เปิดสูตรคำนวนต่อภาษีรถยนต์ประจำปี 2564 ใครยังไม่ได้ต่อรีบไปทำกันนะ

สิ่งที่ผู้ใช้รถยนต์ทำกันทุกปีจนชิน คือการไปต่อภาษีหรือต่อทะเบียนรถยนต์ ซึ่งเราก็จ่ายกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่หลายคนอาจยังสงสัย ว่าเขามีวิธีคำนวนกันอย่างไร 

เรามาดูวิธีคำนวณภาษีรถยนต์ปี 2564 ที่ผู้ใช้รถต้องรู้กันครับ

ต่อภาษีรถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง

1. คู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริงหรือสำเนา
2. หลักฐานการทำประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือที่เรียกว่า หาง พรบ.
3. หากเป็นรถที่เข้าข่ายต้องตรวจสภาพให้นำเข้าตรวจกับสถานตรวจสภาพรถเอกชนให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งได้แก่

• รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
• รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป
• รถที่ติดตั้งแก๊สต้องมีหนังสือรับรองการตรวจสอบและทดสอบตามระยะเวลาที่กำหนด

รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง

หรือก็คือรถเก๋งทั่วไป และรถกระบะ 4 ประตู รถประเภทนี้จะระบุง่ายๆ ก็คือ มีพื้นหลังของป้ายทะเบียนสีขาว ตัวอักษรสีดำ

ทางกรมการขนส่งทางบกจะคิดราคาภาษีตามพิกัดเครื่องยนต์ หรือซีซี.รถนั่นเอง (ยิ่งรถแรงก็จะยิ่งแพง)
โดยมีเกณฑ์ดังนี้

• 600 ซีซีแรก คิด ซีซีละ 0.50 บาท
• 601 – 1,800 ซีซี คิด ซีซีละ 1.50 บาท
• เกิน 1,800 ซีซี คิด ซีซีละ 4.00 บาท

นอกจากนี้ หากรถของคุณมีอายุเกิน 6 ปีขึ้นไป จะได้รับส่วนลดค่าภาษีด้วยเช่นกัน ดังนี้

• ปีที่ 6 ส่วนลด 10%
• ปีที่ 7 ส่วนลด 20%
• ปีที่ 8 ส่วนลด 30%
• ปีที่ 9 ส่วนลด 40%
• ปีที่ 10 ขึ้นไป ส่วนลด 50%

อย่างเช่น หากคุณขับ Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) เครื่องยนต์ 1200 ซีซี. อายุ 3 ปี จะมีวิธีคิดดังนี้

• 600 ซีซีแรก ซีซีละ 0.50 บาท = 600 x 0.5 = 300 บาท
• ซีซี. ที่ 601 – 1200 ซีซีละ 1.50 บาท = 599 x 1.50 = 898.50 บาท
• และรถยังมีอายุ 3 ปี เลยยังไม่ได้การลดหย่อนภาษี

เท่ากับภาษีที่ต้องจ่ายสำหรับ Suzuki Swift คันนี้คือ 300 + 898.5 = 1198.50 บาท นั่นเองครับ

หรือ BMW รุ่น 330 อายุรถ 4 ปี เครื่องยนต์ 2,979 cc

• 600 ซีซี แรก ซีซีละ 0.5 สตางค์ = 600 x 0.5 = 300 บาท
• 601-1800 ซีซีละ 1.50 บาท = 1200 x 1.50 = 1,800 บาท
• ส่วนที่เกินจาก 1800 ซีซีละ 4 บาท = 2,979 – 1,800 = 1179 x 4.00 = 4,716 บาท

รวมค่าภาษีทั้งหมดที่ต้องจ่าย = 300 + 1,800 + 4,716 บาท = 6,816 บาท

รถยนต์ประเภทบรรทุกส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง

ในประเภทนี้ จะเป็นรถตู้ขนาดเล็ก Mini MPV เช่น Toyota Avanza (โตโยต้า อแวนซ่า) หรือ Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอกซ์แอล 7)

และ PPV อย่าง Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต) หรือ Isuzu MU-X (อ๊ซูซุ มิวเอกซ์)

รถประเภทนี้จะคิดค่าภาษีจากน้ำหนักรถ โดยมีเกณฑ์ดังนี้

• น้ำหนักรถ 751 – 1000 กก. อัตราภาษี 600 บาท
• น้ำหนักรถ 1001 – 1250 กก. อัตราภาษี 750 บาท
• น้ำหนักรถ 1251 – 1500 กก. อัตราภาษี 900 บาท
• น้ำหนักรถ 1501 – 1750 กก. อัตราภาษี 1,050 บาท
• น้ำหนักรถ 1751 – 2000 กก. อัตราภาษี 1,350 บาท
• น้ำหนักรถ 2001 – 2500 กก. อัตราภาษี 1,650 บาท

รถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง

หรือก็คือรถตู้ MPV เช่น Toyota Majesty (โตโยต้า มาเจสตี้) และ Hyundai H1 (ฮุนได เอช1) 

การคำนวณภาษีจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักรถ แต่จะมีการคิดอัตราภาษีแตกต่างจากแบบรถบรรทุก โดยมีรายละเอียดดังนี้

• น้ำหนักรถไม่เกิน 1800 กิโลกรัม – อัตราภาษี 1,300 บาท
• น้ำหนักรถเกิน 1800 กิโลกรัม – อัตราภาษี  1,600 บาท

อย่าลืมไปต่อกันนะ

นอกจากนี้ คุณยังสามารถทำการเสียภาษีประจำปีล่วงหน้าได้ 3 เดือนก่อนทะเบียนจะขาด แต่ถ้าหากทะเบียนขาดไปแล้ว จะมีค่าปรับเดือนละ 1% 

และถ้าหากทะเบียนขาดเกิน 3 ปี รถจะถูกระงับการใช้งานทันที ต้องเสียค่าปรับย้อนหลังและทำเรื่องจดทะเบียนใหม่ จะทำให้เสียเวลาอย่างมาก

อีกทั้งหากถูกเจ้าหน้าที่จับระหว่างทะเบียนขาด จะมีการดำเนินคดี ค่าปรับอยู่ที่ 10,000-20,000 บาท เพราะฉะนั้นหากใครยังไม่ได้ไปต่อทะเบียน รีบไปต่อกันนะครับ เสียเวลานิดเดียว ดีกว่าเสียเป็นหมื่นกันนะครับ