเซีย หลังไม่สามารถเจรจาข้อตกลงกันได้สำเร็จลุล่วง 

อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะวัตถุดิบสำหรับผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้เพื่อนบ้านอาเซียนของเราเป็นหนึ่งในผู้ผลิตนิกเกิลรายใหญ่ที่สุดในโลก ดึงดูดบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ระดับท็อปอย่าง CATL จากจีนและ LG Chem จากเกาหลีใต้ให้มาตั้งโรงงานในประเทศ

โจโค วิโดโด ประธานาธิบดีของอินโดนีเซียเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ประเทศนี้มีทรัพยากรธรรมชาติมากมายนับไม่ถ้วน

“เรามีทรัพยากรมหาศาล ทั้งนิกเกิล โคบอลต์ และแร่วัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน รวมถึงแร่อื่น ๆ สำหรับการผลิตโครงสร้างตัวรถและระบบสายไฟด้วย” วิโดโด กล่าวในงานแถลงข่าวเปิดโรงงานผลิต Hyundai IONIQ 5 รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเกาหลีเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ รัฐบาลอินโดนีเซียยังเพิ่งยืนยันว่าได้รับจดหมายข้อเสนอการลงทุนจาก Tesla พร้อมกับระบุด้วยว่ายินดีที่จะได้ร่วมงานกับค่ายรถพลังงานไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกา

แต่ล่าสุด มีรายงานว่าการเจรจากับ Tesla ล้มเหลวเสียแล้ว เพราะเหตุใด?

เป้าหมายไม่ตรงกัน

รัฐบาลอินโดนีเซียและ Tesla ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับข่าวความล้มเหลวในการเจรจา แต่มีความเห็นจากผู้บริหารของบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งที่เปิดเผยถึงสาเหตุว่าทั้งสองฝ่ายมีความคิดขัดแย้งกันในด้านการลงทุน

นิคเก วิดยาวาติ ประธานกรรมการบริษัทน้ำมัน Pertamina เปิดเผยว่า Tesla ต้องการก่อสร้างโรงงานที่จะผลิตระบบกักเก็บพลังงานแบบเคลื่อนที่ได้อย่าง Energy Storage Systems (ESS) ที่รองรับการใช้งานในพื้นที่ห่างไกล โดยไม่ได้ต้องการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่หรือรถยนต์ไฟฟ้าแต่อย่างใด

แผนงานลงทุนของ Tesla ไม่ตรงกับเป้าประสงค์ของรัฐบาลแดนอิเหนาที่ต้องการให้มีการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์หรือแบตเตอรี่ พร้อมกับมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีในประเทศด้วย 

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า นอกเหนือจากโรงงานผลิตรถยนต์กิกะแฟคตอรี่ชานนครเซี่ยงไฮ้ของประเทศจีน และโรงงานแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดทำการที่ชานกรุงเบอร์ลินของเยอรมนี Tesla กำลังวางแผนก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในอินเดีย ไม่ใช่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่อย่างใด

มีรายงานด้วยว่าหลายรัฐในอินเดียพยายามยื่นข้อเสนอให้ Tesla ขนเงินดอลลาร์มาลงทุนในพื้นที่ของตนเอง เพราะไม่เพียงจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างเงินหมุนเวียนเท่านั้น แต่ยังจะสร้างการว่าจ้างงานได้อีกนับพันตำแหน่งเลยทีเดียว  

ทั้งนี้ อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารยังรักษาคำมั่นที่เคยให้ไว้ว่าจะเต้นโชว์ในพิธีเปิดสายการผลิตที่โรงงานในเยอรมนี โดยเมื่อ 2 ปีก่อน เขาก็เคยเต้นบนเวทีในงานแถลงข่าวเปิดโรงงานที่นครเซี่ยงไฮ้จนกลายเป็น "มีม" ถูกแชร์อย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์มาแล้ว