รถยนต์อเนกประสงค์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้มีตัวเลือกมากมายหลายรุ่น พร้อมกับความสับสนในการจำแนกนิยามว่าตกลงแล้วคันไหนเป็นรถเอสยูวีและรถครอสโอเวอร์
หลายคนให้คำจำกัดความของรถครอสโอเวอร์ว่าต้องพัฒนาบนพื้นฐานของรถยนต์นั่งอย่าง Honda HR-V ขณะที่รถเอสยูวีควรเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีความบุกสมบันแบบ Toyota Fortuner แต่เส้นแบ่งของรถแต่ละประเภทเลือนรางลงทุกขณะ และอาจใช้ไม่ได้ในยุคสมัยปัจจุบัน
ล่าสุด โยชิโตโมะ อิฮาชิ หัวหน้าทีมพัฒนา 2022 Honda HR-V ใหม่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยเฉพาะความแตกต่างระหว่างรถครอสโอเวอร์และรถเอสยูวี
“หากผมจำไม่ผิด เมื่อ 10 ปีที่แล้ว รถเอสยูวีจะต้องมีความแข็งแกร่ง รถมินิแวนคือรถมินิแวน กล่าวคือการจำแนกประเภทรถจะอยู่ที่สไตล์ตัวถัง แต่ปัจจุบัน รถยนต์มีการผสมผสานกันมากขึ้น และผู้คนเรียกมันว่ารถครอสโอเวอร์” อิฮาชิซัง กล่าว
แล้ว Honda HR-V คือรถประเภทใด
อิฮาชิซัง ชี้ว่า หากเป็นรถยกสูงแต่ยังมีความสปอร์ต ผู้คนมักเรียกว่าเป็นรถครอสโอเวอร์ แต่จากมุมมองของ Honda และจากแนวคิดของทีมพัฒนา รถอย่าง HR-V คือรถคอมแพ็กต์เอสยูวี
“การให้คำจำกัดความนั้นขึ้นอยู่กับแนวคิดและแผนงานของทีมนักพัฒนา สำหรับ HR-V นั้นเราพยายามนำเสนอคุณค่าในแบบรถคอมแพ็กต์เอสยูวี” อิฮาชิซังกล่าวเพิ่มเติม
หนึ่งในหัวใจหลักของงานดีไซน์ HR-V คือความลาดเอียงของตัวถังซึ่งเหมือนกับรถคูเป้ (ตอกย้ำด้วยการซ่อนมือจับเปิดประตูหลัง) ส่วนเส้นสายหลังคาก็ค่อนข้างต่ำ ทั้งหมดบ่งชี้ว่านี่คือรถครอสโอเวอร์ แต่ทีมงานของ Honda ยืนยันว่าไม่ใช่
อิฮาชิ เปิดเผยว่า แท้จริงแล้วไม่มีคำจำกัดความของรถครอสโอเวอร์ แต่ขึ้นอยู่กับทีมงานของแต่ละบริษัทว่าต้องการสร้างภาพตัวรถให้เป็นแบบใด
รถครอสโอเวอร์ซึ่งแปลรวม ๆ ได้ว่า “การข้ามสายพันธุ์” มักถูกใช้กับรถอเนกประสงค์ที่มีตัวถังยกสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก หรือออกนอกเมืองก็ได้แต่ไม่ใช่เส้นทางออฟโรด
Honda CR-V เจนเนอเรชั่นที่แล้วถูกเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาด้วยการใช้คำทางการตลาดว่ารถครอสโอเวอร์ ซึ่งเข้าใจได้เนื่องจากในแดนมะกันยังมีรถอเนกประสงค์อีกหนึ่งรุ่นคือ Passport ที่มีความสมบุกสมบันมากกว่าจึงได้รับคำนิยามว่าเป็นรถเอสยูวี
แต่พอมาถึง CR-V เจนเนอชั่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวก็มีการใช้คำว่าเอสยูวีแทน บ่งบอกถึงการเป็นกิมมิคทางการตลาดมากกว่าการแบ่งประเภทตัวรถอย่างจริงจัง
คำว่า “เอสยูวี” ถือกำเนิดขึ้นในฝั่งสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายทศวรรษ 1980 โดยทีมมาร์เก็ตติ้งของ Jeep เพื่อแบ่งแยกระหว่าง Jeep Cherokee ที่เหมาะกับครอบครัวออกจาก Jeep Wrangler ซึ่งเป็นรถ 4x4 รองรับการใช้งานบนทางออฟโรด
เอสยูวีได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วงทศวรรษ 1990 เมื่อ Ford ใช้คำนี้กับ Ford Explorer ที่มีภาพลักษณ์นุ่มนวลกว่า Ford Bronco
หากย้อนดูประวัติศาสตร์ข้างต้น จึงสามารถทำความเข้าใจได้ว่านนิยามรถครอสโอเวอร์ถูกกำหนดขึ้นเพื่อสร้างความแตกต่างจากรถเอสยูวี โดยจะใช้กับรถอเนกประสงค์ที่เล็กกว่าและมีภาพลักษณ์เหมาะกับเมืองใหญ่
มิพักต้องพูดถึงการสร้างนิยามใหม่ตามใจชอบของฝ่ายการตลาด อย่าง BMW ที่กำหนดคำว่า SAV หรือ Sports Activity Vehicle
สรุปแล้วการให้คำนิยามรถอเนกประสงค์แทบไม่มีความหมายในปัจจุบัน เพราะเป็นลูกเล่นของฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดที่ต้องการหาช่องว่างเพื่อแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ มีหน้าที่แค่หาเงินและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ตัวเอง