ต้องบอกว่าเมื่อเทคโนโลยี และความต้องการมีมากขึ้น เราก็มักจะได้เห็นรถยนต์เปิดตัวออกมาแข่งความแพง และความแรงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยหากย้อนกลับไปในช่วงปี 2021 มีรถหรูและไฮเปอร์คาร์เปิดตัวกันออกมากมาย ที่ต้องบอกว่าราคาแพงตามความแรงจริง ๆ จะมีคันไหนบ้าง เราจัดมาให้ดู 10 อันดับ
10. Bugatti Chiron Super Sport 300 +
ในปี 2019 Bugatti ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจ ด้วยการทำลายกำแพงความเร็ว 300 ไมล์/ชั่วโมงในรถ Bugatti Chiron Super Sport 300 + ที่ผลิตจำกัดเพียง 30 คัน
Chiron Super Sport 300 + มาพร้อมตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ ตกแต่งแถบสีส้ม มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ที่ด้านหน้า ดิฟฟิวเซอร์หลังขนาดใหญ่ ถอดสปอยเลอร์หลังออกไป ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ W16 ความจุ 8.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ให้กำลังสูงสุด 1,600 แรงม้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ
ราคา 3.9 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 128 ล้านบาท
9. Lamborghini Veneno
เรียกว่าเป็น Lamborghini (ลัมบอร์กินี่) คันเดียวในการจัดอันดับนี้เลยก็ว่าได้ ตัว Lamborghini Veneno ได้เปิดตัวครั้งแรกบนเวที Geneva Motor Show 2013 ในฐานะรถรุ่นพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของบริษัท
มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 740 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 609 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 2.9 วินาที เลือกwfhทั้งคูเป้หรือเปิดประทุน ผลิตออกมาเพียง 14 คันบนโลก และ 1 ในนั้นอยู่ในพิพิธภัณฑ์
ราคา 4.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 144 ล้านบาท
8. Bugatti Bolide
Bugatti Bolide เปิดตัวคร้้งแรกปี 2020 ในรูปแบบคอนเซ็ปคาร์ที่จะมีคันเดียวในโลก พร้อมกับดีไซน์โดดเด่น มีไฟหน้าและไฟท้าย LED รูปตัว X ช่องระบายอากาศรอบคัน สกู๊ปดักลมบนหลังคา ดิฟฟิวเซอร์หลัง สปอยเลอร์สไตล์รถแข่ง และท่อไอเสีย 4 ตัว
แต่ด้วยความต้องการล้นหลามจากลูกค้า ทาง Bugatti จึงได้ตัดสินใจให้ Bolide ผลิตเป็นรถโปรดักชั่นจำกัดเพียง 40 คันเท่านั้น นอกจากนี้ในปี 2021 ยังถูกโหวตให้เป็นไฮเปอร์คาร์ที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย
มาพร้อมกับขุมพลัง Quad-Turbo ขนาด 8.0 ลิตร W16 ที่ให้กำลังสูงสุด 1,850 แรงม้า แรงบิด 1,850 นิวตันเมตร เมื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิงออกเทน 110 ที่ใช้สำหรับการแข่งขัน โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 500 กม./ชม.
ราคา 4.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 160 ล้านบาท)
อันดับที่ 7. Bugatti Divo
Bugatti Divo ถูกผลิตมาในแบบ Limited Edition มีขายเพียง 40 ทั่วโลก และจะขายให้เฉพาะลูกค้าที่เป็นเจ้าของ Bugatti Chiron ที่ได้รับการคัดเลือกเท่านั้น
มีหลาย ๆ สิ่งที่พิเศษมากกว่า ทั้งการออกแบบที่ลู่ลม สามารถสร้างแรงกดอากาศได้มากกว่าถึง 90 กิโลกรัม อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบากว่าถึง 35 กิโลกรัม
ขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์ W16 ความจุ 8.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ให้กำลังสูงสุด 1,500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.4 วินาที และความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 380 กม./ชม
ราคา 5.8 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 191 ล้านบาท
อันดับที่ 6. SP Chaos
บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติกรีซ Spyros Panopoulos Automotive หรือ SP Automotive เคลมว่ารถยนต์รุ่นแรก Chaos นั้นเป็น Ultracar รุ่นแรกของโลก ซึ่งเมื่อดูจากสเปคแล้วก็ไม่น่าแปลกใจนัก
การออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจาก F1 รวมถึงการกล่าวว่ามีออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมี ล้อดีไซน์พิเศษขนาด 21 นิ้ว และ 22 นิ้ว รวมถึงท่อไอเสียทรงสี่เหลี่ยมพิมพ์ 3 มิติช่วยให้ Chaos โดดเด่นจากไฮเปอร์คาร์อื่น ๆ
Chaos มีวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ Earth Version และ Zero Gravity โดยในรุ่นท็อปสุดติดตั้งเครื่องยนต์ V10 ความจุ 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 3,065 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาล 1,984 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ผ่าน เกียร์คลัตช์คู่ 7 หรือ 8 สปีด
หากเป็นรุ่นล่าง ก็จะมีราคา 6.4 ล้านลดอลลาร์ หรือประมาณ 216 ล้านบาท แต่หากเป็นรุรท็อปก็จะมีราคา 14.4 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 479 ล้านบาท
5. Mercedes-Maybach Exelero
Exelero เป็นโปรเจ็กต์ที่ Mercedes-Maybach และ Fulda บริษัทยางในเครือ Goodyear พัฒนาร่วมกัน เพื่อแสดงถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี เปิดตัวคร้งแรกในปี 2004 มีอยู่คันเดียวในโลก
ภายใต้ฝากระโปรงติดตั้งเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 690 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,020 นิวตันเมตร และความเร็วสูงสุด 350 กม.ต่อชม.
