ผู้บริหาร Toyota ชี้มูลค่ารถยนต์ไฟฟ้ามือสอง “ตกต่ำดิ่งเหว”

ผู้บริหารระดับสูงของ Toyota (โตโยต้า) เผยมูลค่ารถยนต์ไฟฟ้านั้น “ลดน้อยถอยลง” อย่างหนักเมื่อเทียบกับรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน

ฌอน แฮนลีย์ รองประธานฝ่ายขายและการตลาดของ Toyota ประจำออสเตรเลีย กล่าวว่า องค์กรธุรกิจต่าง ๆ ไม่ปรารถนาที่จะนำรถยนต์ไฟฟ้าประจำอยู่ในฟลีต เนื่องจากอาจส่งผลต่อการขาดทุนและผลประกอบการ

นั่นทำให้ Toyota กำลังวางแผนพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีความทนทานมากขึ้นและใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งาน ทำให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น

มูลค่าลดลงเร็วมาก

แฮนลีย์ กล่าวว่า Toyota ให้ความสำคัญกับคุณภาพซึ่งจะส่งผลต่อการครอบครองและใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่สุดคือมูลค่าของตัวรถ

“เราต้องมุ่งเน้นที่คุณภาพซึ่งจะช่วยสร้างคุณสมบัติสำคัญของรถยนต์ นั่นคือมูลค่าขายต่อ ซึ่งรถอีวีนั้นลดลงเร็วมาก” แฮนลีย์ กล่าวเพิ่มเติม

ผู้บริหารของ Toyota จากแดนจิงโจ้อ้างผลกรศึกษาที่ชี้ว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีมูลค่าลดลงถึง 51% ในช่วง 3 ปีแรกที่ผ่านการใช้งาน เทียบกับรถเครื่องยนต์สันดาปที่ลดลง 37%

แฮนลีย์ชี้ว่านั่นเป็นอุปสรรคทางฝั่งผู้บริโภค ส่วนข้อจำกัดทางฝั่งผู้ผลิตก็คือยังไม่สามารถควบคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ อีกทั้งยังต้องกระตุ้นยอดขายซึ่งทำให้เกิดการลดราคาจนกลายเป็นสงครามด้านราคาขึ้นมาในที่สุด

“เราได้เห็นบริษัทที่ให้เช่าใช้งาน (subscription) ไม่ต้องการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้า เพราะมีความเสี่ยงมากเกินไป” แฮนลีย์ กล่าว “ความเสี่ยงจะเกิดขึ้นกับผลประกอบการทางการเงิน”

ผู้บริหารชาวออสซี่เผยด้วยว่า Toyota มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญและตระหนักถึงสถานการณ์ในตลาด ไม่ว่าจะเป็นราคา การผลิต และความกังวลของผู้บริโภค

แฮนลีย์ชี้ว่า การที่ Toyota นำเสนอบริการเช่าใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า bZ4X แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ ต้องการลดความเสี่ยงและความกังวลของลูกค้าในการครอบครองรถอีวีที่มีมูลค่ามือสองลดฮวบฮาบอย่างหนักหน่วง