พึ่งขบกันไปไม่นานสำหรับการแข่งขัน F1 ในสนาม Monaco Grand Prix หนึ่งในสนามการแข่งขันที่มีความงดมากที่สุด และมีประวัติศาสตร์มากมาย
แต่ทำไมแฟน ๆ การแข่งรถสูตร 1 หลายคนกลับบอกว่ามันน่าเบื่อกัน?
พึ่งขบกันไปไม่นานสำหรับการแข่งขัน F1 ในสนาม Monaco Grand Prix หนึ่งในสนามการแข่งขันที่มีความงดมากที่สุด และมีประวัติศาสตร์มากมาย
แต่ทำไมแฟน ๆ การแข่งรถสูตร 1 หลายคนกลับบอกว่ามันน่าเบื่อกัน?
บางคนอาจจะกล่าวว่าประวัติศาสตร์ของสนามนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่ตั้งแต่การแข่งขันในสนามนี้ครั้งแรกในปี 1950 จนถึงปี 2022 นี้ก็ผ่านไป 72 ปีแล้ว สนามก็ยังเป็นสนามเดิมอยู่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย
คุณลองนึกภาพดูว่า รถแข่ง F1 เมื่อ 72 ปีที่แล้ว ตัวรถจะมีความยาวประมาณ 3.7 เมตร กว้าง 1.4 เมตร แต่ตัวรถในปัจจุบันนั้นจะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 5.7 เมตร และกว้าง 2 เมตร
นั่นทำให้ตัวใหม่จะต้องขับบนถนนเดิมที่แคบอยู่แล้วได้อย่างยากเย็น
อ่านเพิ่มเติม เผยอัตราค่าแรงลูกทีม F1 Pit Stop
ด้วยสนามแข่งที่แคบ และตัวรถใหญ่ขึ้นนี่เอง ทำให้เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะทำการแซงได้ เพราะคนขับก็ต้องรักษาความปลอดภัยไว้ก่อน
ในปี 2003 ผู้ชนะ Juan Pablo Montoya นั้นเป็นครั้งแรกของการแข่งขันที่ไม่มีการแซงกันเกิดขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว
นอกจากนี้ยังมีสภาพถนนที่ค่อนข้างเด้ง และเป็นพื้นถนนที่มีไว้ให้รถยนต์ใช้งาน ทำให้ F1 ไม่สามารถแสดงขีดจำกัดได้เต็มที่
Sir Lewis Hamilton เคยกล่าวไว้ว่าตัวสนามนั้นยังคงมีเกียรติภูมิของมันอยู่ แต่มันก็แลกมาด้วยความตื่นเต้นของคนดู รวมถึงนักขับด้วย
เขาบอกว่ามันให้ "โอกาสเกือบเป็นศูนย์ในการแซงในการแข่งขัน แต่มันก็เป็นประเด็นมาระยะหนึ่งแล้ว และในความคิดของฉัน มันต้องมีการเปลี่ยนแปลง"
"เราใช้วิธรการเดิม ๆ มาหลายปีแล้ว มันก็เป็นสถานที่ที่ดีที่สุด สวยงามที่สุดที่เราเคยขับมา แต่คุณก็รู้ดีว่ามันไม่น่าตื่นเต้นเอาเสียเลย"
อดีตเจ้านายของ Renault Flavio Briatore ถูกเยาะเย้ยเพราะเคยบอกว่าการแข่งขัน Formula One ควรจะสั้นลง แต่ Monaco Grand Prix นั้นเป็นตัวสนับสนุนทฤษฎีของเขาว่าเป็นเรื่องจริง
แม้ว่าการแข่งขัน Italian Grand Prix ซึ่งเป็นการแข่งขันที่สั้นที่สุดในปฏิทินจะใช้เวลาประมาณ 80 นาที แต่ Monte Carlo อาจใช้เวลานานกว่า 30 นาที ซึ่งทำให้หมดเวลาไปถึงสองชั่วโมง
เนื่องจากไม่มีความน่าตื่นเต้นบนแทร็ก ระยะการแข่งขันจึงมักจะรู้สึกยาวนานกว่า 78 รอบ
อ่านเพิ่มเติม 2023 Mercedes-AMG C43 ตัวแรงพร้อมเทอร์โบโหดแบบรถ F1
เอาเข้าจริง ๆ แล้ว มันก็เป็นเพียงมุมมองของผู้ชมหลาย ๆ คน ที่มักจะคุ้นชินกับความเร็ว และการทำเวลากันอย่างห้ำหั่น แต่พอมาเป็นโมนาโกที่ค่อนข้างช้าและไม่ค่อยมีการแซงจึงมองว่าน่าเบื่อ
แต่ความยากและความแคบของสนามเองก็เป็นการท้าทายอย่างหนึ่ง รวมถึงพื้นถนนแอสฟัลต์ที่ให้การเกาะถนนได้น้อยเมื่อเทียบกับสนามแข่ง
ฉะนั้นแม่ว่ามันอาจไม่ใช่สนามที่สนุกที่สุด แต่สำหรับคนขับแล้วมันก็ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างหนึ่ง