- ครั้งแรกที่ GM ถูกล้มแชมป์ครั้งแรกในรอบ 90 ปี
- เกิดจากการคาดแคลนชิปส์เซมิคอนดักเตอร์
- ราคารถยนต์โดยเฉลี่ยสูงขึ้นกว่า 15%
- โตโยต้าอาจครองที่หนึ่งได้ไม่นานนัก
นี่เป็นครั้งแรกที่ Toyota Motor Corp. กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดในสหรัฐฯ หลังจากที่ General Motors ครองตำแหน่งมาตลอด 90 ปี
เมื่อปีที่ผ่านมา (2021) Toyota (โตโยต้า) มียอดขายในสหรัฐฯ กว่า 2.3 ล้านคัน จึงสามารถครองตำแหน่งยอดขายสูงสุดในสหรัฐฯ ไปโดยปริยาย โดยยอดขายในปีที่ผ่านมานั้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า(2020) กว่า 10%
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
การเปลี่ยนแปลงอันเป็นที่จับตาของชาวโลกในครั้งนี้ เป็นผลกระทบจากการขาดแคลนอย่างต่อเนื่องของชิปส์เซมิคอนดักเตอร์ เนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาด
การขาดแคลนชิปส์เป็นเหตุ
จากข้อมูลของ General Motors ยอดขายในปี 2021 ลดลง 13% และลดลงกว่า 43% ในไตรมาสที่ 4 เนื่องด้วยการขาดแคลนชิปส์เซมิคอนดักเตอร์ ผู้ชนะอาจจะต้องเป็นผู้ที่ได้เปรียบทางด้านซัพพลายเชน ซึ่งอาจจะเป็นผู้ที่เจรจากับผู้ผลิตชิปส์ได้ดีที่สุดก็เป็นได้
ในสถานการณ์ขาดแคลนชิปส์ทำให้การแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นยากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐฯ
ขณะที่ยอดขายของ General Motors ลดลง แต่ยอดขายจากผู้ผลิตแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง Toyota, Honda และ Nissan มียอดขายเพิ่มขึ้น
ด้วยเหตุที่โตโยต้ามีสิทธิพิเศษของการเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก จึงสามารถสั่งชิปส์ที่หายากเก็บไว้ได้ และถึงแม้จะมีโรคระบาด แต่ก็ยังสามารถผลิตชิปส์ได้ต่อไปได้
ในขณะเดียวกัน GM ไม่ได้มีสิทธิพิเศษเดียวกันนี้ ทำให้การผลิตล่าช้าในช่วงไตรมาสที่ 3 จากการขาดแคลนซัพพลายการผลิตของชิปส์นั่นเอง
ราคารถยนต์โดยเฉลี่ยสูงขึ้นกว่า 15%
จากการรายงานของ National Review การขาดแคลนชิปส์นำไปสู่ปัญหาด้านซัพพลายเชน ส่งผลให้ราคาของรถยนต์โดยเฉลี่ยสูงขึ้นกว่า 15% (สูงขึ้นเฉลี่ย 45,872 ดอลล่าร์ต่อคันในหนึ่งปี)
ปัญหาดังกล่าวส่งผลต่อ GM อย่างมาก โดยจากข้อมูลของบริษัท พบว่าราคาเฉลี่ยของรถยนต์สูงขึ้นกว่า 50,000 ดอลล่าร์ต่อคันเลยทีเดียว
โตโยต้าอาจครองที่หนึ่งได้ไม่นานนัก
Jack Hollis รองประธานอาวุโสฝ่ายขายของโตโยต้าในสหรัฐฯ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า โตโยต้าอาจครองที่หนึ่งได้ไม่นานนัก และกล่าวเสริมว่ายอดขายของโตโยต้าที่มากกว่า GM จะไม่ยั่งยืนเลยหากไม่มีการวางแผนที่ละเอียดรอบคอบ
ทาง General Motors ก็เห็นด้วยกับทางโตโยต้าเช่นกัน และระบุว่ายอดขายจะเติบโตขึ้นในปี 2022 ส่วนด้านตัวเลขยอดขายจากผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ จะตามมาในภายหลัง
อ่านเพิ่มเติม : จะดีหรือ? เผยผู้บริหาร Toyota “ไม่ขัดข้อง” หากซัพพลายเออร์ส่งมอบชิ้นส่วนมีตำหนิ
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });