Lawrence Stroll หัวเรือใหญ่ของ Aston Martin (แอสตัน มาร์ติน) ยืนยันแล้วว่าในอนาคต รถยนต์รุ่นหลักของแบรนด์ทุกรุ่นจะมาพร้อมขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) แน่นอน เริ่มจากการเปิดตัวซุปเปอร์คาร์อย่าง Valhalla ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Racing Green ของแบรนด์
สะพานเชื่อมไปยัง EV
ในระหว่างการรายงานผลประกอบการครึ่งแรกประจำปี 2023 ของ Aston Martin นั้น Lawrence Stroll ได้กล่าวว่า
“เส้นทางแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าของเราจะเริ่มต้นด้วย Valhalla ซูปเปอร์คาร์ PHEV คันแรกของเรา และเราวางแผนที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ PHEV ไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักของเราซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมการเดินทางของลูกค้าจาก ICE ไปยัง BEV แบบเต็มตัว”
แผนของการค่อย ๆ นำไฟฟ้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบขับเคลื่อนนั้นจะตามมาด้วย DBX , DB12 ไปจนถึง Vantage และ DBS เป้าหมายของการนำขุมพลัง PHEV เข้ามานั้นเป็นการเชื่อมช่องว่างระหว่างเครื่องยนต์สันดาปที่มีในปัจจุบันและรถยนต์ไฟฟ้า BEV ในอนาคตนั่นเอง
ขุมพลังจาก Mercedes-AMG เช่นเคย
รายงานโดย Autocar ระบุว่า ขุมพลัง PHEV นั้นจะนำมาจาก Mercedes-AMG ซึ่งเป็นผู้จัดหาเครื่องยนต์ V8 ให้กับ Aston Martin ตั้งแต่ 2016 สำหรับรายละเอียดของเครื่องยนต์ใหม่นี้ยังไม่มีการยืนยัน
แต่ก็อาจจะใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตรทวินเทอรโบ พ่วงด้วยมอเตอร์ขับเคลื่อนที่ล้อหลัง ซึ่งพบในรุ่นเรือธงของ Mercedes-AMG ในรุ่นย่อย E-Performance และคาดว่าจะใช้ในซุปเปอร์คาร์รุ่นแรกของแบรนด์อย่าง Aston Martin Valhalla
Aston Martin Valhalla
ซึ่งขุมพลัง PHEV ที่แรงที่สุดนั้นพบในรถคูเป้ 4 ประตูอย่าง Mercedes-AMG GT 63 E-Performance ซึ่งให้กำลังสูงสุด 831 แรงม้า และแรงบิด 1,400 นิวตันเมตร แต่ Aston Martin ยืนยันว่าขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดของ Valhalla จะปรับปรุงให้แรงขึ้นจนถึง 986 แรงม้าเลยทีเดียว
ส่วนรถขุมพลัง PHEV รุ่นอื่น ๆ ก็มีกำลังสูงสุดที่ลดหลั่นกันมา และระยะทางขับขี่ในโหมด EV ที่วิ่งไฟฟ้าล้วนนั้นจะขึ้นกับแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับรถแต่ละรุ่น
Aston Martin DB12
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Stroll ยืนยันว่าจะเปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นใหม่อีก 8 รุ่นภายใน 2 ปีข้างหน้า เราจะเห็นได้ว่ามีแผนการเปิดตัว DB12 ไปแล้วในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา ส่วน Vantage และ DBS รุ่นถัดไปคาดว่าจะเปิดตัวในอีก 15 เดือนข้างหน้า ซึ่งตัวเลขเหล่านี้น่าจะต้องมีรุ่นขุมพลัง PHEV อยู่ในนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีรายงานว่าเอสยูวีอย่าง DBX จะมีการเปลี่ยนโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2024 พร้อมด้วยการเพิ่มตัวเลือกของขุมพลัง PHEV เข้ามา ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของ Aston Martin คาดว่าจะเปิดตัวไม่เกินช่วงปี 2026 โดยใช้แบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าที่พัฒนาโดย Lucid
Valhalla เป็นรุ่นเดียวที่ยืนยันว่าเป็น PHEV ในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม ข่าวที่รายงานโดย Autocar ว่าโมเดลหลักของ Aston Martin ทั้งหมดจะมีตัวเลือกขุมพลัง PHEV ภายในปี 2024 นั้น ภายหลังมีอีเมลที่ส่งถึงสำนักข่าวนี้โดยตรงเพื่อชี้แจงว่า รถขุมพลัง PHEV รุ่นแรกของแบรนด์ ซึ่งก็คือ Valhalla จะเป็นรุ่นเดียวที่มีแผนเปิดตัวในปี 2024
ส่วนรถโมเดลหลักรุ่นอื่น ๆ จะมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้ารูปแบบใดนั้น จะมีการประกาศให้ทราบในภายหลัง
อ่านเพิ่มเติม: เหตุใด Aston Martin จึงจับมือกับบริษัทจีน Geely เพื่อผลิตชิ้นส่วนสำคัญภายในรถ?