ราคา 8 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 254 ล้านบาท
4. Bugatti Centodieci
Bugatti Centodieci ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากซุเปอร์คาร์ระดับไอคอนในยุค 90 อย่าง Bugatti EB110 SS เปิดตัวครั้งแรกในงาน Pebble Beach car week
ตัวรถนี้กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการผลิต และจะถูกผลิตเพียง 10 คันเท่านั้น มีน้ำหนักเบากว่ารถที่ใช้เป็นพื้นฐานอย่าง Chiron ถึง 20 กิโลกรัม
มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ W16 ขนาด 8 ลิตร เทอร์โบ 4 ลูก ระบบขับเคลื่อน All-Wheel Drive จับคู่กับเกียร์ 7 สปีด DSG รีดกำลังได้สูงสุด 1,600 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที มีแรงม้าต่อน้ำหนักที่ 1.13 กิโลกรัม ต่อแรงม้า
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.4 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ในเวลา 6.1 วินาที อัตราเร่ง 0-300 กม./ชม. ในเวลา 13.1 วินาที Top speed สูงสุดที่ 380 กม./ชม. (ถูกจำกัดไว้)
ราคา 9 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 297 ล้านบาท
3. Rolls-Royce Sweptail
จะจัดอันดับรถยนต์แพง แต่ไม่มี Rolls Royce ก็คงไม่ได้ โดย Sweptail ใช้เวลาพัฒนามากกว่า 4 ปี สั่งทำพิเศษแบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง มีคันเดียวในโลก
ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ V12 6.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 459 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 720 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
ราคา 12.8 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 407 ล้านบาท
อันดับที่ 2. Bugatti La Voiture Noire
แชมป์เก่าในหลาย ๆ ปี และด้วยค่าตัวแล้วก็น่าจะอยู่ในอันดับรถแพงอีกนาน La Voiture Noire มีความหมายในภาษาฝรั่งเศษว่า “รถยนต์สีดำ” สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Chiron
เครื่องยนต์แบบ W16 8.0 ลิตร เทอร์โบ 4 ลูก ให้กำลังได้สูงสุด 1,500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ที่ 2.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 420 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ราคา 18.7 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 598 ล้านบาท มีการกล่าวว่าผู้ที่ซื้อไปก็คือนักเตะแข้งทอง Cristiano Ronaldo
อันดับที่ 1. Rolls-Royce Boat Tail
ไม่แปลกใจนักที่ Rolls-Royce Boat Tail จะกลายเป็นรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลก เพราะรถรุ่นนี้สั่งทำพิเศษ ได้รับแรงบันดาลใจจากเรือยอร์ชระดับ J Class จะมีทั้งหมด 3 คันในโลก 1 ในนั้นมีข่าวลือว่าขายให้กับนักร้องแรปเปอร์ชื่อดัง Jay-Z และภรรยา Beyonce
Boat Tail มาพร้อมภายนอกที่แบบทูโทน ไฟหน้าเส้นหนาแนวนอน ด้านหลังตกแต่งด้วยแผงไม้วีเนียร์ มาพร้อมตู้แช่เย็นใส่แชมเปญ ร่มกันแดด โต๊ะด้านหลังตกแต่งด้วยไม้ และเก้าอี้บาร์สูงที่ทำจากเส้นใยไฟเบอร์
ทาง Rolls-Royce ไม่ได้มีการกล่าวถึงสเปคเครื่องยนต์ แต่มีการคาดเดาว่าเป็นเครื่อง 6.7 ลิตร V12 ให้กำลัง 563 แรงม้าใน Cullinan
ราคา 28.0 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 890 ล้านบาท