Aston Martin DBX (แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอ็กซ์) เอสยูวีคันแรกจากค่ายรถสปอร์ตเมืองผู้ดีอังกฤษ เปิดสายการผลิตเมื่อปี 2020 สองปีต่อมา Aston Martin ได้ออกสายการผลิตรถรุ่นถัดมาที่ได้ชื่อว่าเป็น SUV ที่แรงที่สุดในโลก
รถคันนั้นมาในชื่อว่า Aston Martin DBX707 โดยจะใช้แพลทฟอร์มร่วมกันกับ DBX นอกจากขุมพลังแล้ว ความแตกต่างระหว่าง DBX707 กับ DBX มีตั้งแต่ภายนอกไปจนถึงภายใน
Michael Straughan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Aston Martin กล่าวว่า “Aston Martin ภูมิใจอย่างยิ่งที่จะได้มีการผลิตผลิตภัณฑ์ชั้นนำของอุตสาหกรรม เช่น DBX707 จากโรงงานระดับโลกในเวลส์ เรามีความยินดีที่รถยนต์รุ่นแรกเสร็จสมบูรณ์”
“DBX707 คือสัญลักษณ์ของยุคใหม่ของ Aston Martin และความสามารถของบริษัทในการรวมเอาความหรูหราพิเศษและสมรรถนะสูงเข้าไว้ด้วยกัน”
อัพเกรดทุกอย่างจาก DBX ปกติ
ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้น ไฟเดย์ไลท์แบบใหม่ และช่องดักอากาศที่กันชนหน้าซึ่งทำหน้าที่ระบายความร้อนเบรกได้ด้วย รวมถึงสปลิตเตอร์ด้านหน้ายังมีรูปแบบที่แตกต่างจาก DBX ปกติ
ภายในมาพร้อมเบาะนั่งแบบสปอร์ตเป็นมาตรฐาน คอนโซลด้านหน้าของรถถูกปรับปรุงใหม่ให้สามารถใช้ปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ให้สะดวกสบายยิ่งขึ้นแทนการต้องไปค้นหาในหน้าจอ นอกจากนี้ ในโหมดการขับขี่ยังมีระบบ active exhaust ที่ปรับเสียงท่อได้ขณะอยู่ในโหมด Sport
ในทางกลับกัน เมื่อมองในภาพรวมแล้วอาจมีบางอย่างที่หลายคนผิดหวัง เช่น ซอฟท์แวร์ระบบ infotainment ที่ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบมาจาก Mercedes-Benz อาจยังดูหรูหราไม่สมกับราคา เพราะไม่มีแม้แต่หน้าจอสัมผัส
ขุมพลังจาก AMG
ขุมพลังของ DBX707 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ความจุ 4.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 697 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 900 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดพร้อมคลัตช์แบบเปียกและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.3 วินาที
รถคันนี้ยังสามารถทำความเร็วสุงสุดได้ที่ 310 กม./ชม. ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับรถที่มีน้ำหนักราว 2.24 ตัน ซึ่งส่งผลให้ DBX707 เป็นเอสยูวีที่ทรงพลังที่สุดของปีนี้ หากไม่นับรวมรถพลังงานไฟฟ้าอย่าง Tesla Model X Plaid ที่มีพละกำลังกว่า 1,020 แรงม้า
นอกจากนี้ยังมีการอัพเกรดแชสซี ระบบส่งกำลัง รวมถึงระบบเบรคและช่วงล่างให้รองรับกับความแรงที่เพิ่มขึ้นนี้อีกด้วย
DBX707 มาพร้อมกับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 189,000 ปอนด์ หรือประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับรถคันหนึ่งที่แม้จะมีขุมพลังจาก AMG แล้วก็ตาม
ความภูมิใจของชาวอังกฤษ เพราะผลิตในเวลส์
ผู้ผลิตรถยนต์จากอังกฤษกล่าวว่าลูกค้ากว่า 50 ประเทศทั่วโลกได้สั่งซื้อ DBX707 แล้ว จึงเป็นผลให้มีการคัดเลือกช่างเทคนิคยานยนต์ใหม่ 100 คนที่ St Athan เพื่อรองรับการผลิตที่จะเกิดขึ้นในเวลส์
Simon Hart เลขาธิการแห่งเวลส์ กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องดีที่เห็นแบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ได้เริ่มสายผลิตในเวลส์ ก่อนที่จะได้ส่งออกไปยังประเทศทั่วโลก”
“ความสำเร็จของ DBX707 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงทีมงานที่มีทักษะสูงและทำงานหนัก และมันน่าทึ่งมากที่ได้เห็นว่าพวกเขาทำงานอย่างไร”
หลังจากเริ่มการผลิต Aston Martin DBX707 ในไตรมาสนี้แล้ว จะพร้อมส่งมอบในช่วงต้นไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ หากเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้
อ่านเพิ่มเติม : เจมส์ บอนด์ในชีวิตจริง! บริษัทในสหรัฐฯ หุ้มเกราะ Aston Martin Vantage และยังซิ่งได้อยู่!