Aston Martin Bulldog หนึ่งในรถยนต์แบรนด์แอสตัน มาร์ตินที่มีชื่อเสียงตลอดกาล เพราะเป็นหนึ่งในรถต้นแบบที่หายสาบสูญไป ได้กลับขึ้นมาคืนชีพอีกครั้ง และทำความเร็วสูงสุดได้อย่างที่หวังแล้ว

โดยทีมงานที่อยู่เบื้องหลังของการคืนชีพของ Bulldog คันนี้รายงานว่า รถคันนี้สามารถข้ามผ่านความเร็วที่ 200 ไมล์/ชม. (322 กม./ชม.) ได้แล้ว ซึ่งใช้เวลาถึง 44 ปีเลยทีเดียว 

• ความตั้งใจแรกคือ 237 ไมล์/ชม.
• ไม่เป็นดังหวังในปี 1979
• ถูกนำมาคืนชีพอีกครั้ง และสำเร็จแล้วหลังผ่านมา 44 ปี

ตั้งใจให้ไปถึง 237 ไมล์/ชม.

Aston Martin มีความตั้งใจให้ Bulldog เป็นรถที่เร็วที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 1979 ขณะนั้นจึงมีการเคลมถึงความเร็วสูงสุดของรถคันนี้ขึ้น แต่ก็ยังทำไม่ได้สักที จนสามารถทำได้จริงหลังการคืนชีพด้วยทีมงานคุณภาพในวันนี้

ขณะนั้น Aston Martin ต้องการที่จะเป็นแบรนด์รถซุปเปอร์คาร์อย่างเต็มตัว จึงมีการทำรถคันนี้ขึ้น Victor Gauntlett บอสใหญ่ของแอสตัน มาร์ตินในขณะนั้น มีความเชื่อมั่นอย่างมากว่า เครื่องยนต์ V8 ขนาด 700 แรงม้า ที่มีเทอร์โบจาก Garret นั้นจะทำให้ Bulldog สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 237 ไมล์/ชม. (381 กม./ชม.)

ไม่เป็นดังหวังในปี 1979

หลังจากนั้น เขาวางแผนที่จะจำหน่าย Bulldog ในจำนวนจำกัดที่ราว 15 - 25 คันด้วยกัน แต่การทดสอบในขณะนั้นพบว่า Bulldog สามารถทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 191 ไมล์/ชม. (307 กม./ชม.) เท่านั้น โดยถึงแม้จะสามารถทำลายสถิติโลกในขณะนั้นได้ แต่ก็ยังต่ำกว่าที่คาดหวังไว้

หลังจากนั้น Aston Martin ก็ประสบปัญหาด้านการเงินจึงจำเป็นต้องปิดโครงการ Bulldog ไปและไม่ได้ผลิตจริง มีเพียงรถต้นแบบคันเดียวเท่านั้นที่ถูกขายออกไปเพื่อชดเชยค่าใช้จ่าย

ถูกนำมาคืนชีพอีกครั้ง

Richard Gauntlet ลูกชายของ Victor เชื่อว่ารถคันนี้ถูกขายให้กับนักสะสมรถชาวตะวันออกกลาง หลังจากเขาได้ค้นหารถคันนี้มาแรมปี เขาก็ได้พบแล้ว

เขาพบรถในปี 2020 และเห็นว่า Aston Martin Bulldog คันนี้มีสภาพที่ต่างจากรถเรโทร-ฟิวเจอริสติคที่เคยเห็นในตอนนั้นมาก เพราะรถถูกเปลี่ยนแปลงไปหลายครั้งและเคยถูกทิ้งมาอย่างยาวนาน สิ่งที่น่ากังวลที่สุดในขณะนั้นคือเครื่องยนต์ยังสามารถทำงานได้อยู่หรือไม่

แต่แล้วก็ได้รับความช่วยเหลือจาก CMC (Classic Motor Cars) และความช่วยเหลือจากเจ้าของใหม่ Gauntlet จึงสามารถฟื้นคืนชีพ Bulldog ขึ้นมาได้อีกครั้ง 

โดยก่อนที่พวกเขาจะบูรณะรถคันนี้จนเสร็จสมบูรณ์ พวกเขาได้ตั้งเป้าหมายที่จะให้รถคันนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 200 ไมล์/ชม. (322 กม./ชม.) ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ตั้งใจไว้สำหรับการสร้างรถคันนี้ตั้งแต่แรก

การบูรณะตัวรถเสร็จสิ้นในเดือนกันยายน ปี 2021 และ Bulldog ได้ไปจัดแสดงในงาน Concours d'Elegance ที่พระราชวังแฮมป์ตันคอร์ต

สำเร็จแล้วหลังผ่านมา 44 ปี

ตั้งแต่วันนั้น รถคันนี้ก็ถูกเตรียมตัวเพื่อการทำลายสถิติเดิม ซึ่งสามารถทำสำเร็จได้ในวันที่ 6 มิถุนายน 2023 ที่รันเวย์ในสกอตแลนด์ ตามรายงานของ CMC

CMC ระบุในโซเชียลมีเดียว่า “เราทำได้ 205.4 ไมล์/ชม.แล้ว!!!!!” และระบุต่อไปว่า

“หลังจากการบูรณะและการเตรียมการนับพันชั่วโมงโดยทีมงานที่ Classic Motor Cars Limited การรอคอยกว่า 40 ปีนั้นสิ้นสุดลงแล้วสำหรับรถคันนี้ที่บรรลุเป้าหมายอย่างที่คิดไว้แต่แรก มันเกิดขึ้นวันนี้ที่รันเวย์ในสกอตแลนด์ ช่างเป็นรถและทีมที่ดีอะไรเช่นนี้!”

แม้ว่า Aston Martin Bulldog จะไม่สามารถทำความเร็วสูงสุดอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ 1979 จนเพิ่งมาทำในวันนี้ แต่รถคันนี้ก็ยังถือว่าเป็นตำนาน และสิ่งที่รถคันนี้ทำในวันนี้นั้นน่าประทับใจอย่างมากหากเราคำนึงถึงอายุและประวัติของรถคันนี้

อ่านเพิ่มเติม: เหตุใด Bugatti Veyron 16.4 Grand Sport Vitesse ครองสถิติท็อปสปีดนาน 10 ปีเต็ม